สรุปเหตุชุลมุนหน้า สน.ประชาชื่น

กทม. 31 ต.ค.-มวลชนปักหลักชุมนุมหน้า สน.ประชาชื่น จนถึงเกือบรุ่งสาง หลัง “เพนกวิน-รุ้ง-ไมค์” ถูกอายัดตัวมาทำบันทึกจับกุมจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย ถึงขั้นต้องหามแกนนำส่งโรงพยาบาล

เมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) ศาลอาญายกคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน”, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์ ระยอง”, นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ “หมอลำแบงค์” เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ทำให้ทั้งหมดได้ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีมวลชนมาคอยให้กำลังใจ


อย่างไรก็ตาม ได้มีรถสายตรวจติดตราสัญลักษณ์กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ รถควบคุมผู้ต้องหา สน.ประชาชื่น เข้ามายังเรือนจำฯ เพื่อเข้าอายัดตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยมีการปล่อยตัว “หมอลำแบงค์” ออกจากเรือนจำฯ

ต่อมาในเวลา 20.40 น. นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แจ้งว่า สน.ประชาชื่น ได้เข้าอายัดตัวเพราะตำรวจที่นนทบุรี, อยุธยา และอุบลฯ ประสานมา แต่มีปัญหาข้อกฎหมายว่า กรณีที่มีหมายจับและตำรวจสอบปากคำ/พิมพ์ลายนิ้วมือไปแล้ว หมายจับนั้นย่อมหมดไป จึงตั้งคำถามถึงการอายัดตัวทั้ง 3 คนว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?


อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นมีรายงานว่า “ไมค์ ระยอง” กับ “เพนกวิน” ยืนยันว่าจะอารยะขัดขืนโดยไม่ขึ้นรถ เพราะเป็นการจับกุมโดยมิชอบ หลังจากนั้นสถานการณ์เริ่มตึงเครียด เนื่องจากทั้งทนายความ และนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย ได้เข้าไปสอบถามว่าใช้หมายจับจากศาลใด ขณะที่เหล่ามวลชนได้กดดันเจ้าหน้าที่ซึ่งเตรียมนำตัวผู้ต้องหาเดินทางไป สน.ประชาชื่น

กระทั่งเวลา 21.05 น. รถควบคุมผู้ต้องขัง สน.ประชาชื่น ได้นำตัว “ไมค์ ระยอง” และ “เพนกวิน” ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปอีกประตู โดยหลีกเลี่ยงกลุ่มมวลชนและสื่อมวลชนที่มาปักหลักหน้าเรือนจำฯ โดยมีรายงานว่าทั้ง 2 คนตะโกนออกมาจากรถคุมขังว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย!!!”

อย่างไรก็ตาม ก่อนถึง สน.ประชาชื่น ปรากฏว่ามีมวลชนจำนวนหนึ่งได้ขวางทางรถควบคุมผู้ต้องหา โดยมีบางส่วนได้ใช้ของแข็งคล้ายท่อนไม้ทุบตีบริเวณท้ายรถอย่างรุนแรง จนทำให้ไฟท้ายแตก เมื่อถึง สน.ประชาชื่น ได้เกิดความชุลมุนวุ่นวายอีกครั้งเมื่อมวลชนที่ปักหลักหน้า สน.ประชาชื่น ได้เข้าล้อมรถควบคุมผู้ต้องหาตะโกนคำว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พบเห็น “ไมค์ ระยอง” เป็นลมหมดสติอยู่ในรถควบคุมผู้ต้องหา ยิ่งทำให้กลุ่มมวลชนเดือดขึ้นไปอีก ส่วนสภาพรถควบคุมผู้ต้องหาอยู่ในสภาพพังยับเยินเพราะกระจกหน้าและหลังแตก ขณะที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น ต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่แพทย์ฯ เข้าไปปฐมพยาบาล “ไมค์ ระยอง”


ขณะที่ “เพนกวิน” มีอาการคล้ายกับ “ไมค์ ระยอง” คือ ใกล้จะเป็นลมหมดสติ ต้องนำตัวออกมาจากรถ พร้อมกับนำยาดมและระดมกำลังพัดวีให้ดีอาการดีขึ้น จน “เพนกวิน” ต้องถอดเสื้อ ใช้น้ำราดศีรษะและลำตัว พร้อมกับทาแป้งเย็นเพื่อเพิ่มเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย ส่วนเจ้าหน้าที่ได้นำ “ไมค์ ระยอง” ขึ้นเปลสนาม ก่อนลำเลียงไปส่ง รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น ขณะที่ “รุ้ง” ถูกเจ้าหน้าที่นำตัวเข้าไปภายใน สน.ประชาชื่น เพื่อทำบันทึกการจับกุม

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา “เพนกวิน” นำไมโครโฟนมาพูดปราศรัยที่หน้า สน.ประชาชื่น ท่ามกลางมวลชนที่มาให้กำลังใจ พร้อมประกาศจุดยืนว่า ตำรวจไม่มีอำนาจควบคุมตัว จึงจะอารยะขัดขืน และนั่งหน้า สน.ประชาชื่น จนกว่าตำรวจจะยอมรับว่าไม่มีอำนาจการจับกุม และหากยืนยันว่าจะควบคุมไปดำเนินคดีต่อ เตรียมแจ้งความเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ท่ามกลางมวลชนที่มาให้กำลังใจ โดยมีทั้ง แอมมี่ เดอะ บอททอมบลูส์, น้องมายด์ รวมถึงแกนนำคนอื่นๆ เข้าร่วม ก่อนที่ “รุ้ง” จะเดินลงมาจาก สน.ประชาชื่น และนั่งลงร่วมปราศรัย

หลังจากนั้นเวลา 03.00 น. ขณะมวลชนกำลังนั่งปราศรัยด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย ปรากฏว่า พันตำรวจเอกเอกราช อุ่นเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประกาศต่อหน้ามวลชนว่า จะขอนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเข้าทำการสอบสวนที่ชั้น 2 ของ สน.ประชาชื่น โดยอ้างเหตุแห่งคดีที่เคยเกิดขึ้นในท้องที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา โดย “เพนกวิน” ได้สอบถามตำรวจว่า หากยินดีกระทำตามแล้วจะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ แต่ตำรวจไม่รับปาก โดยยืนยันแต่เพียงว่าจะได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายทุกประการ ใช้เวลาต่อรอง 10 นาทีทั้งคู่จึงยอมเดินขึ้นชั้น 2

ทั้งนี้ กลุ่มมวลชนได้ตะโกนโห่ร้องท่ามกลางความโมโหที่ตำรวจนำตัวแกนนำขึ้นไปสอบสวนทั้งที่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าทั้ง 2 คนจะถูกอายัดตัวดำเนินคดีหรือไม่

ต่อมาในเวลา 04.35 น. นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เดินออกมาจาก สน.ประชาชื่น เพื่อแจ้งแก่กลุ่มมวลชนที่ยังปักหลักรอที่บริเวณด้านหน้า ว่า ขณะนี้การสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว และจะพาตัวทั้ง 2 คนไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระราม 9 ซึ่งทั้ง 2 คนมีอาการอ่อนเพลีย โดยเฉพาะ “เพนกวิน” มีอาการบาดเจ็บจากเศษกระจกต้องพักฟื้น 2-3 วัน ส่วน “ไมค์ ระยอง” รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังคงต้องพักรักษาตัว

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้ง 2 คนขึ้นรถพยาบาลของ รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น โดยมีนายแพทย์ทศพร รวมถึงนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าขึ้นรถติดตามไปด้วย ส่วนมวลชนได้ยุติการชุมนุม ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าหลังตำรวจสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว จะส่งสำนวนคำให้การส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยไม่นำตัว 2 แกนนำไปส่งศาลแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]