‘ภูมิธรรม’ ย้ำห้ามทำร้ายร่างกาย-ใช้ทหารเกณฑ์ซัก กกน.

ดอนเมือง 8 เม.ย.- ‘ภูมิธรรม’ เผย คุยทุก ผบ.เหล่าทัพ ย้ำ ห้ามมีกรณีทำร้ายร่างกายหรือใช้ทหารเกณฑ์ซักกางเกงในอีก ให้ดูแลทหารเกณฑ์เหมือนลูกหลาน ย้ำ ถ้าพบ ต้องลงโทษตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาหน่วยลงมา


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาตรวจเยี่ยมการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ารับราชการทหารกองประจำการ ที่แหล่งชุมนุมข้าราชการ กรมทหารสื่อสารกองบัญชาการกองทัพไทย โดยเดินทักทายและพูดคุยกับประชาชนที่มาเข้ารับการตรวจเลือก รวมถึงญาติที่มาในวันนี้ เพื่อสื่อสารการดำเนินนโยบายเกณฑ์ทหารของกระทรวงกลาโหมและรัฐบาล พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลดำเนินนโยบายปฏิรูปกองทัพมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเกณฑ์ทหารก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา ประเทศไทยมีทหารจำนวนมากเนื่องจากสถานการณ์ภายในประเทศ ซึ่งในขณะนี้ที่ความต้องการจำนวนทหารลดลงจึงต้องปรับลดจำนวนทหาร โดยเฉพาะในระดับนายพล ผ่านนโยบาย Early Retire จากนั้นจะปิดตำแหน่งที่ไม่ใช่ตำแหน่งหลัก รวมถึงลดยอดการสมัครโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดจะทำให้ยอดของพลทหารที่เข้ารับการเกณฑ์ในแต่ละปีลดลงไปด้วย ในทางกลับกัน จากจำนวนทหารที่ลดลงก็จะเน้นให้สร้างกำลังพลให้มีประสิทธิภาพในการรบมากขึ้น ให้สอดคล้องต่อการรับมือความท้าทายรูปแบบใหม่ และเพียงพอในการป้องกันอธิปไตยของประเทศ

นายภูมิธรรม ย้ำว่า ได้หารือกับผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ถึงการแก้ไขปัญหาด้านความรุนแรงที่มีต่อทหารเกณฑ์ รวมถึงการนำทหารเกณฑ์ไปรับใช้ผิดประเภท ซึ่งผู้บัญชาการถูกเหล่าทัพ เห็นพ้องกันว่าไม่ต้องการให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น จึงวางแนวทางป้องกันให้เคร่งครัดยิ่งขึ้น เช่น การนำครูฝึกไปอบรม รวมทั้งได้ลงนามคำสั่งการ ว่าหากเกิดกรณีเหล่านี้ ให้ดำเนินการลงโทษตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาลงมาอย่างเด็ดขาด ไม่มีการช่วยเหลือ โดยเน้นย้ำผู้บังคับบัญชาคอยสอดส่องการฝึก เช่น อาจตรวจสอบผ่านกล้อง CCTV เป็นต้น เพื่อลดการเกิดกรณีเหล่านี้ลง


“ตอนนี้เราก็พยายามจะเอาเทคโนโลยีเข้ามา แล้วก็ลดกำลังพล ตัดกำลังพล เรื่องไม่สบายใจก็บอกได้ เมื่อกี๊ผมพูดกับผู้ปกครองไปแล้วว่า ท่านไม่ต้องกังวลนะ วันนี้ที่เราอบรมผู้ฝึกของเราก็คือว่าให้ดูแลเขา เหมือนลูกหลานของเรา ถ้าเราไม่ทำอะไรกับลูกหลานเรา ก็ต้องไม่ทำอะไรกับเขาด้วย ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่จะถูกปลูกฝังมากขึ้นเรื่อยๆ และจะดีขึ้นเรื่อยๆ”

นอกจากนี้ นายภูมิธรรมยังได้กล่าวถึงการพัฒนานโยบายสมัครใจเป็นทหารว่า จะเน้นการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น ว่าได้มีการประสานกับสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อทำหลักสูตรฝึกวิชาชีพใหม่ ๆ ให้กับทหารเกณฑ์ รวมถึงส่งเสริมด้านการสร้างอาชีพ เช่น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตามธนาคารหรือบริษัทต่าง ๆ ที่ปัจจุบัน ผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้มักเป็นคนงานจากประเทศเพื่อนบ้าน หากสามารถจูงใจผู้ประกอบการ และเสนอให้สงวนอาชีพดังกล่าวเฉพาะกำลังพลที่ผ่านการเกณฑ์ทหาร ก็จะเป็นการรับรองการประกอบอาชีพหลังจากผ่านการเกณฑ์ทหารได้ นอกจากนี้ ยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) ในการคัดเลือกทหารกองประจำการ ทหารกองหนุน และทหารอาสาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็น ข้าราชการ กรุงเทพมหานครสามัญด้วย ซึ่งนายภูมิธรรมย้ำว่า นโยบายเหล่านี้จะดีขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่ค่อย ๆ พัฒนาไป

ทั้งนี้ พ.อ.หญิง ดังใจ สุวรรณกิตติ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ณ จุดตรวจเลือกทหารที่นายภูมิธรรม ตรวจเยี่ยมในเช้าวันนี้ มียอดเรียกตาม สด.16 จำนวน 408 คน ผ่อนพัน จำนวน 205 คน เข้ารับการตรวจเลือก จำนวน 203 คน มีความต้องการตามเขตจำนวน 43 คนจำนวนผู้สมัครใจ 13 คน ดังนั้น จะมีผู้เข้ากระบวนการทั้งสิ้น 109 คน ซึ่งนายภูมิธรรม ได้มอบใบ สด.43 ให้กับผู้ที่สมัครใจเข้ารับราชการเกณฑ์ทหารในปีนี้จำนวนหนึ่งด้วย -313 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]

กกต. จัดโรดโชว์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง” เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ย.- กกต. จัดกิจกรรมโรดโชว์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง” เลือกตั้ง สส. เขต 5 ศรีสะเกษ “สันทัด” หวังคนออกมาใช้สิทธิด้วยความ สุจริต ลดบัตรเสีย นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานพิธีเปิด กิจกรรมโรดโชว์ (Road Show) “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ เขต 5 ที่สนามกีฬาวงกลม อำเภอขุนหาญ กิจกรรมโรดโชว์ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการเลือกตั้ง สส. แทนตำแหน่งที่ว่าง และเชิญชวนให้ประชาชนอำเภอขุนหาญและภูสิงห์ ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. โดยกิจกรรมดังกล่าว มีพิธีปล่อยขบวนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อเชิญชวนประชาชนออกไปแสดงพลังและใช้สิทธิเลือกตั้ง ภายใต้เจตนารมณ์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง การเลือกตั้ง สส. แทนตำแหน่งที่ว่าง” เพื่อร่วมกันรณรงค์ขับเคลื่อนประชาธิปไตย นายสันทัด […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี ตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี และตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเร่งเทปูน 500 ลบ.ม. อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติม

กทม. 25 ก.ย.-ผู้ว่าฯ กทม. ชี้ “เขตภัยพิบัติ” เป็นประกาศตามเหตุการณ์ ไม่ได้ระบุระยะทาง เร่งเทปูน 500 ลูกบาศก์เมตร อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติมจุดทรุด เตรียมกระสอบทราย-เครื่องสูบน้ำรับมือทันที นายชัชชาติ สิทธพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุถนนสามเสนทรุดตัวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมาว่า นายกฯ ได้ติดตามสั่งการทุกหน่วยงานมาโดยตลอด ทำให้ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง และได้รับความร่วมมือร่วมใจที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง รวมถึงภาคส่วนเอกชนต่างๆ อีกด้วย ทำให้เหตุการณ์รอบนอกเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็ว เหลือเพียงข้างในที่เป็นเรื่องเชิงเทคนิค นายชัชชาติ ยังบอกอีกว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ หลังเกิดเหตุ 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน และไม่ได้สั่งให้เตรียมการต้อนรับแต่อย่างใด ท่านมาแบบตามสบาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากที่ท่านนายกฯ ได้แวะมาเยี่ยมเยียนพูดคุยให้กำลังใจกัน มีปัญหาอะไรก็คุยกัน นายชัชชาติ เปิดเผยอีกว่า วันนี้จะมีการเทปูนลง 500 ลูกบาศก์เมตรไปในถนนทรุด แต่สิ่งที่ต้องมีการประเมินต่อคือ ปูนไหลลงไปในอุโมงค์เท่าไร เนื่องจากยังอุดกระสอบทรายได้ไม่เต็มที่ จึงมีปูนบางส่วนที่ไหลไปในอุโมงค์หรือสถานี อุปสรรคคือการเทปูนไปแล้วไม่ลงตรงจุด เนื่องจากปูนจะไหลไปในจุดที่ต่ำสุดเช่นเดียวกับการไหลของดิน […]