ทำเนียบ 17 ธ.ค.- “พล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พิจารณาผ่าน EIA 6 โครงข่ายคมนาคมสำคัญ อำนวยความสะดวกแก้ปัญหาจราจร ย้ำ มาตรการป้องกัน คุมเข้มแหล่งกำเนิด PM 2.5
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 5/64 โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้ร่วมพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม( EIA ) จำนวน 6 โครงการ ประกอบด้วย การพัฒนาโครงข่ายคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน แก้ไขปัญหาการจราจร จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ โครงการเชื่อมถนนนครอินทร์ – ศาลายา โครงการทางหลวงพิเศษ ส่วนต่อขยายอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน โครงการทางเสี่ยงเมืองอำนาจเจริญ (ด้านทิศตะวันตก) โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 (สายเหนือและสายใต้) เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตลิ่งชัน – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ที่ประชุมได้พิจารณาโครงการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย ได้แก่ โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย จังหวัดนครราชสีมา (สูงเนิน) ระยะที่ 1 และ 2 และได้พิจารณา การขอขยายระยะเวลาการกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ออกไปอีก 6 ปี การปรับปรุงประกาศกระทรวงฯ เกี่ยวกับการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการยื่นรายงานทางอิเล็กทรอนิกส์ และการกำหนดมาตรฐานความทึบแสงของเขม่าควัน จากปล่องเตาเผาศพให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งได้พิจารณานโยบายและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ได้แก่ แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัดปี 66 และแผนเฉพาะกิจ เพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 65 ภายใต้แนวคิด “1 สื่อสาร 5 ป้องกัน และ 3 เผชิญเหตุ” และรับทราบรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมปี 64 ซึ่งภาพรวมทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ขึ้น เว้น ปริมาณขยะพลาสติกและมูลฝอยติดเชื้อเพิ่มขึ้น
พล.อ.ประวิตร ย้ำในที่ประชุมให้เปิดกว้างรับฟังและให้ประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงตั้งแต่ต้น พร้อมแสดงความห่วงใยถึงสถานการณ์มลพิษด้านฝุ่นละออง โดยขอให้หน่วยเกี่ยวข้อง แจ้งเตือนและเร่งแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในช่วงเกิดสถานการณ์ โดยเน้นมาตรการป้องกันและให้พร้อมเผชิญเหตุระดับพื้นที่ในการควบคุมแหล่งกำเนิด ทั้งจากยานพาหนะและอุตสาหกรรมในเขตเมืองและเขตอุตสาหกรรม รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมไฟป่าและปริมาณไม่ให้สูงเกินมาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน. สำนักข่าวไทย