ยื่นหนังสือจี้ สว. ถูกกล่าวหาปมฮั้ว หยุดทำหน้าที่ชั่วคราว-ลาออก

รัฐสภา 23 พ.ค.- “แทนคุณ” พร้อม นักวิชาการ ยื่นหนังสือถึงปธ.รัฐสภา จี้ สว. ถูกกล่าวหาฮั้วเลือกตั้ง ยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว-ลาออก ขอทุกคนสร้างกระแสกดดัน อย่าปล่อยให้พวก สว. ลิ้นดำโฆษณาชวนเชื่อปกป้องตนเอง เป็นพฤติกรรมน่ารังเกียจ แลบลิ้น พูดจาเสียดสีขบขัน ทำภาพลักษณ์รัฐสภาไทยทดถอย


นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส. และอดีตผู้สมัคร สว. ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา ผ่านนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ช่วยกำกับ สว. ที่ถูกกล่าวหา การฮั้ว สว. ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเปิดทางให้มีการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ โดย สว. ที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นสมาชิกรัฐสภาอันทรงเกียรติของปวงชนชาวไทย มีหลักฐานเชื่อได้ว่ากระทำผิดฐานฟอกเงิน กับการได้มาซึ่ง สว. รวมถึงเป็นเป็นสมาชิกอั้งยี่ และผู้สนับสนุนคดีฮั้ว สว. โดยมีการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อดำเนินตามกระบวนการยุติธรรม แต่ปรากฏว่ามีสว. 92 ราย เข้าชื่อร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ กกต.ขอให้อธิบดีดีเอสไอ หยุดปฎิบัติหน้าที่ รวมถึงให้คณะอนุกรรมการสืบสวนไต่สวน ของ กกต. หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการแทรกแซงอำนาจการสอบสวน ซึ่งไม่เคยปรากฎว่าเคยมี สมาชิกรัฐสภาในฐานะสมาชิกนิติบัญญัติ ที่มีหน้าที่การกรองกฎหมาย และเมื่อถูกตรวจสอบแจ้งข้อกล่าวหา กลับใช้วิธีย้อนแย้ง กับกฎหมาย ทำให้สอดคล้องกับข้อกล่าวหามากขึ้น

นายแทนคุณ กล่าวว่า ตนในฐานะอดีต สส. และประชาชน อดทนไม่ไหวกับพฤติกรรมต่อต้านการตรวจสอบ และขาดความรับผิดชอบต่อสังคม ขาดวุฒิภาวะ อันจะทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐสภาไทยทดถอยอย่างรุนแรง


“ยิ่งการกระทำและการให้สัมภาษณ์ของ สว.หลายคน ยกตนข่มท่าน แสดงท่าทีที่น่าขบขัน เสียดสี ไร้มารยาทต่อหน้าสาธารณะ เช่นการแลบลิ้น และให้สัมภาษณ์เป็นภาษาต่างประเทศแบบผิดกาลเทศะ เพื่อทำการตอบโต้หลีกหนีการตอบคำถามสื่อฯ ที่ทำหน้าที่แทนประชาชน ตนและนักวิชาการบางส่วน ทนดูสภาพอันน่าอัปยศอดสูที่เกิดขึ้นในระบอบประชาธิปไตยเช่นนี้ไม่ได้ จึงขอให้ สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวหรือลาออก” นายแทนคุณ กล่าว

นายแทนคุณ กล่าวด้วยว่า การนัดหมายผู้สมัคร สว.ไม่ใช่แค่สีน้ำเงินสีเดียว สีอื่นก็มีสถานที่นัดหมาย เป็นห้างขายเสื้อผ้า ตรงข้ามศูนย์กีฬา ซึ่งได้ สว. ตรงตามที่ล็อกไว้ โดยคะแนนนำโดงชนิดที่คนอื่นไม่มีทางตามทัน ซึ่งที่ก่อนหน้านี้ตนไม่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะอยากเห็นสำนึกของบรรดาสมาชิกผู้ทรงเกียรติ ซึ่งขณะนี้สถานการณ์คอรัปชั่นทุจริต งบประมาณบานปลายจนหลายคนบอกว่า เป็นประเทศเทาแลนด์ ไม่ใช่ไทยแลนด์ เป็นวิกฤตศรัทธาที่น่าเป็นห่วง ดังนั้นจึงขอเรียกร้องไปยังสว.ที่รู้ตัว ว่าทำอะไรลงไป ให้ลาออกอย่างสง่างาม ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดี และไม่เหลือที่ยืนในแผ่นดินไทย

