สรุปเหตุชุลมุนหน้า สน.ประชาชื่น

กทม. 31 ต.ค.-มวลชนปักหลักชุมนุมหน้า สน.ประชาชื่น จนถึงเกือบรุ่งสาง หลัง “เพนกวิน-รุ้ง-ไมค์” ถูกอายัดตัวมาทำบันทึกจับกุมจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย ถึงขั้นต้องหามแกนนำส่งโรงพยาบาล

เมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) ศาลอาญายกคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหา 4 คน ประกอบด้วยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน”, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์ ระยอง”, นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ “หมอลำแบงค์” เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ทำให้ทั้งหมดได้ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีมวลชนมาคอยให้กำลังใจ


อย่างไรก็ตาม ได้มีรถสายตรวจติดตราสัญลักษณ์กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ รถควบคุมผู้ต้องหา สน.ประชาชื่น เข้ามายังเรือนจำฯ เพื่อเข้าอายัดตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยมีการปล่อยตัว “หมอลำแบงค์” ออกจากเรือนจำฯ

ต่อมาในเวลา 20.40 น. นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แจ้งว่า สน.ประชาชื่น ได้เข้าอายัดตัวเพราะตำรวจที่นนทบุรี, อยุธยา และอุบลฯ ประสานมา แต่มีปัญหาข้อกฎหมายว่า กรณีที่มีหมายจับและตำรวจสอบปากคำ/พิมพ์ลายนิ้วมือไปแล้ว หมายจับนั้นย่อมหมดไป จึงตั้งคำถามถึงการอายัดตัวทั้ง 3 คนว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?


อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นมีรายงานว่า “ไมค์ ระยอง” กับ “เพนกวิน” ยืนยันว่าจะอารยะขัดขืนโดยไม่ขึ้นรถ เพราะเป็นการจับกุมโดยมิชอบ หลังจากนั้นสถานการณ์เริ่มตึงเครียด เนื่องจากทั้งทนายความ และนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย ได้เข้าไปสอบถามว่าใช้หมายจับจากศาลใด ขณะที่เหล่ามวลชนได้กดดันเจ้าหน้าที่ซึ่งเตรียมนำตัวผู้ต้องหาเดินทางไป สน.ประชาชื่น

กระทั่งเวลา 21.05 น. รถควบคุมผู้ต้องขัง สน.ประชาชื่น ได้นำตัว “ไมค์ ระยอง” และ “เพนกวิน” ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปอีกประตู โดยหลีกเลี่ยงกลุ่มมวลชนและสื่อมวลชนที่มาปักหลักหน้าเรือนจำฯ โดยมีรายงานว่าทั้ง 2 คนตะโกนออกมาจากรถคุมขังว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย!!!”

อย่างไรก็ตาม ก่อนถึง สน.ประชาชื่น ปรากฏว่ามีมวลชนจำนวนหนึ่งได้ขวางทางรถควบคุมผู้ต้องหา โดยมีบางส่วนได้ใช้ของแข็งคล้ายท่อนไม้ทุบตีบริเวณท้ายรถอย่างรุนแรง จนทำให้ไฟท้ายแตก เมื่อถึง สน.ประชาชื่น ได้เกิดความชุลมุนวุ่นวายอีกครั้งเมื่อมวลชนที่ปักหลักหน้า สน.ประชาชื่น ได้เข้าล้อมรถควบคุมผู้ต้องหาตะโกนคำว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พบเห็น “ไมค์ ระยอง” เป็นลมหมดสติอยู่ในรถควบคุมผู้ต้องหา ยิ่งทำให้กลุ่มมวลชนเดือดขึ้นไปอีก ส่วนสภาพรถควบคุมผู้ต้องหาอยู่ในสภาพพังยับเยินเพราะกระจกหน้าและหลังแตก ขณะที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น ต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่แพทย์ฯ เข้าไปปฐมพยาบาล “ไมค์ ระยอง”


ขณะที่ “เพนกวิน” มีอาการคล้ายกับ “ไมค์ ระยอง” คือ ใกล้จะเป็นลมหมดสติ ต้องนำตัวออกมาจากรถ พร้อมกับนำยาดมและระดมกำลังพัดวีให้ดีอาการดีขึ้น จน “เพนกวิน” ต้องถอดเสื้อ ใช้น้ำราดศีรษะและลำตัว พร้อมกับทาแป้งเย็นเพื่อเพิ่มเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย ส่วนเจ้าหน้าที่ได้นำ “ไมค์ ระยอง” ขึ้นเปลสนาม ก่อนลำเลียงไปส่ง รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น ขณะที่ “รุ้ง” ถูกเจ้าหน้าที่นำตัวเข้าไปภายใน สน.ประชาชื่น เพื่อทำบันทึกการจับกุม

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา “เพนกวิน” นำไมโครโฟนมาพูดปราศรัยที่หน้า สน.ประชาชื่น ท่ามกลางมวลชนที่มาให้กำลังใจ พร้อมประกาศจุดยืนว่า ตำรวจไม่มีอำนาจควบคุมตัว จึงจะอารยะขัดขืน และนั่งหน้า สน.ประชาชื่น จนกว่าตำรวจจะยอมรับว่าไม่มีอำนาจการจับกุม และหากยืนยันว่าจะควบคุมไปดำเนินคดีต่อ เตรียมแจ้งความเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ท่ามกลางมวลชนที่มาให้กำลังใจ โดยมีทั้ง แอมมี่ เดอะ บอททอมบลูส์, น้องมายด์ รวมถึงแกนนำคนอื่นๆ เข้าร่วม ก่อนที่ “รุ้ง” จะเดินลงมาจาก สน.ประชาชื่น และนั่งลงร่วมปราศรัย

หลังจากนั้นเวลา 03.00 น. ขณะมวลชนกำลังนั่งปราศรัยด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย ปรากฏว่า พันตำรวจเอกเอกราช อุ่นเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประกาศต่อหน้ามวลชนว่า จะขอนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเข้าทำการสอบสวนที่ชั้น 2 ของ สน.ประชาชื่น โดยอ้างเหตุแห่งคดีที่เคยเกิดขึ้นในท้องที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา โดย “เพนกวิน” ได้สอบถามตำรวจว่า หากยินดีกระทำตามแล้วจะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ แต่ตำรวจไม่รับปาก โดยยืนยันแต่เพียงว่าจะได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายทุกประการ ใช้เวลาต่อรอง 10 นาทีทั้งคู่จึงยอมเดินขึ้นชั้น 2

ทั้งนี้ กลุ่มมวลชนได้ตะโกนโห่ร้องท่ามกลางความโมโหที่ตำรวจนำตัวแกนนำขึ้นไปสอบสวนทั้งที่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าทั้ง 2 คนจะถูกอายัดตัวดำเนินคดีหรือไม่

ต่อมาในเวลา 04.35 น. นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เดินออกมาจาก สน.ประชาชื่น เพื่อแจ้งแก่กลุ่มมวลชนที่ยังปักหลักรอที่บริเวณด้านหน้า ว่า ขณะนี้การสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว และจะพาตัวทั้ง 2 คนไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระราม 9 ซึ่งทั้ง 2 คนมีอาการอ่อนเพลีย โดยเฉพาะ “เพนกวิน” มีอาการบาดเจ็บจากเศษกระจกต้องพักฟื้น 2-3 วัน ส่วน “ไมค์ ระยอง” รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังคงต้องพักรักษาตัว

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้ง 2 คนขึ้นรถพยาบาลของ รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น โดยมีนายแพทย์ทศพร รวมถึงนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าขึ้นรถติดตามไปด้วย ส่วนมวลชนได้ยุติการชุมนุม ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าหลังตำรวจสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว จะส่งสำนวนคำให้การส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยไม่นำตัว 2 แกนนำไปส่งศาลแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]