ทุกฝ่ายต้องช่วยกันกลัดกระดุมเม็ดแรก

กรุงเทพฯ 29 ต.ค.-“นพ.ระวี” หนุนแนวคิดกลัดกระดุมเม็ดแรกของ “พิธา” แต่ต้องใช้ความร่วมมือของทุกฝ่ายในสภา ย้ำกลัดกระดุมด้วยมือข้างเดียวแก้ปัญหาไม่ได้


นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า เห็นด้วยกับหลักการกลัดกระดุมเม็ดแรกต้องกลัดให้ถูก จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลนำเสนอ แต่การเสนอของนายพิธาเป็นการเสนอการกลัดกระดุมด้วยมือข้างเดียว ด้วยมุมมองของฝ่ายตนเองเพียงอย่างเดียว ย่อมไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแน่นอน

“การกลัดกระดุมเม็ดแรกที่นายพิธาและฝ่ายค้านเสนอโดยการให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลาออก ยังมีเหตุผลไม่เพียงพอ ประชาชนส่วนข้างมากทั่วประเทศ อาจจะยังไม่เห็นด้วยจึงไม่ประสบผลสำเร็จตั้งแต่กระดุมเม็ดแรกเลย การกลัดกระดุมเม็ดแรกที่จะแก้ไขปัญหาได้ต้องใช้สองมือช่วยกัน” นพ.ระวี กล่าว


นพ.ระวี กล่าวว่า ผู้นำทางความคิดของม็อบปลดแอกได้มองข้ามพล.อ.ประยุทธ์ไปแล้ว เป้าหมายหลักอยู่ที่การปฏิรูปสถาบัน ดังนั้น ความขัดแย้งหลักในสังคมไทยปัจจุบันคือความขัดแย้งระหว่างฝ่ายปกป้องสถาบันกับฝ่ายที่อ้างว่าจะปฏิรูปสถาบัน ซึ่งเกี่ยวพันกับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยตรง

“การกลัดกระดุมเม็ดแรกต้องเริ่มจากการ ที่รัฐสภา ร่วมกันหาวิธีทำประชามติขอความเห็นของประชาชนทั่วประเทศในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าจะแก้อย่างไร แก้แค่ไหนก่อน เมื่อมีประชามติออกมาแล้วทุกฝ่ายต้องยอมรับตามระบอบประชาธิปไตย ความขัดแย้งหลักในสังคมไทยจึงจะลดลงได้ กระดุมเม็ดที่สองคือรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญตามผลประชามติของคนไทยทั่วประเทศ และกระดุมเม็ดที่ 3 เมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ให้นายกรัฐมนตรียุบสภา จัดเลือกตั้งใหม่ ให้ได้นายกรัฐมนตรีใหม่ตามรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง ต้องกลัดกระดุม โดยฟังเสียงจากประชาชนทุกฝ่าย ซึ่งป็นการกลัดกระดุมเม็ดแรกด้วยสองมือ แบบนี้เท่านั้นจึงจะแก้ไขปัญหาได้” นพ.ระวี กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-อากาศร้อนในตอนกลางวัน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ราชทัณฑ์เปิดภาพผ้าเช็ดตัว-ผังห้องขังหมายเลข 50

กรมราชทัณฑ์ เปิดภาพและขนาดผ้าเช็ดตัวที่จัดสรรแจกให้ผู้ต้องขังชาย-หญิง ในเรือนจำ พร้อมข้อมูลแดน 5 และผังห้องขังหมายเลข 50

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน