มท.1 ย้ำผู้ว่าฯ-อปท.ห้ามมีบ่อนพนันเด็ดขาด

กระทรวงมหาดไทย 14 ม.ค.- รมว.มหาดไทย ประชุมคอนเฟอเรนซ์ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ ทั่วประเทศ ย้ำต้องไม่มีบ่อนพนันในพื้นที่ กำชับประสานหน่วยงานชายแดนเข้มป้องกันลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมหารือข้อราชการสำคัญผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) กับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการส่วนกลางประจำภูมิภาค นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 และมีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้น กระทรวงมหาดไทยมีข้อสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินการบูรณาการและประสานการทำงานให้เป็นไปตามข้อกำหนดและนโยบายของ ศบค. เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการสถานการณ์ที่มีเอกภาพ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเพื่อให้การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นไปอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง จึงเน้นย้ำการดำเนินมาตรการสำคัญสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคฯ ในพื้นที่ ได้แก่ มาตรการป้องกันการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย


“ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) ต้องประสานการปฏิบัติและวางมาตรการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ชายแดนอย่างเข้มข้น ทั้งหน่วยทหาร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ตำรวจตระเวนชายแดน กองกำลังป้องกันชายแดน ควบคุมการลักลอบเข้าประเทศให้มีความเข้มงวด ตั้งเครื่องกีดขวาง ตรวจตราลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง หากพบการลักลอบเข้าประเทศให้ดำเนินการตามกฎหมาย และในพื้นที่ตอนใน ให้บูรณาการและสั่งการประสานการปฏิบัติกับตำรวจภูธรในพื้นที่ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดคัดกรองโรคบุคคลและการขนส่งสินค้า รวมถึงคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าพื้นที่ตามมาตรการสาธารณสุข” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า มอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ขอความร่วมมือประชาชนในหมู่บ้าน ชุมชน ช่วยกันสอดส่องบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ สำหรับมาตรการด้านสาธารณสุข ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ต้องบูรณาการทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วน รณรงค์สร้างความรับรู้และขอความร่วมมือประชาชนตระหนักถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการรักษาสุขอนามัย ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี รักษาระยะห่างระหว่างกัน ไม่พบปะหรือไปยังสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก และล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือสม่ำเสมอ ให้เป็นพื้นฐานการใช้ชีวิต เพื่อป้องกันเชื้อสัมผัสร่างกาย กำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน และ อสม. หมั่นสร้างความรู้ความเข้าใจประชาชน ในการปฏิบัติตนให้ถูกวิธีตามหลักสุขอนามัยพื้นฐานด้วย ถ้าทุกคนทำได้เป็นพื้นฐาน เศรษฐกิจของเราจะดีขึ้น ประชาชนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ลักลอบกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับคนที่ลักลอบเล่นการพนัน หรือทำกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ต้องเข้มงวดกวดขัน กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบ ห้ามลักลอบเล่นการพนันทุกประเภท หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการจับกุมและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลย จะถือว่าเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ทุกระดับ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การดำเนินมาตรการทางสาธารณสุข กรณีพบผู้ติดเชื้อต้องดำเนินกระบวนการสอบสวนโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก (Active case finding) ในพื้นที่เสี่ยง และคัดแยกผู้มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคให้กักตัวตามมาตรการสาธารณสุข พร้อมขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” เพื่อติดตามและสอบสวนโรคได้แม่นยำ สร้างความเข้าใจประชาชนเรื่องการตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ สร้างความมั่นใจการดำเนินการของรัฐบาลในการจัดหาวัคซีนให้ประชาชนอย่างทั่วถึง สำหรับในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม ต้องดำเนินมาตรการป้องกันเชิงรุกอย่างสูงสุด เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคในวงกว้าง หากพบการติดเชื้อ ต้องเร่งสอบสวนโรคอย่างเคร่งครัด

“ส่วนเรื่องการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น (เทศบาล) เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง นายกเทศมนตรี ผู้บริหาร และสมาชิกสภาเทศบาล ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้ปลัดเทศบาลเป็นผู้บริหารราชการท้องถิ่นตามกฎหมาย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การดำเนินมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้ทุกจังหวัดดำเนินมาตรการตามที่ ศบค.กำหนด ซึ่ง ศบค.มท. มีหนังสือสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน เว้นแต่มีสถานการณ์พิเศษในพื้นที่ ให้เร่งหารือมายัง ศบค.มท. เพื่อหารือ ศบค.พิจารณา และหากออกคำสั่งมาตรการในพื้นที่ ให้รายงานมายัง ศบค.มท.ทันที เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป

“ในข้อสั่งการเชิงนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการลักลอบเล่นการพนัน ต้องไม่อนุญาต ไม่มีบ่อนการพนันอย่างเด็ดขาด รวมทั้งต้องไม่ละเลยเรื่องการลักลอบเล่นพนัน ถ้าลักลอบต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง