กล้าธรรม ขนทัพสู้ศึกเลือกตั้งเมืองคอน

นครศรีธรรมราช 25 เม.ย.-กล้าธรรม ขนทัพสู้ศึกเลือกตั้งเมืองคอน ถ้าได้เข้าสภาแล้วเขต 8 ไม่เปลี่ยนแปลง กธ.ไม่กลับมาเหยียบอีก “อรรถกร” ชี้คนฉวางเสียโอกาสใช้คนหนุ่มมา 2 ปีแล้ว “นฤมล” ระบุไม่ได้หวังสัดส่วน รมต.เพิ่ม แต่อยากมารับใช้ประชาชน

ที่โรงเรียนบ้านทอนวังปราง ต.ละอาย อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม นําแกนนํา สส. และสมาชิกพรรคกล้าธรรม ลงพื้นที่ช่วยนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือ บิ๊กโอ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 8 จ.นครศรีธรรมราช พรรคกล้าธรรม หาเสียง


ทันทีที่มาถึง ร.อ.ธรรมนัสและนางนฤมลได้นํานายก้องเกียรติและคณะ ไหว้สักการะพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน เกจิอาจารย์ที่ชาวนครศรีธรรมราชเคารพนับถือเป็นอย่างมาก และพระพุทธมิ่งมงคล รวมถึงศาลเจ้าพ่อบ้านทอนวังปราง เพื่อความเป็นศิริมงคล

ต่อมา นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ขึ้นปราศรัยว่า จริงๆ พรรคเราไม่ใช่พรรคใหม่ อยู่กันมาตั้งแต่เป็นพรรคเศรษฐกิจไทย อยู่กันแบบครอบครัว หาเสียงภาคใต้เราลงมาทุกครั้ง ลงมากับ ร.อ.ธรรมนัส พรรคกล้าธรรมมี สส.อยู่ทุกภาค แต่วันนี้เราต้องการ สส.อีกคน อยากได้คนมาบอกความเดือดร้อนของพี่น้องเขต 8 นครศรีธรรมราช จะได้รู้ จะได้ทำ สำหรับ สส.ไม่ได้เหมือนกันทุกคน บางคนพูดในสภา พูดจนปากฉีก แต่แก้ไขปัญหาประชาชนไม่ได้ บางคนพูดน้อยแต่แก้ปัญหาได้ ร.อ.ธรรมมนัสพูดแล้วว่าต้องมีคอนเน็กชั่น ต้องสั่งการสั่งงาน ใจถึงพึ่งได้ ถ้าชอบต้องเลือกนายก้องเกียรติ พวกเราทำจริง ทำได้ ตนอยู่มาหลายพรรคแล้วไม่มีที่ไหนดูแลเหมือนครอบครัวแบบนี้ ตนขอเดิมพันถ้านายก้องเกียรติเข้าไปสภาแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พวกเราจะไม่กลับมาเหยียบอะไรที่นี่อีกเลย


“เวทีเลือกตั้งแห่งนี้ ไม่ใช่เวทีที่เอาญาติพี่น้องหรือใครทำผิดมาลง เวทีแห่งนี้ไม่ใช่เวทีที่ใครสอบตกที่ไหนจะมาลง แต่คนๆ นี้รอที่จะลง เตรียมตัวที่จะลงในเขต 8 เป็น สจ.รับใช้พี่น้องมาตลอด แล้วนี่เขตบ้านเกิดนายก้องเกียรติ จะเอาคน อ.ฉวางหรือไม่ วันนี้ต้องเลือกคนบ้านเรา ผมแอบได้ยินราคาต่อรองเหมือนเราจะนำด้วย เชียร์มวยตัวใหญ่ไม่ผิดหวัง กลับบ้านไปช่วยบอกให้เลือกเราให้ชนะขาดได้หรือไม่ ไปชวนมาว่าให้เลือกคนชนะ” นายไผ่ ระบุ

นายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา นายทะเบียนพรรคกล้าธรรม ปราศรัยว่า นายก้องเกียรติเป็นคนใจนักเลงเหมือน ร.อ.ธรรมนัส ไปที่ไหนช่วยเหลือเต็มที่ เลือกตั้งรอบนี้นายก้องเกียรติต้องชนะ จริงๆ นายก้องเกียรติมาสายไป 2 ปี ตอนเลือกตั้งปี 66 นายก้องเกียรติตั้งใจจะลง สส.เขตนี้ แต่อาจจะคุยกันไม่ลงตัวกับทีมงาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความบาดหมางในพื้นที่ และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งนายก้องเกียรติที่เป็นลูกผู้ชายจึงถอย ทำให้ชาว อ.ฉวางเสียโอกาส ในการใช้คนหนุ่มคนนี้ไป 2 ปีแล้ว

นางนฤมล กล่าวปราศรัยว่า มีพรรคไหนขนมาทั้งพรรคขนาดนี้ ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ประธานที่ปรึกษาพรรค นายทะเบียนพรรค เหรัญญิกพรรค อย่างไรก็ตาม พรรคเราเป็นสายพันธุ์รักสงบ แต่ถึงเวลาเรารบ เราต้องรบไม่ขลาด แล้วเราจะรวมกันไปช่วยกันรบจนกว่าเราจะได้ชัยชนะกลับมา วันนี้นายก้องเกียรติถือเป็นครอบครัวกล้าธรรม วันนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายที่เข้าสู่การเลือกตั้งที่จะมีความสำคัญสำหรับ จ.นครศรีธรรมราช ปัจจุบันเราไม่มีผู้แทนในนครศรีธรรมราชที่จะเป็นปากเป็นเสียงให้กับเราในสภา ถามว่า สส. นครศรีธรรมราช เขต 8 เพิ่มมาอีกหนึ่งคน พรรคกล้าธรรมจะได้อะไรเพิ่มขึ้นหรือไม่ เราได้เหมือนเดิม สัดส่วนรัฐมนตรีตำแหน่งต่างๆ ก็ไม่มีเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่เราจะได้คือ มีโอกาสได้เข้ามารับ ใช้ได้เข้ามาดูแลพี่น้องที่ อ.ฉวาง พวกเราพรรคกล้าธรรมจะกลับมาพัฒนาให้ อ.ฉวาง เจริญ ได้รับสิ่งที่ต้องการได้รับ การดูแลให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องเกษตรกรและทุกอาชีพ


ต่อมานายก้องเกียรติ ขึ้นปราศรัยว่า ตนเคยเดินทางไป จ.พะเยากับ ร.อ.ธรรมนัส จ.พะเยาพัฒนาขึ้นมาก ถนนสี่เลน ขณะที่เขตเรายังมีถนนสองเลนอยู่เลย เราเสียโอกาสไปมาก ตนขอพี่น้องประชาชน วันที่ 27 เม.ย.นี้ ช่วยเลือกตนให้ชนะขาด โดยเฉพาะที่ ต.ละอาย อ.ฉวาง

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส ขึ้นปราศรัยว่า คนเราเกิดมาเป็นเรื่องธรรมชาติ เกิดมาแล้วสัตว์โลกทั่วไปรักถิ่นฐานของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามบนโลกใบนี้ มนุษย์คือสัตว์โลกที่ประเสริฐแล้วพูดได้ สื่อสารกันได้ คิดทำมาหากิน และเลี้ยงสัตว์โลกประเภทอื่น เราก็รักที่นี่ ต.ละอายเป็นต้นน้ำแม่น้ำตาปี เป็นแม่น้ำที่ชุบเลี้ยงคน จ.นครศรีธรรมราช ลูกหลานคน ต.ละอายลงสมัคร สส. พี่น้องจะเลือกหรือไม่ เป็นลูกหลานของท่าน เกิดที่นี่ ตอนปี 66 มีคนให้นายก้องเกียรติลาออกจาก สจ.มาลงสมัคร สส. แต่สุดท้ายไม่ได้ลง สส. ตนจึงบอกนายก้องเกียรติว่ามาลงสมัครในนามพรรคกล้าธรรม แต่ต้องทำใจ

“พรรคเราพูดไม่เก่ง แต่ทำงานเก่ง เราโดนโจมตีว่าเป็นพรรคนักเลง มีคนมาถาม จึงตอบว่าใจนักเลง มีปัญหาอะไรหรือไม่ พี่น้องอย่าเอาคนที่พูดจาเพราะ แต่ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ ต้องพูดให้น้อยและพัฒนา อย่าให้คน ต.ละอายแพ้เขา บ้านนี้เมืองนี้จะพัฒนา เมื่อท่านเลือกคนกล้าคิด กล้านำเสนอ และกล้าทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์กับประชาชน” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อม จ.นครศรีธรรมราช เขต 8 กระแสของพรรคว่า เมื่อช่วงเช้ามีโอกาสไปพบกับครอบครัวหมอดิน อาสา จ.นครศรีธรรมราช มากันเยอะ ตลอดเวลาที่ตน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค และ ส.ส.ของพรรค อยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช กระแสพี่น้องชาว อ.ฉวาง อ.พิปูน อ.นาบอน อ.ช้างกลาง ตอบรับพรรค กธ. และนายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือบิ๊กโอ เป็นอย่างดี เมื่อวานที่ ต้นขึ้นรถแห่หาเสียงที่ อ.ช้างกลาง คนในพื้นที่ได้ออกมาโบกไม้โบกมือชูเบอร์ 5 พวกเราทักทายประชาชนทุกหลังคาเรือนและประชาชนได้ตอบรับเราเป็นอย่างดีมาก ตนมั่นใจมากว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้พรรคกล้าธรรม จะสามารถปักธงได้ที่นี่

เมื่อถามว่าทั้ง นางนฤมล และ ร.อ.ธรรมนัส เคยประกาศว่าพรรค จะปักธงทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าวันนี้พรรค มีทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค สส. ของพรรค มาที่นี่ทั้งหมด ตนก็มานอนที่นี่หลายคืนแล้ว ซึ่งเราทุ่มกับการเลือกตั้งเต็มที่ ไม่ใช่เฉพาะที่นี่.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู”

สภาหอการค้าฯ 18 ก.ย.-นายกฯ บอกเวลา 4 เดือน เศรษฐกิจต้องไปข้างหน้า “มีรูมีหนู” ต้องผลักดันเต็มที่ พร้อมแก้ไขปัญหาภาคเอกชนสู่นโยบายรัฐบาล ยันทำทุกทางให้ไทยเป็นคู่ค้าที่ได้เปรียบ ไม่ปิดกั้นนโยบายคนอื่น ขอให้วินวินทุกฝ่าย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมหารือกับสภาหอการค้าไทยว่า ตนและทีมงานได้มาพบกับทางคณะกรรมการสภาหอการค้าไทย เหมือนกับวันที่เราไปเยี่ยมที่สภาอุตสาหกรรม เราพยายามที่จะไปพบกับภาคเอกชนก่อนที่จะเข้าไปบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อที่จะได้รับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลได้สนับสนุนหรือแก้ไข จะรวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เพื่อเวลาเข้าไปทำงานจะได้ดำเนินการให้ทุกอย่าง ขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็ว มาพบกับคณะผู้บริหารสภาหอการค้าไทย ถือว่าเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ เรารับฟังข้อเสนอแนะข้อกังวล สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลได้ดำเนินการ เพื่อทำให้เกิดความคล่องตัว ทั้งด้านการเงิน ภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย พลังงาน การส่งออก แรงงาน และโอกาสต่างๆ สำหรับประเทศไทยในอนาคต ได้มีการหารือลงในรายละเอียดมากพอสมควร และจะต้องมีการพบกันเป็นประเด็นไปหากมีความจำเป็น แต่ในภาพรวมจะหาโอกาสมาหารือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อถามว่า หารือแล้วได้จัดเตรียมมาตรการความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง นายอนุทิน เผยว่า รับฟังปัญหาต่างๆ เรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการ แรงงาน ภาษี ขนส่งต่างๆ เราพยายามที่จะทะลายข้อจำกัดที่มีอยู่ ไม่จำเป็นไม่ปิดกั้นโอกาส ส่วนรายละเอียด ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะนำสิ่งเหล่านี้ไปหาทางทำให้คล่องตัวขึ้น […]

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]