ศบค.เคาะลดเวลาเคอร์ฟิว 5 ทุ่ม-ตี3

ทำเนียบฯ 14 ต.ค.-ศบค.ลดเวลาเคอร์ฟิว 5 ทุ่ม-ตี 3 ปรับลดพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 23 จังหวัดร้านสะดวกซื้อ-ห้าง-โรงหนัง เปิดได้ถึง 4 ทุ่ม อนุญาตจัดประชุม-สัมมนา-งานประเพณีไม่เกิน 500 คน เริ่ม 16 ต.ค.นี้ ยังไม่เปิดผับ-บาร์ 

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 (ศบค.) แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีแลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ศบค.เห็นชอบการปรับพื้นที่สถานการณ์และปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่โดยจากการติดตามประเมินผลการจัดระเบียบพื้นที่ การปรับมาตรการให้เปิดบางกิจกรรมและกิจการในช่วงที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโดยมีแนวโน้มดีขึ้นในประเทศ และหลายจังหวัดติดเชื้อในบางอำเภอหรือบางพื้นที่เท่านั้น และมีการกระจายในชุมชนครอบครัว สถานประกอบการโรงงาน ตลาด แคมป์ก่อสร้าง และโรงเรียน จำนวนผู้ป่วยหนักเริ่มลดลง ผู้เสียชีวิตยังพบอย่างต่อเนื่อง แต่เริ่มคงที่ เนื่องจากมีการเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ขณะนี้ประมาณ 50% สำหรับเข็มที่หนึ่ง กลุ่มผู้สูงอายุมีความครอบคลุมการได้รับวัคซีนประมาณ 60% หลายจังหวัดได้มากกว่า 70% ดังนั้นจึงควรมีการปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร และมาตรการป้องกันและควบคุมโรค เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงปกติและลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบให้มีการปรับจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)จาก 29 จังหวัดเป็น 23 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา ระยอง ราชบุรี สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสระบุรี

ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง)จาก 37 จังหวัดเป็น 30 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครราชสีมา นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี มหาสารคาม ระนอง ลพบุรี ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี และเพชรบูรณ์


ขณะที่พื้นที่ควบคุม(สีส้ม) จาก 11 จังหวัดเป็น 24 จังหวัดประกอบด้วย กระบี่ กำแพงเพชร นครพนม น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร  ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สุโขทัย หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานีและอำนาจเจริญ

นอกจากนี้ ศบค. ยังเห็นชอบการปรับเงื่อนไขมาตรการ สำหรับกิจการและกิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่เปิดให้บริการประกอบด้วย 1.การห้ามออกนอกเคหสถาน เวลาเดิม 22.00-04.00น. ปรับเป็น 23.00-03.00 น.อย่างน้อย 15 วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการผู้ทำมาหากินในตลาดโต้รุ่ง ได้กลับมาสู่วิถีชีวิตเดิม โดยจะเริ่มในวันที่ 16 ต.ค.นี้ 2.ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด เดิมเปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 21.00 น.(จำหน่ายเฉพาะเครื่องอุปโภคบริโภค) ปรับเป็นเปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 22.00 น.จำหน่ายได้ทุกประเภทสินค้า เปิดบริการ เครื่องเล่น สวนสนุกได้ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ 3.กิจการอื่นๆ ที่เปิดทำการ โดยกำหนดเวลา เช่น ธุรกิจโรงภาพยนตร์หรือฉายภาพยนตร์ ร้านอาหารโรงละคร โรงมหรสพ (ลิเก งิ้ว ลำตัด หรือการแสดงพื้นบ้านอื่นๆ) สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า เวลาเดิมเปิดได้ถึงเวลา 21.00 น. ปรับเป็นเปิดดำเนินการตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น. แต่ยังเน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง

ส่วนสถานที่เล่นกีฬาหรือ แข่งขันกีฬา ในพื้นที่เข้มงวดและสูงสุด เปิดดำเนินการได้ทุกประเภท กีฬา ตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมจัดการฯ โดยกีฬาในร่มแข่งขันได้ ไม่มีผู้ชม และกีฬากลางแจ้ง แข่งขันได้ มีผู้ชม ไม่เกิน 25% ผู้ชมได้รับวัคซีน ครบตามเกณฑ์ หรือมี ATK และ RT- PCR ผลเป็นลบ ภายใน 72 ชั่วโมง กรณีแข่งขันให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมการกรุงเทพฯพิจารณา รวมถึงพื้นที่ควบคุมสูงสุด เปิดตามเวลาปกติ แต่ไม่เกิน 22.00 น. จัดการแข่งขันได้ โดยจำกัดผู้ชม  4.สถานดูแลผู้สูงอายุ เดิมให้รับเฉพาะที่อยู่ประจำไม่เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับ ปรับเป็นให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้ โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ โดยบุคลากรต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และส่งตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ ขณะที่ผู้ใช้บริการต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ด้วยเช่นกัน และ 5.การขนส่งสาธารณะทุกประเภท เดิมความจุ 75% ของยานพาหนะ ปรับเป็นเพิ่มความจุตามความสามารถของยานพาหนะ โดยให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแล 6.ศูนย์แสดงสินค้าศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ในลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้าและโรงแรม เปิดบริการจัดประชุมและจัดงานตามประเพณีนิยมได้แต่จำกัดจำนวนคนไม่เกิน 500 คน เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 เมตร จัดเลี้ยงอาหารแบบแยกชุด และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา กำหนดเวลาประชุมไม่เกินช่วงละ 2 ชั่วโมงให้มีเวลาพักและเปิดระบายอากาศของห้องประชุม รวมถึงเปิดดำเนินการตามเวลาปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น.โดยให้ขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ กรณีเกิน 50 คน


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการปรับเงื่อนไขมาตรการสำหรับกิจการและกิจกรรมในทุกพื้นที่ ประกอบด้วย 1.ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ ให้เปิดบริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมที่เล่นเป็นรายบุคคลหรือแข่งเป็นคู่เท่านั้น โดยให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังไม่เปิดบริการ รวมถึงยังไม่เปิดบริการสวนน้ำ สวนสนุกในทุกพื้นที่ 2.สนามกีฬาทุกประเภทสวนสาธารณะ มาตรการเดิม จำกัดเวลาพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่ควบคุมสูงสุด เวลา 21.00 น. ปรับเป็นเปิดดำเนินการตามเวลาปกติแต่ไม่เกินเวลา 22.00 น.ซึ่งมาตรการอื่นคงเดิม 3.การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค มาตรการเดิมกำหนดการรวมกลุ่มตามระดับพื้นที่ ตั้งแต่พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมถึงพื้นที่เฝ้าระวัง 25,50,100,200,500 คน ปรับมาตรการใหม่ เป็นเพิ่มการรวมกลุ่มตามระดับพื้นที่ ตั้งแต่พื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด รวมถึงพื้นที่เฝ้าระวัง ดังนี้ 50,100,200,300,500 คน และ4.สถานบันเทิงผับบาร์และคาราโอเกะ มาตรการเดิมยังไม่เปิดบริการ แต่ให้ผู้ประกอบการเตรียมการปรับปรุงสภาพแวดล้อม และระบบระบายอากาศตามมาตรฐาน รวมถึงให้บุคลากรได้รับวัคซีนครบทุกคน ปรับเป็นให้กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพฯ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมสนับสนุนบริการสุขภาพของรัฐดำเนินมาตรการ สำหรับเตรียมการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค.2564 อย่างไรก็ตาม การเปิดกิจกรรม กิจการและการปรับระดับพื้นที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ รายงานตัวต่อสภาแล้ว

รัฐสภา 10 ก.ย.- “3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ “ทิพานัน-พล.ต.อ.อัศวิน-รุ่งเรือง” รายงานตัวต่อสภาแล้ว พร้อมผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายสุชาติ ชมกลิ่น ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายสุชาติ สิ้นสุดลง จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ เลื่อนขึ้นมาเป็น สส. แทน โดย น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การเป็น สส. คือผู้แทนของประชาชน วันนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่ได้เป็นตัวแทนในการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งการมีกฎหมายที่ถูกต้องชัดเจนเป็นเรื่องที่ดี และจะทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้มีกฎหมายที่ต้องอยากขับเคลื่อนโดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น เรื่องอากาศที่มีผลกระทบกับคนไทย นอกจากนี้ยังมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายธนกร วังบุญคงชนะ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายธนกร […]

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]

ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม

คลองเปรม 9 ก.ย.- ราชทัณฑ์ ย้าย “ทักษิณ” จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้าเรือนจำกลางคลองเปรม ขณะอยู่ในรถคุมขัง “ทักษิณ” ยิ้มเล็กน้อย พร้อมชูนิ้วโป้งขวาให้นักข่าวที่ตะโกนถาม ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งบังคับโทษ นายทักษิณ ชินวัตร 1 ปี และส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ล่าสุด เมื่อเวลา 17.10 น. ที่ผ่านมา ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีขบวนรถตู้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สีขาว จำนวน 3 คัน คันแรก ทะเบียน 1 นฉ 1576 กรุงเทพมหานคร คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร และคันที่สาม ทะเบียน 1 นฉ 1977 โดยทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม โดยรถตู้คันที่สอง ทะเบียน 1 นง 7412 กรุงเทพมหานคร เป็นรถตู้คันที่นายทักษิณ […]