นายกฯ กำชับ ศธ.ติดตามมาตรการเยียวยานักเรียน

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – นายกฯ กำชับ ศธ.ติดตามมาตรการเยียวยานักเรียน เงินต้องถึงมือผู้ปกครอง ห้ามโรงเรียนหักเก็บค่าเทอมอย่างเด็ดขาด


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมจ่ายเงินให้แก่ผู้ปกครอง 2,000 บาท ต่อนักเรียน 1 คน ตามมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 สำหรับนักเรียนในระบบการศึกษาไทย ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองหลายช่องทางว่า โรงเรียนบางแห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชน แจ้งกับผู้ปกครองว่า จะหักเงินเยียวยาดังกล่าวกับผู้ปกครองที่ค้างค่าเทอมสำหรับภาคเรียนที่ 1 ซึ่งจะทำให้ผู้ปกครองไม่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี จึงกำชับกระทรวงศึกษาธิการให้ติดตามตรวจสอบระบบการจ่ายเงินอย่างใกล้ชิด โดยเงินทุกบาทต้องถึงมือผู้ปกครอง ห้ามโรงเรียนหักเก็บค่าเทอม หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าผิดวัตถุประสงค์ของการช่วยเหลือเยียวยา โดยโรงเรียนมีหน้าที่จ่ายเงินให้กับผู้ปกครองเท่านั้น ไม่มีสิทธิเก็บเงินดังกล่าวไว้แต่อย่างใด โดยเบื้องต้น กระทรวงศึกษาธิการได้ตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเพื่อช่วยเหลือผู้ปกครอง เป็นช่องทางให้ผู้ปกครองแจ้งเรื่องมาที่กระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับกระบวนการจ่ายเงินเยียวยาผู้ปกครอง จะเริ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ เมื่อสำนักงบประมาณตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะส่งเรื่องไปยังกระทรวงการคลัง ก่อนที่กระทรวงการคลังจะส่งต่อให้กรมบัญชีกลาง เพื่อโอนเงินเยียวยาทั้งหมดมาให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยกระทรวงศึกษาธิการจะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน ในการโอนเงินไปยังสถานศึกษาในระบบ เพื่อจ่ายเงินให้กับผู้ปกครอง ทั้งการจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร และการจ่ายเป็นเงินสด ในกรณีที่ไม่สามารถโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารได้

“นายกรัฐมนตรี มั่นใจในกระบวนการอนุมัติงบประมาณดังกล่าวว่ามีความรอบคอบรัดกุม โดยผ่านความเห็นชอบจากทั้งสภาพัฒน์ และกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนจ่ายเงินขอให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส โดยกำชับให้กระทรวงศึกษาธิการ ติดตามตรวจสอบการจ่ายเงินทุกขั้นตอน ห้ามปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตอย่างเด็ดขาด ให้เงินทุกบาททุกสตางค์ถึงมือผู้ปกครองอย่างแท้จริง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย