ดอนเมือง 8 เม.ย.- ‘ภูมิธรรม’ เผย คุยทุก ผบ.เหล่าทัพ ย้ำ ห้ามมีกรณีทำร้ายร่างกายหรือใช้ทหารเกณฑ์ซักกางเกงในอีก ให้ดูแลทหารเกณฑ์เหมือนลูกหลาน ย้ำ ถ้าพบ ต้องลงโทษตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาหน่วยลงมา
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาตรวจเยี่ยมการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ารับราชการทหารกองประจำการ ที่แหล่งชุมนุมข้าราชการ กรมทหารสื่อสารกองบัญชาการกองทัพไทย โดยเดินทักทายและพูดคุยกับประชาชนที่มาเข้ารับการตรวจเลือก รวมถึงญาติที่มาในวันนี้ เพื่อสื่อสารการดำเนินนโยบายเกณฑ์ทหารของกระทรวงกลาโหมและรัฐบาล พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลดำเนินนโยบายปฏิรูปกองทัพมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเกณฑ์ทหารก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา ประเทศไทยมีทหารจำนวนมากเนื่องจากสถานการณ์ภายในประเทศ ซึ่งในขณะนี้ที่ความต้องการจำนวนทหารลดลงจึงต้องปรับลดจำนวนทหาร โดยเฉพาะในระดับนายพล ผ่านนโยบาย Early Retire จากนั้นจะปิดตำแหน่งที่ไม่ใช่ตำแหน่งหลัก รวมถึงลดยอดการสมัครโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดจะทำให้ยอดของพลทหารที่เข้ารับการเกณฑ์ในแต่ละปีลดลงไปด้วย ในทางกลับกัน จากจำนวนทหารที่ลดลงก็จะเน้นให้สร้างกำลังพลให้มีประสิทธิภาพในการรบมากขึ้น ให้สอดคล้องต่อการรับมือความท้าทายรูปแบบใหม่ และเพียงพอในการป้องกันอธิปไตยของประเทศ
นายภูมิธรรม ย้ำว่า ได้หารือกับผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ถึงการแก้ไขปัญหาด้านความรุนแรงที่มีต่อทหารเกณฑ์ รวมถึงการนำทหารเกณฑ์ไปรับใช้ผิดประเภท ซึ่งผู้บัญชาการถูกเหล่าทัพ เห็นพ้องกันว่าไม่ต้องการให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น จึงวางแนวทางป้องกันให้เคร่งครัดยิ่งขึ้น เช่น การนำครูฝึกไปอบรม รวมทั้งได้ลงนามคำสั่งการ ว่าหากเกิดกรณีเหล่านี้ ให้ดำเนินการลงโทษตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาลงมาอย่างเด็ดขาด ไม่มีการช่วยเหลือ โดยเน้นย้ำผู้บังคับบัญชาคอยสอดส่องการฝึก เช่น อาจตรวจสอบผ่านกล้อง CCTV เป็นต้น เพื่อลดการเกิดกรณีเหล่านี้ลง
“ตอนนี้เราก็พยายามจะเอาเทคโนโลยีเข้ามา แล้วก็ลดกำลังพล ตัดกำลังพล เรื่องไม่สบายใจก็บอกได้ เมื่อกี๊ผมพูดกับผู้ปกครองไปแล้วว่า ท่านไม่ต้องกังวลนะ วันนี้ที่เราอบรมผู้ฝึกของเราก็คือว่าให้ดูแลเขา เหมือนลูกหลานของเรา ถ้าเราไม่ทำอะไรกับลูกหลานเรา ก็ต้องไม่ทำอะไรกับเขาด้วย ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่จะถูกปลูกฝังมากขึ้นเรื่อยๆ และจะดีขึ้นเรื่อยๆ”
นอกจากนี้ นายภูมิธรรมยังได้กล่าวถึงการพัฒนานโยบายสมัครใจเป็นทหารว่า จะเน้นการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น ว่าได้มีการประสานกับสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อทำหลักสูตรฝึกวิชาชีพใหม่ ๆ ให้กับทหารเกณฑ์ รวมถึงส่งเสริมด้านการสร้างอาชีพ เช่น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตามธนาคารหรือบริษัทต่าง ๆ ที่ปัจจุบัน ผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้มักเป็นคนงานจากประเทศเพื่อนบ้าน หากสามารถจูงใจผู้ประกอบการ และเสนอให้สงวนอาชีพดังกล่าวเฉพาะกำลังพลที่ผ่านการเกณฑ์ทหาร ก็จะเป็นการรับรองการประกอบอาชีพหลังจากผ่านการเกณฑ์ทหารได้ นอกจากนี้ ยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) ในการคัดเลือกทหารกองประจำการ ทหารกองหนุน และทหารอาสาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็น ข้าราชการ กรุงเทพมหานครสามัญด้วย ซึ่งนายภูมิธรรมย้ำว่า นโยบายเหล่านี้จะดีขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่ค่อย ๆ พัฒนาไป
ทั้งนี้ พ.อ.หญิง ดังใจ สุวรรณกิตติ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ณ จุดตรวจเลือกทหารที่นายภูมิธรรม ตรวจเยี่ยมในเช้าวันนี้ มียอดเรียกตาม สด.16 จำนวน 408 คน ผ่อนพัน จำนวน 205 คน เข้ารับการตรวจเลือก จำนวน 203 คน มีความต้องการตามเขตจำนวน 43 คนจำนวนผู้สมัครใจ 13 คน ดังนั้น จะมีผู้เข้ากระบวนการทั้งสิ้น 109 คน ซึ่งนายภูมิธรรม ได้มอบใบ สด.43 ให้กับผู้ที่สมัครใจเข้ารับราชการเกณฑ์ทหารในปีนี้จำนวนหนึ่งด้วย -313 .-สำนักข่าวไทย