สรุปเหตุชุลมุนหน้า สน.ประชาชื่น

กทม. 31 ต.ค.-มวลชนปักหลักชุมนุมหน้า สน.ประชาชื่น จนถึงเกือบรุ่งสาง หลัง “เพนกวิน-รุ้ง-ไมค์” ถูกอายัดตัวมาทำบันทึกจับกุมจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย ถึงขั้นต้องหามแกนนำส่งโรงพยาบาล

เมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) ศาลอาญายกคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน”, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์ ระยอง”, นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ “หมอลำแบงค์” เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ทำให้ทั้งหมดได้ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีมวลชนมาคอยให้กำลังใจ


อย่างไรก็ตาม ได้มีรถสายตรวจติดตราสัญลักษณ์กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ รถควบคุมผู้ต้องหา สน.ประชาชื่น เข้ามายังเรือนจำฯ เพื่อเข้าอายัดตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยมีการปล่อยตัว “หมอลำแบงค์” ออกจากเรือนจำฯ

ต่อมาในเวลา 20.40 น. นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แจ้งว่า สน.ประชาชื่น ได้เข้าอายัดตัวเพราะตำรวจที่นนทบุรี, อยุธยา และอุบลฯ ประสานมา แต่มีปัญหาข้อกฎหมายว่า กรณีที่มีหมายจับและตำรวจสอบปากคำ/พิมพ์ลายนิ้วมือไปแล้ว หมายจับนั้นย่อมหมดไป จึงตั้งคำถามถึงการอายัดตัวทั้ง 3 คนว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?


อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นมีรายงานว่า “ไมค์ ระยอง” กับ “เพนกวิน” ยืนยันว่าจะอารยะขัดขืนโดยไม่ขึ้นรถ เพราะเป็นการจับกุมโดยมิชอบ หลังจากนั้นสถานการณ์เริ่มตึงเครียด เนื่องจากทั้งทนายความ และนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย ได้เข้าไปสอบถามว่าใช้หมายจับจากศาลใด ขณะที่เหล่ามวลชนได้กดดันเจ้าหน้าที่ซึ่งเตรียมนำตัวผู้ต้องหาเดินทางไป สน.ประชาชื่น

กระทั่งเวลา 21.05 น. รถควบคุมผู้ต้องขัง สน.ประชาชื่น ได้นำตัว “ไมค์ ระยอง” และ “เพนกวิน” ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปอีกประตู โดยหลีกเลี่ยงกลุ่มมวลชนและสื่อมวลชนที่มาปักหลักหน้าเรือนจำฯ โดยมีรายงานว่าทั้ง 2 คนตะโกนออกมาจากรถคุมขังว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย!!!”

อย่างไรก็ตาม ก่อนถึง สน.ประชาชื่น ปรากฏว่ามีมวลชนจำนวนหนึ่งได้ขวางทางรถควบคุมผู้ต้องหา โดยมีบางส่วนได้ใช้ของแข็งคล้ายท่อนไม้ทุบตีบริเวณท้ายรถอย่างรุนแรง จนทำให้ไฟท้ายแตก เมื่อถึง สน.ประชาชื่น ได้เกิดความชุลมุนวุ่นวายอีกครั้งเมื่อมวลชนที่ปักหลักหน้า สน.ประชาชื่น ได้เข้าล้อมรถควบคุมผู้ต้องหาตะโกนคำว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พบเห็น “ไมค์ ระยอง” เป็นลมหมดสติอยู่ในรถควบคุมผู้ต้องหา ยิ่งทำให้กลุ่มมวลชนเดือดขึ้นไปอีก ส่วนสภาพรถควบคุมผู้ต้องหาอยู่ในสภาพพังยับเยินเพราะกระจกหน้าและหลังแตก ขณะที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น ต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่แพทย์ฯ เข้าไปปฐมพยาบาล “ไมค์ ระยอง”


ขณะที่ “เพนกวิน” มีอาการคล้ายกับ “ไมค์ ระยอง” คือ ใกล้จะเป็นลมหมดสติ ต้องนำตัวออกมาจากรถ พร้อมกับนำยาดมและระดมกำลังพัดวีให้ดีอาการดีขึ้น จน “เพนกวิน” ต้องถอดเสื้อ ใช้น้ำราดศีรษะและลำตัว พร้อมกับทาแป้งเย็นเพื่อเพิ่มเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย ส่วนเจ้าหน้าที่ได้นำ “ไมค์ ระยอง” ขึ้นเปลสนาม ก่อนลำเลียงไปส่ง รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น ขณะที่ “รุ้ง” ถูกเจ้าหน้าที่นำตัวเข้าไปภายใน สน.ประชาชื่น เพื่อทำบันทึกการจับกุม

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา “เพนกวิน” นำไมโครโฟนมาพูดปราศรัยที่หน้า สน.ประชาชื่น ท่ามกลางมวลชนที่มาให้กำลังใจ พร้อมประกาศจุดยืนว่า ตำรวจไม่มีอำนาจควบคุมตัว จึงจะอารยะขัดขืน และนั่งหน้า สน.ประชาชื่น จนกว่าตำรวจจะยอมรับว่าไม่มีอำนาจการจับกุม และหากยืนยันว่าจะควบคุมไปดำเนินคดีต่อ เตรียมแจ้งความเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ท่ามกลางมวลชนที่มาให้กำลังใจ โดยมีทั้ง แอมมี่ เดอะ บอททอมบลูส์, น้องมายด์ รวมถึงแกนนำคนอื่นๆ เข้าร่วม ก่อนที่ “รุ้ง” จะเดินลงมาจาก สน.ประชาชื่น และนั่งลงร่วมปราศรัย

หลังจากนั้นเวลา 03.00 น. ขณะมวลชนกำลังนั่งปราศรัยด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย ปรากฏว่า พันตำรวจเอกเอกราช อุ่นเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประกาศต่อหน้ามวลชนว่า จะขอนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเข้าทำการสอบสวนที่ชั้น 2 ของ สน.ประชาชื่น โดยอ้างเหตุแห่งคดีที่เคยเกิดขึ้นในท้องที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา โดย “เพนกวิน” ได้สอบถามตำรวจว่า หากยินดีกระทำตามแล้วจะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ แต่ตำรวจไม่รับปาก โดยยืนยันแต่เพียงว่าจะได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายทุกประการ ใช้เวลาต่อรอง 10 นาทีทั้งคู่จึงยอมเดินขึ้นชั้น 2

ทั้งนี้ กลุ่มมวลชนได้ตะโกนโห่ร้องท่ามกลางความโมโหที่ตำรวจนำตัวแกนนำขึ้นไปสอบสวนทั้งที่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าทั้ง 2 คนจะถูกอายัดตัวดำเนินคดีหรือไม่

ต่อมาในเวลา 04.35 น. นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เดินออกมาจาก สน.ประชาชื่น เพื่อแจ้งแก่กลุ่มมวลชนที่ยังปักหลักรอที่บริเวณด้านหน้า ว่า ขณะนี้การสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว และจะพาตัวทั้ง 2 คนไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระราม 9 ซึ่งทั้ง 2 คนมีอาการอ่อนเพลีย โดยเฉพาะ “เพนกวิน” มีอาการบาดเจ็บจากเศษกระจกต้องพักฟื้น 2-3 วัน ส่วน “ไมค์ ระยอง” รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังคงต้องพักรักษาตัว

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้ง 2 คนขึ้นรถพยาบาลของ รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น โดยมีนายแพทย์ทศพร รวมถึงนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าขึ้นรถติดตามไปด้วย ส่วนมวลชนได้ยุติการชุมนุม ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าหลังตำรวจสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว จะส่งสำนวนคำให้การส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยไม่นำตัว 2 แกนนำไปส่งศาลแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]