ด้าน นายบุญส่ง ชเลธร รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ สถาบันรัฐประศาสนศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ปัญหาสว.เป็นเรื่องใหญ่ในสังคมไทยปัจจุบันมีการฮั้วกันอย่างน่ารังเกียจที่สุด เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นการทำลายหลักการตามรัฐธรรมนูญ คือการล้มล้างการปกครองประเทศ นี่คือสิ่งที่เสียหายร้ายกาจที่สุดในการเมืองไทย


“แทนที่ผู้ถูกกล่าวหา ออกมาปฏิเสธโกหกกันจนลิ้นดำ แต่โกหกจนเคยตัว โกหกจนเป็นสันดาน โกหกจนเป็นนิสัย อย่างไม่น่าเชื่อถือใดๆ ทุกวันนี้เราปล่อยให้พวกสว.ลิ้นดำทั้งหลายโฆษณาชวนเชื่อปกป้องตนเอง ตนจึงอยากขอสื่อมวลชนทุกคน ถ้านักการเมืองเดินออกมาแล้วชูภาพควาย และบอกเป็นภาพช้าง ขอความกรุณาอย่าเขียนตามคำพูด พอรู้ว่าเป็นเรื่องโกหก ควายก็คือควาย เป็นคำพูดของพวกขี้โกหกจนลิ้นดำ” นายบุญส่ง กล่าว

ดังนั้นจึงต้องมาเรียกร้อง เราเชื่อว่าพวกนี้ไม่ลาออก หรือยุติปฏิบัติหน้าที่ด้วยตัวเอง จึงขอให้ทุกคนช่วยสร้างกระแสกดดันให้ กลุ่มสว. ที่ถูกกล่าวหา ให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ทันที เพราะถ้าปล่อยไว้ในสัปดาห์หน้าจะมีการรับรอง คณะกรรมการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน จะปล่อยให้สิ่งนี้ดำเนินต่อไปไม่ได้ ถ้าต้องการที่จะอยู่อย่างผาสุข หรือสันติสุขภายใต้กฎหมาย.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

จับตานายกฯ นัดคุยหัวหน้าพรรคร่วม ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – จับตานายกฯ เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน คาดจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน ภายหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 8 ตำแหน่ง คาดว่าจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม โดยเมื่อเวลา 12.26 น. รถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้เลี้ยวเข้าโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ.-316-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” สั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ไทยปิดด่านช่องสายตะกู

22 มิ.ย.- “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา ออกคำสั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ทางการไทยปิดด่าน “ช่องสายตะกู” เมื่อเวลา 07.00 น. “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์หนังสือคำสั่ง โดยระบุว่า ให้ปิดด่านบ้านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จนกว่าไทยจะเปิดด่านช่องสายตะกู พร้อมระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ได้รับแจ้งจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่า จะมีการปิดด่านชายแดนช่องสายตะกูอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังได้อนุมัติให้ปิดด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และจะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ของไทย รับทราบ สำหรับคำสั่งปิด 2 ด่านดังกล่าว เป็นจุดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -สำนักข่าวไทย

รวบ 2 นักพนันปอยเปต มุดช่องทางธรรมชาติข้ามแดนกลับไทย

สระแก้ว 22 มิ.ย.- รวบ 2 นักพนันชาวไทย อยากกลับภูมิลำเนา หลบจากบ่อนปอยเปต มุดช่องทางธรรมชาติ เหตุนำพาสปอร์ตจำนำไว้ที่บ่อน ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อคืนที่ผ่านมา กองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) โดยหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ, ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12(ร้อย ชค.1201) เข้มงวดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะออกทำการลาดตระเวนแนวชายแดน ตรวจพบหญิง 2 คน กำลังปีนเครื่องกีดขวาง(ลวดหนามหีบเพลง) จากฝั่งกัมพูชา เข้ามาฝั่งประเทศไทย บริเวณแนวชายแดนคลองลึก บ.ดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากตรวจสอบเอกสารประจำตัวทราบชื่อต่อมา น.ส.จุฑาวรรณ ภูมิลำเนา กรุงเทพฯ เดินทางไปเล่นการพนันช่วงเดือน เม.ย.68 ที่จุดผ่านแดนถาวร บ.คลองลึก และเสียการพนัน จึงได้จำนำหนังสือเดินทาง (passport) ไว้ที่บ่อน และ นางปนัดดา ภูมิลำเนา จ.ขอนแก่น เดินทางไปเล่นการพนัน ตั้งแต่ ส.ค.66 ทางช่องทางธรรมชาติ โดยทั้ง 2 คน ให้การเบื้องต้นกับทางเจ้าหน้าที่ […]