“อนุชา” ย้ำทุกฝ่ายต้องสามัคคี อย่านำความเห็นส่วนตัวสร้างขัดแย้ง

กทม. 5 พ.ค.-“อนุชา” ตรวจเยี่ยมศูนย์สนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 วอนอย่านำความเห็นส่วนตัวมาสร้างความขัดแย้ง ย้ำทุกฝ่ายต้องสามัคคี เพื่อก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์สนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 ณ กรมยุทธบริการทหาร โดยมี พลเอก ธิติชัย เทียนทอง รองเสนาธิการทหาร พลโท อรรถณพ ลาภชุ่มศรี เจ้ากรมยุทธบริการทหาร ร่วมต้อนรับและบรรยายสรุปการดำเนินงานของศูนย์


สำหรับศูนย์สนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นไปตามบัญชาของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ต้องการให้ทุกหน่วยงานมีการบูรณาการความร่วมมือ ช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 โดยทางกรมยุทธบริการทหารได้สนับสนุนยานพาหนะสำหรับขนส่งผู้ติดเชื้อไปยังสถานพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จากข้อมูลการขนย้ายผู้ป่วยของทางศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน ถึงวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 609 ราย โดยทางศูนย์มีการจัดสรรยานพาหนะทั้งสิ้น จำนวนกว่า 60 คัน แบ่งเป็นยานพาหนะที่พร้อมใช้งานทันที จำนวน 31 คัน ยานพาหนะสนับสนุนศูนย์เอราวัณ จำนวน 10 คัน ยานพาหนะหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ 21 คัน และมีการจัดเตรียมรถพยาบาล จำนวน 4 คัน โดยการสนับสนุนของ 3 เหล่าทัพ และการประสานงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการรับเรื่องร้องทุกข์ผ่านทางรายการ NBT รวมใจ สู้ภัยโควิด-19 ทางช่อง NBT

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานประสานความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมกล่าวขอบคุณกรมยุทธบริการทหาร และทุกหน่วยงานของกระทรวงกลาโหม ที่มีการจัดระบบการขนส่ง ลำเลียงผู้ป่วยโควิด-19 ส่งถึงโรงพยาบาลโดยเร็ว ซึ่งปัจจุบันพบว่ารถพยาบาลรับส่งผู้ป่วยของสถานพยาบาลไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในยามวิกฤติโรคระบาดที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น


นายอนุชา กล่าวว่า การช่วยเหลือซึ่งกันและกันจะเป็นสิ่งที่นำพาประเทศชาติให้ผลวิกฤติที่เกิดขึ้นได้ วอนขอประชาชนอย่านำความเห็นส่วนตัวมาสร้างความขัดแย้งในสังคม ขอให้ทุกฝ่ายมีความรัก สามัคคี เพื่อที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี