ทำเนียบฯ 13 ก.ย.-“ศบค.” เผย พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 12,583 ราย เสียชีวิต132 คน ชี้ยอดติดโควิดลดลงต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุเกิน 60 ปี เสียชีวิตถึงร้อยละ 76
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้ เพิ่มขึ้น 12,583 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,394,756 ราย หายป่วยเพิ่ม 16,304 ราย รวมหายป่วยแล้ว 1,248,158 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 132,113 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 4,096 ราย, ใส่เครื่องช่วยหายใจ 835 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 132 คน ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 14,485 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมรอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 13 กันยายน 2564 จำนวน 1,365,893 ราย โดยผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 12,583 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 12,409 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 11,232 ราย, จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,177 ราย, จากเรือนจำ 163 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 11 ราย เดินทางมาจากกาตาร์ 1 ราย, มาเลเซีย 7 ราย, กัมพูชา 3 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 132 ราย ชาย 63 ราย หญิง 69 ราย เป็นชาวไทย 129 ราย เมียนมา 2 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย อายุค่ากลาง 70 ปี อายุน้อยสุด 21 ปี อายุมากสุด 94 ปีแบ่งเป็น กทม. 23 ราย สมุทรปราการ 19 ราย นครปฐม สมุทรสาคร จังหวัดละ 12 ราย นนทบุรี สุรินทร์ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 6 ราย กำแพงเพชร 4 ราย ปทุมธานี ตาก นครศรีธรรมราช ฉะเชิงเทรา จันทบุรี จังหวัดละ 3 ราย สกลนคร บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เชียงราย พิษณุโลก ระนอง นราธิวาส สงขลา จังหวัดละ 2 ราย ศรีสะเกษ นครสวรรค์ ยะลา ราชบุรี นครนายก สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม ชลบุรี ตราด ลพบุรี สิงห์บุรี จังหวัดละ 1 ราย โรคประจำตัวยังเป็นปัจจัยเสี่ยงความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง พบผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไป 100 ราย อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 26 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 5 ราย ตั้งครรภ์ 1 ราย จ.กำแพงเพชร ตรวจพบเชื้อหลังเสียชีวิต เสียชีวิตที่บ้าน 1 ราย จ.ตาก (ชาวเมียนมา ตรวจพบเชื้อหลังเสียชีวิต) ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อจากคนรู้จัก คนในครอบครัวขณะที่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ร้อยละ 76 เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ เกิน 60 ปี เป็นผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง ร้อยละ 20 และจะเพิ่มผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปที่ต้องเร่งฉีดวัคซีนด้วย
ส่วน10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ คือ 1. กรุงเทพมหานคร 3,329 ราย 2. ชลบุรี 650 ราย 3. ระยอง 647 ราย 4. นนทบุรี 468 ราย 5. สมุทรปราการ 443 ราย 6. สมุทรสาคร 402 ราย 7. นราธิวาส 401 ราย 8. ยะลา 366 ราย 9. สงขลา 301 ราย 10. ราชบุรี 299 ราย
สำหรับผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3,329 ราย ที่อยู่ขณะป่วยอยู่ใน กทม. 2,875 ราย ที่อยู่ขณะป่วยอยู่ต่างจังหวัดเข้ารักษาโรงพยาบาลใน กทม. 454 ราย มี 10 อันดับเขต ที่พบผู้ป่วยสูงสุด ดังนี้ 1. จอมทอง 279 ราย 2. หลักสี่ 186 ราย 3. ดอนเมือง 155 ราย 4. บางซื่อ 140 ราย 5. ราษฎร์บูรณะ 116 ราย 6. หนองแขม 114 ราย 7. สายไหม 107 ราย 8. คลองเตย 101 ราย 9. ธนบุรี 99 ราย 10. ห้วยขวาง 98 ราย
ทั้งนี้ กทม. มีการติดเชื้อเกิน 100 ราย มีทั้งหมด 8 เขต ขอให้เฝ้าระวังและรักษามาตรการ เนื่องจากมีการปรับมาตรการ เพื่อช่วยกันป้องกันการระบาดเพิ่มขึ้น
ส่วนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แล้วสะสม 27,303,700 ราย เข็มที่ 2 สะสม 12,357,581 ราย, ส่วนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 สะสม 615,075 ราย รวมฉีดวัคซีนแล้ว 40,276,356 โดส
ขณะที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก 225 ล้านราย มีผู้เสียชีวิตแล้วทั่วโลก 4.64 ล้านคน สหรัฐอเมริกา ยังเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ตามด้วย อินเดีย, บราซิล, สหราชอาณาจักร, และรัสเซีย ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 29.-สำนักข่าวไทย.