นายกฯ เดินหน้าฟื้นฟูท่องเที่ยวภาคใต้ให้กลับมาคึกคัก

สุราษฎร์ธานี 2 พ.ย.- นายกรัฐมนตรี พบปะประชาชนที่วัดพระเจดีย์แหลมสอ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ระบุปวดใจเห็นธุรกิจเงียบเหงา เดินหน้าฟื้นฟูท่องเที่ยวภาคใต้ให้กลับมาคึกคัก ไม่สนคนตำหนิอยู่นานเกินไป


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบปะประชาชนที่วัดพระเจดีย์แหลมสอ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่ง ว่า วันนี้มาเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปที่ไหนก็นึกแต่ประชาชนของเรา เพราะเราคือคนไทยด้วยกันทั้งประเทศ จึงขอส่งความห่วงใยไปยังจังหวัดอื่น ๆ ด้วย

“วันนี้มารับฟังความเห็นและปัญหาเพื่อนำไปขับเคลื่อนไปด้วยกัน โดยที่ผ่านมาพยายามดำเนินการหลายอย่างมาก่อนมีโควิด ที่รัฐบาลทำหลายอย่างเพื่อวางพื้นฐานทุกจังหวัด แต่วันนี้ไม่สบายใจ เพราะเห็นครั้งที่แล้วที่เคยมากับวันนี้ เปลี่ยนไปเยอะ ความเงียบเหงาธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ ทำให้นายกฯ เจ็บปวดหัวใจ และเป็นสิ่งที่เราต้องมาพัฒนาเพื่อทำให้การท่องเที่ยวภาคใต้กลับมาคึกคักอีกครั้ง วันนี้จึงมาประชุม ครม.ในพื้นที่ภาคใต้ และได้ให้ ครม.ไปเยี่ยมเยือนพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมกระจายตรวจติดตามปัญหาในนามพรรคร่วมรัฐบาล” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มีความห่วงใยทุกเรื่อง ทั้งเรื่องสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ที่ระยะแรกจำเป็นต้องล็อกดาวน์อะไรบ้าง ซึ่งทำให้การแก้ปัญหาโควิดของเราเป็นอันดับแรก ๆ ของโลก ดังนั้นการที่รัฐบาลจำเป็นต้องมีประกาศออกมา ทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ทั้งหมดไม่ใช่เพื่อตน ไม่ได้อยากออกในหลาย ๆ เรื่อง และไม่ได้เพื่อเอาอำนาจมาให้ตน แต่เอาอำนาจให้เจ้าหน้าที่เพื่อบูรณาการให้ทุกส่วนทำงาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่เราต้องภูมิใจความเป็นไทยของเราที่ทำให้ทุกอย่างแม้มีความขัดแย้งอยู่บ้าง แต่ก็ทำให้การแก้ปัญหาของเราทำได้ดีที่สุดระดับโลก

“วันนี้หลายประเทศก็รอว่าเมื่อไหร่ เราจะเปิดประเทศ ถ้าเปิดอิสรเสรี คนมากันตรึม ซึ่งเรามีการตกลงจะผ่อนคลายได้อย่างไร พื้นที่ไหนมีความเสี่ยงต่ำ เรากำลังเริ่มผ่อนคลาย ยืนยันว่าวันนี้สถานการณ์ยังอยู่ในระดับควบคุมได้ มีการติดเชื้อที่ตรวจสอบได้ในพื้นที่กักกัน ทั้งหมดเป็นผลจากการทำงานของรัฐบาล ร่วมมือกันกับส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น ขอให้ทุกคนภูมิใจ ปรบมือให้ตัวเอง ปรบให้นายกรัฐมนตรีด้วย ขอยืนยันว่าผมจะทำให้เต็มที่ เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปให้ได้ โดยจะผ่อนคลายปลดล็อกระยะแรกก่อน วันนี้มีอาเซียนและจีนจะเข้ามาในระยะแรก ต่อไปก็จะมากขึ้นในอนาคต จึงต้องเตรียมการเป็นขั้นตอน หากปล่อยทีเดียวทั้งหมด มีโอกาสซูเปอร์สเปรดเดอร์ จึงต้องดูขีดความสามารถในการรับมือด้านสาธารณสุขของเรา วันนี้เรามีความพร้อมหมดแล้ว วางแผนทั้งหมด มีมาตรการรองรับถ้ามีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ควรเกิดขึ้นในแบบที่ไม่จำเป็น โดยการไม่ระมัดระวัง ไม่ใส่หน้ากาก ไม่เข้าพื้นที่ชุมนุมขนาดใหญ่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกัน ไม่เช่นนั้นรัฐบาลก็ประสบทุกปัญหา แต่เชื่อว่าทุกปัญหาแก้ได้ ดังนั้นอะไรที่ทำให้เดือดร้อน ก็ต้องขอโทษด้วย ซึ่งทุกอย่างไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อทุกคน เพื่อไม่ให้สถานการณ์กลับไปล็อกดาวน์อีก อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น แต่ทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวังให้ดีที่สุด ซึ่งมาตรการคัดกรองมีหมดแล้ว ส่วนสถานการณ์อื่น ๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องบริหารภาพรวมของประเทศ


“โดยวันนี้ภาพใหญ่เริ่มดีขึ้น รัฐบาลพยายามดูให้ครบทุกกลุ่มที่เป็นห่วงโซ่ทุกอย่างเชื่อมโยงกันทั้งหมด ที่สำคัญประเทศของเรามีศักยภาพ รอยยิ้ม อาหารที่อร่อย ธรรมชาติที่สวยงาม และความมีน้ำใจโอบอ้อมอารี นี่คือคนไทยและประเทศไทย เราต้องภูมิใจและอย่าทำลายด้วยอะไรที่ไม่จำเป็น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า วันนี้ขอให้ลองทบทวนที่ผ่านมา 4-6 ปี มีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง มองภาพรวมเหมือนต่างประเทศที่ให้มองไกลตัวด้วย แต่ส่วนใหญ่มักมองใกล้ตัว โดยต้องเตรียมการตั้งแต่วันนี้ เพื่อลูกหลานของเราวันหน้า ทั้งนี้ทุกคนมีความคิดที่แตกต่าง ดังนั้นการปรับเปลี่ยนต่าง ๆ ไม่ง่ายเหมือนแค่พลิกฝ่ามือ ถ้าเรารวมใจไทยสร้างชาติ ไม่ว่าใครทำอะไร ถ้าดีสนับสนุน โดยต้องเป็นไปตามกฎหมาย ถูกต้องชอบธรรม ไม่ใช่เพื่อผู้ใดผู้หนึ่ง

“บางคนบอกนายกฯ มีปัญหานู้นนี่ ร่ำรวย ทุจริต เขาวัดกันด้วยอะไร เขาวัดกันด้วยการดำเนินคดี การตัดสินของศาล และผมก็ยังไม่เห็นผมทำอะไรผิดสักอย่าง บางคนบอกผมผิดเพราะผมอยู่นานเกินไป เบื่อขี้หน้า ผมไม่รู้เหมือนกันอยู่ในกติกาข้อไหนของการเมืองไทย แต่ผมก็ไม่ว่า หลายคนบอกผมผิดนู้นผิดนี่ ผมไม่ว่าอะไร ผมฟังเฉพาะศาล” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า วันนี้อยู่ในโลกดิจิทัล ตนไม่ได้ห้ามอ่านถึงห้ามฟัง แต่ถ้าจะเชื่อทุกอย่าง เป็นเรื่องของแต่ละคน มันควรจะเชื่อทุกอย่างหรือไม่ที่เขียนลงไป บางทีไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เรื่องที่เป็นสาระกลับไม่สนใจ แต่วันนี้ห้ามไม่ได้ เป็นเรื่องของสังคมโลกยุคใหม่ ประเทศไทยมีแกนหลักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

“เราเกิดบนแผ่นดินไทย อย่าให้ใครทำลาย รัฐบาล ข้าราชการทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เราเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยสักอัน นั่ง ๆ กันอยู่ก็เลือกตั้งมาทั้งนั้น คนที่เลือกคือประชาชน ทุกอย่างเคยมีประวัติศาสตร์ ถ้าจะปรับแก้อะไร ก็ต้องดูประวัติศาสตร์ จะได้ไม่เกิดขึ้นอีกแค่นั้น หากวันหน้าทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะเป็นไปตามที่ต้องการ แต่จะต้องมีกติกา หลักเกณฑ์ สังคม สำคัญที่สุดครอบครัว ลูกเต้าต้องดูแล วันนี้เราอาจจะดูแลลูกเต้าน้อยลง พ่อต้องหาเงินให้สอดคล้องกับความต้องการ แต่ลูกเต้าก็ต้องสอนรู้จักพอเพียง ไม่เช่นนั้นพ่อแม่จะเป็นหนี้สิน ปัญหาตามมามากมาย โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร้องเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” ร่วมกับประชาชน จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ร่วมกิจกรรมกวนขนมกาละแม ที่คนในพื้นที่จัดสาทิตต้อนรับ โดยประชาชนได้ขอให้นายกรัฐมนตรีอยู่รักษาบ้านเมืองไปนาน ๆ ดูแลประชาชนด้วย ขณะที่นายกรัฐมนตรีตอบเป็นภาษาอังกฤษว่า Yes sir โดยประชาชนได้ตอบกลับว่าจะดูแลนายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบกิ่งปะการังแก่นักดำน้ำ และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเอกลักษณ์ของเกาะสมุย ได้แก่ ปูม้าและเต่าทะเล ร่วมกับประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]