รัฐสภา 3 ก.ย.-ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรมว.แรงงาน ชี้ รู้เห็นกระบวนการค้าแรงงาน “เจ๊ อ.” ต้นตอโควิดระบาด ขณะ “สุชาติ” สอนมวยเป็นนักการเมืองต้องเป็นสุภาพบุรุษ มีมารยาท พร้อมยันไม่รู้จักบุคคลที่ฝ่ายค้านเอ่ยถึง
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ เพื่ออภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อเนื่องวันที่ 4 มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธานที่ประชุม โดยเป็นลำดับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า มีคนกล่าวหาว่านายสุชาติ รู้จักกับกระบวนการค้าแรงงานข้ามชาติ ที่มีนายหน้า ชื่อ เจ๊ อ. โดยใช้พื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และมีผู้ที่อยู่ในกระบวนการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง ดาบ อ. จนถึงรุ่นใหญ่ทั้งบิ๊ก ป. พ.ต.อ.รุ่น 42 รองผู้การ รุ่น 42 และ พล.ต.ต. รุ่น 36 ซึ่งเป็นญาติของผู้กำกับแม่สอด
“ต้นเดือนสิงหาคมที่มีข่าวว่า ผู้กำกับการแม่สอด น้องภรรยาของผู้บัญชาการภาค 6 ถูกย้ายมาที่กำแพงเพชร และเกี่ยวกับ จ.นครสวรรค์ รมว.แรงงานทราบ วันนี้สงสัยมี เจ๊ อ.วิ่งดูแลคนงาน เกี่ยวเนื่องกับกระบวนการ ของดาบ จ. ขึ้นมาไปถึงบิ๊ก ป. รุ่น 36 เขานินทาว่าเจ๊ อ.เอาคนงานเข้ามา และแจกจ่ายแรงงานไปตามความต้องการ ทำให้การนำเข้าแรงงานไม่ได้ตรวจสอบ หรือดูว่าจะควบคุมอย่างไร ทำให้เป็นต้นตอของโรคระบาด แม้จะตามก็ไม่เจอ เพราะพบว่ามีค่าหัวคิว ปีละ 250 ล้านบาท” นายสมคิด กล่าว
นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเรื่องการตั้งประธานบอร์ดประกันสังคมคนใหม่ว่า เป็นผู้ตรวจราชการจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่มีความรู้ ประสบการณ์ด้านแรงงาน และประกันสังคม นอกจากนี้ ยังมีประเด็นของการแก้ปัญหาโควิด-19 ให้กับผู้ใช้แรงงาน ทั้งแรงงานสัญชาติไทยและต่างสัญชาติ ที่พบว่า ไม่ได้ดูแลผู้ใช้แรงงานตามที่ประกาศไว้ โดยผู้ใช้แรงงานต้องดิ้นรนเพื่อตรวจเชื้อและการเข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยตัวเอง มีพี่น้องแรงงานที่ส่งหนังสือร้องเรียนถึงรัฐมนตรีเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่พบการข่มขู่
จากนั้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวก่อนชี้แจงว่า เป็นนักการเมืองต้องเป็นสุภาพบุรุษและมีมารยาท และว่า “หากผมจะนำไลน์ลับของคนใกล้ชิดผู้อภิปรายมาก ๆ มาเปิดเผยด้วยจะว่าอย่างไร ผมขอสอนท่าน”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานชี้แจงข้อกล่าวหาว่า ไม่รู้จักเจ๊ อ.หรือดาบ จ. ที่ทราบชื่อคือ ดาบจอย ยืนยันว่า หน้าที่กระทรวงแรงงาน คือ ตรวจสถานประกอบกิจการ ว่ามีใบอนุญาต และคนทำงานซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวมีใบอนุญาตทำงานหรือไม่ ซึ่งทราบจากเจ้าหน้าที่ว่า ปี 2563 ตรวจแรงงานต่างด้าวรวมแสนกว่าคน และดำเนินคดี ไป 1,300 คน ทั้งนี้ในช่วง 7 ปีย้อนหลังพบว่าสามารถขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวได้รวม กว่า 5 แสนคน จากสถานการณ์ว่างงาน
“ล่าสุดพบว่ามีผู้ที่กลับเข้าสู่ระบบจ้างงาน รวม 6.4 แสนคน แม้ตลาดจ้างงานจะมีคนออกไปมากกว่าคนเข้า ทั้งนี้ยอมรับว่ามีปอาชีพฟรีแลนซ์นอกประกันสังคม ที่ระบุตัวเลขไม่มี ดังนั้น ขอความร่วมมือส.ส. หากร่างพ.ร.บ.แรงงานประกันสังคมเข้าสู่สภาฯ ขอความร่วมมือยกมือให้ด้วย เพื่อสร้างระบบควบคุมและดูแลแรงงานนอกระบบ 20 ล้านคน” นายสุชาติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย