เช้าวันนี้รอบอาคารรัฐสภากลับสู่ภาวะปกติแล้ว

รัฐสภา 18 พ.ย.- บรรยากาศด้านหน้าและโดยรอบอาคารรัฐสภา เกียกกาย เช้าวันนี้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ตั้งแต่เวลา 05.00 น. หลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความปลอดภัย และเก็บกวาดทำความสะอาดตลอดคืนที่ผ่านมา


ช่วงประมาณเที่ยงคืน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ได้เข้าตรวจสอบรถบัสของ ตชด. ทะเบียนตราโล่ 13465 ที่จอดอยู่ตรงบริเวณริมถนนทหาร ใกล้กับแยกเกียกกาย เนื่องจากมีร่องรอยของกระสุนเข้าที่บริเวณด้านหน้ารถออกบริเวณด้านท้ายรถฝั่งขวา เพื่อตรวจหาวิถีกระสุน พร้อมตรวจหาพยานวัตถุในที่เกิดเหตุ รวมทั้งปลอกกระสุนหัวกระสุน การทำงานค่อนข้างลำบาก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีแสงสว่างน้อย และพื้นผิวถนนทหาร ก็มีเศษหินเศษกระจก ขวดน้ำเกลื่อนเต็มพื้นถนน

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีโอดี ลงพื้นที่ตรวจบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา แยกเกียกกายและบริเวณโดยรอบเพื่อตรวจหาวัตถุต้องสงสัย เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดปกติ


ส่วนเจ้าหน้าที่สำนักรักษาความสะอาดได้เข้าเก็บขยะและเคลียร์พื้นที่ โดยตำรวจเปิดให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรผ่านไปมาได้ 1 ช่องทางเช่นเดียวกับบริเวณถนนประชาราษฎร์สาย 1 เจ้าหน้าที่ต้องนำรถยก ลากรถตู้ตำรวจที่ล้อถูกปล่อยลมยางและถูกทุบทำลายพังเสียหาย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วนได้มายกรถเมล์ที่นำมาจอดขวางออกจากบริเวณแยกเกียกกายเพื่อเปิดการจราจร โดยจะนำไปเก็บไว้ที่ท่าเรือเกียกกายเพื่อตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียด

ทั้งนี้ รวมรถที่เสียหายทั้งหมด 35 คัน แยกเป็นรถโดยสารของ ตชด. 3 คัน เสียหายกระจกแตก ไฟท้ายแตก หนึ่งในนั้นพบรูกระสุนปืนไม่ทราบขนาด รถฉีดน้ำแรงดันสูง 5 คันถูกปล่อยลมยาง และพ่นสีสเปรย์อักษรข้อความทั่วคัน รถน้ำที่เอาไว้สำหรับเติมน้ำแรงดันสูง 2 คันถูกปล่อยลมยางและพ้นสีสเปรย์ รถตู้จำนวน 13 คันถูกทุบจนบุบ กระจกแตก กระจกมองข้างหักและถูกปล่อยลมยาง รถยนต์กระบะเสียหาย 3 คันถูกปล่อยลมยางและทุบจนบุบ รถเก๋ง 1 คันถูกปล่อยลมยาง และรถเมล์ประจำทางสาย 48 จำนวน 3 คัน ถูกพ่นด้วยสีสเปรย์

ต่อมาช่วงเช้า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตดุสิต และพนักงานเทศกิจ กรุงเทพมหานคร ได้นำรถน้ำประมาณ 10 คัน เข้ามาฉีดน้ำล้างทำความสะอาดพื้นผิวถนน ด้านหน้าอาคารรัฐสภา พร้อมเก็บขยะบนทางเท้า ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ


มีรายงานว่าเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานสํานักงานตํารวจแห่งชาติ จะเข้ามาตรวจสอบร่องรอยกระสุนปืนจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างม็อบ 2 ฝั่งด้วย

บริเวณสี่แยกเกียกกาย ด้านหน้ากรมการอุตสาหกรรมทหาร เริ่มมีประชาชนสวมใส่เสื้อเหลืองเดินทางเข้ามา เพื่อให้กำลังใจ แล้วร่วมสังเกตการณ์การลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันนี้ โดยเป็นประชาชนจากจังหวัดเพชรบุรี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เสียใจ “เจจูแอร์” ไถลออกรันเวย์ สั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

นายกฯ แสดงความเสียใจเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์ไฟลุกท่วม พร้อมสั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

“บิ๊กต่าย” สั่งขยายผลแก๊งทำคอนเทนต์ รุมแกล้ง “แบงค์ เลสเตอร์”

“บิ๊กต่าย” สั่งการขยายผลกระทำผิดของแก๊งทำคอนเทนต์ ที่รุมแกล้ง “แบงค์ เลสเตอร์” ทั้งในอดีตและปัจจุบัน หากการกระทำไหนเข้าข่ายความผิด ก็ดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกกรณี

28 dead as jet carrying 181 people crashes while landing in S. Korea's Muan

เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปเกาหลีใต้ชนหลังออกนอกรันเวย์

โซล 29 ธ.ค.- เครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาหลีใต้ ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหรือรันเวย์ และชนกับรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า ตำรวจและนักดับเพลิงในเกาหลีใต้แจ้งว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.07 น. วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 07.07 น. วันนี้ตามเวลาไทย เมื่อเครื่องบินของเชจูแอร์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) นำผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 288 กิโลเมตร เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้น เป็นเหตุให้เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักและเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน ทั้งหมดนั่งอยู่ที่ส่วนท้ายของเครื่องบิน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากไทย มีเพียง 2 คนที่เป็นชาวไทย เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้ครื่องบินได้แล้ว และกำลังปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งเริ่มการสืบสวนสอบสวน ณ […]