ทำเนียบฯ 15 ต.ค.- นายกรัฐมนตรีย้ำกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย-จีนเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน และเห็นพ้องจัดทำ Fast Lane สนับสนุนการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างประชาชน
นายหวัง อี้ (H.E. Mr. Wang Yi) มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะ และหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 45 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทยกับจีน และยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกัน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของ 2 ประเทศ หลังทั่วโลกประสบกับความท้าทายร่วมกัน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รวมถึง ฝากความระลึกถึงและความปรารถนาดีไปยังประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง
ด้าน รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่เป็นรัฐมนตรีคนแรกที่เดินทางเยือนไทย หลังสถานการณ์โควิด-19 เป็นการแสดงความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ในไทย เชื่อว่ามิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีนจะช่วยเพิ่มพูนความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในทุกระดับ และขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี ที่ดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมโรคด้วยดี ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของประชาชนไทยด้วย ขณะที่ สถานการณ์ในจีน จากการควบคุมจัดการอย่างดีของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทำให้การควบคุมโรคตามยุทธศาสตร์ประสบความสำเร็จอย่างดีเช่นกัน
นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมความสำเร็จของจีนในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ก้าวหน้าไปสู่ระยะที่ 3 แล้ว โดยชื่นชมวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีจีนที่กำหนดให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นสินค้าสาธารณะของโลก ขณะที่ ฝ่ายจีนกล่าวถึงความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนของจีน ว่าขณะนี้กำลังเข้าสู่กระบวนการทดลองในมนุษย์ และมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งจีนจะพิจารณาให้ความสำคัญแก่ประเทศในภูมิภาค และมิตรประเทศร่วมกัน
นอกจากนี้ ประเทศจีนพิจารณาระบบที่เรียกว่า Fast Lane เพื่อสนับสนุนการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างประชาชน และระบบที่เรียกว่า Green Lane เพื่อขนส่งสินค้าระหว่างกัน ซึ่งในการหารือ ทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันการสนับสนุนการจัดทำ Fast lane ระหว่างกันในโอกาสแรก .- สำนักข่าวไทย