สั่ง ตร.ทำสถิติคดีแจ้งข้อมูลประชาชนทุกเดือน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 30 ก.ค.-นายกฯ ย้ำตำรวจบังคับใช้กฎหมายเทคโนโลยีสอดรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม โปร่งใส จัดทำสถิติการดำเนินคดี เปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทราบทุกเดือน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 6/2563 และการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ 2/2563 ว่า ได้เน้นย้ำเรื่องการบังคับใช้กฎหมายด้านเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงให้สอดรับกับสถานการณ์ จึงต้องตั้งหน่วยงานดำเนินการกับคดีด้านนี้และมีผู้ร้องเรียนจำนวนมาก ซึ่งพบว่า 5 ปีที่ผ่านมาสถิติการร้องเรียนและการแจ้งความสูงขึ้น จึงต้องปรับองค์กรให้เหมาะสมทั้งคนและเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ แต่ในส่วนของกำลังพลยังเป็นการเกลี่ยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่อย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพและตรวจสอบได้ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในประเทศไทยต้องเคารพกฎหมายทุกฉบับ ดังนั้น การเป็นเจ้าหน้าที่จะต้องปฏิบัติงานอย่างระมัดระวังและมีความชอบธรรม ซึ่งหลายคนทราบดีว่ายังมีคนฝ่าฝืนกฎหมาย จึงจำเป็นต้องดำเนินการในหลายกรณีที่เกิดขึ้นให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยเพื่อคนในประเทศ หากบ้านเมืองไม่มีเสถียรภาพ มีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย จะทำให้การพัฒนาล่าช้าและเดินหน้าประเทศล่าช้าเช่นกัน โดยเฉพาะปัญหาเดิม ๆ ที่ต้องพยายามแก้ไข ขณะเดียวกันปัญหาใหม่ต้องลดลงให้ได้ จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนและทุกคน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความเป็นห่วงการชุมนุมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาการใช้กฎหมายที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องสั่งการใด ๆเป็นพิเศษ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการลงโทษผู้กระทำผิดต่าง ๆ โดยให้แนวทางว่าให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงข้อมูลสถิติตัวเลขว่าดำเนินการนคดีต่าง ๆ ไปอย่างไรบ้างและเป็นคดีประเภทใด จำนวนเท่าใด และลงโทษอย่างไรบ้าง โดยสรุปเป็นรายเดือน เพราะทุกวันนี้ต้องเดินหน้าประเทศด้วยข้อมูลที่สมบูรณ์ เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่าดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง ถือเป็นการเปิดเผยตามพ.ร.บ.การให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชน เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนให้ความสำคัญกับกฎหมายและการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่กระทำผิดต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดี ได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว