ทอ.ทดสอบ ‘กริพเพน’ ขึ้น-ลง บนถนนหลวงครั้งแรก

หาดใหญ่ 27 ก.พ.- กองทัพอากาศ ทดสอบเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบที่ 20/ก (Gripen) วิ่งขึ้น-ลง ถนนทางหลวงครั้งแรก เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจโดยไม่ใช้สนามบิน ให้มีความปลอดภัย และพัฒนาขีดความสามารถในการปกป้องอธิปไตยของชาติให้มีความมั่นคง


พลอากาศเอก พันธ์ภักดี  พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมสังเกตการณ์การทดสอบการบินขึ้น-ลงบนถนนหลวงครั้งแรกของเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบที่ 20/ก (Gripen) บนถนนทางหลวง หมายเลข 4287 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตามยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศ ในการเพิ่มขีดความสามารถของเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบที่ 20/ก (Gripen) ให้มีความอ่อนตัวในการวางกำลังและการปฏิบัติภารกิจได้จากทุกสนามบินและในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมทั่วประเทศ ขณะเดียวกันยังเป็นการทดสอบขีดความสามารถและเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจโดยไม่ใช้สนามบินให้มีความปลอดภัย และเพิ่มขีดความสามารถเชิงยุทธศาสตร์ในการวางกำลัง พร้อมระดมสรรพกำลังสำหรับภารกิจด้านความมั่นคงของชาติให้มีความเข้มแข็งและมั่งคง

โดย ผู้บัญชาการทหารอากาศ เปิดเผยภายหลังการทดสอบว่า ภาพรวมประสบความสำเร็จและมีความปลอดภัย ได้รับเกินความคาดหมาย เกินความคาดหวังคือความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ตำบลฉลุ และหน่วยงานราชการ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ตั้งแต่กำหนดจุดพื้นที่ กรมทางหลวงตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา หน่วยงานราชการ มีความร่วมมือกันเป็นอย่างดีทำให้วันนี้ประสบความสำเร็จ ซึ่งวันนี้เราปิดเส้นทางในระยะหนึ่งอาจจะได้รับผล กระทบกับประชาชนบ้างแต่เราได้จัดทางเบี่ยงให้ และตนมองว่าความร่วมมือจากประชาชนไม่ได้มองเป็นการรบกวนหรือทำให้เกิดปัญหาแต่อย่างใด เราได้รับความอบอุ่นจากประชาชน ซึ่งกองทัพอากาศไม่สามารถเดินไปได้เหล่าทัพเดียว ต้องได้รับความร่วมมือ และความร่วมมือถ้าไม่เกิดจากใจก็คงไม่สำเร็จ ทั้งนี้หัวใจเราเกิน ร้อย จนทำให้เกิดประวัติศาสตร์ ในครั้งนี้ ซึ่งเรารู้สึกอิ่มเอมที่ได้รวมตัวกัน เพื่อความมั่นคงมีความสามัคคีกันทั้งนี้ตนเองเชื่อว่าไม่มีอะไรมาทำลายได้ เราอยู่ด้วยความเข้มแข็ง ตนเองได้เอานักบินมาบินประมาณไม่เกิน 30 นาที ดับเครื่อง เติมน้ำมัน และทำการบินขึ้น นักบินของตนอายุ 20 กว่าๆ เราก็สร้างมาจากเยาวชน โดยหวังว่าวันนึงน้องๆในพื้นที่แห่งนี้อาจจะเป็นทหารอากาศของเราในอนาคต เป็นแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดความสามัคคีความรักชาติและเด็กๆก้สามารถเข้ามาเป็นส่วนร่วมของกองทัพอากาศได้


พร้อมย้ำว่า วันนี้เป็นการปฎิบัติภารกิจ โดย กองทัพอากาศ มองความสามารถหลายอย่าง และขีดความสามารถหนึ่งของ Gripen คือการสนับสนุนภารกิจที่เรียกว่า turn around time การติดอาวุธจรวดการเติมน้ำมันจะสั้นมาก เราตั้งไว้ประมาณ 30 นาที ตั้งแต่ดับเครื่องยนต์ เติมน้ำมัน ติดอาวุธ ซึ่งเราใช้เวลาไป 25 ถึง 27 นาที ถือว่าเป็นไปตามข้อกำหนดตั้งแต่ต้น และสามารถทำได้จริง ขณะเดียวกัน ความสามารถอีกอย่างของกริพเพ่น คือการลงถนนนอกพื้นที่ เราก็อยากทำแต่ถ้าไม่ได้ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ก็จะไม่สามารถทำได้สำเร็จ นอกจากนี้ภารกิจยุทธการของกองทัพอากาศ ก็ประสบความสำเร็จ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพขีดความสามารถ ว่าเราสามารถไปได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย รวมถึงความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่ดีต่อกัน

เมื่อถามว่านี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์เลยหรือไม่นั้น ระบุว่า กองทัพอากาศเคยจัดงาน และมีแอร์โชว์จะมีหลายๆประเทศมาร่วมจัดแสดง และเมื่อวันเด็กที่ผ่านมาเราก็จัดใหญ่งาน ตลอดจนงาน 88 ปีที่จะถึงนี้ ก็จะมีมีมหาอำนาจหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐที่นำเครื่องบิน F-35 มาแสดงการบิน จีนก็นำหมู่บินผาดแผง และออกัส ซึ่งมีความสวยงามและยิ่งใหญ่ ส่วนอินเดียนำหมู่บินผาดแผงสุริยะคีรัน ก็มีความงดงามมากเช่นกัน ขณะที่สิงคโปร์ก็มีเครื่องบินหลายแบบ ส่วนสวีเดนเองก็ส่ง Simulator gripen e มาให้ได้ ชมและก็มีในส่วนของกองทัพอากาศไทยเองด้วย เราอยากสร้างแรงบันดาลใจและความร่วมมือร่วมใจระหว่างกองทัพอากาศ เหล่าทัพและคนภายในชาติ

เมื่อถามว่านอกจากถนนเส้นนี้ ในอนาคตจะมีการประสานกับกรมทางหลวง เพื่อให้มีการสร้างถนนในลักษณะแบบนี้ในพื้นที่อื่นๆอีกหรือไม่นั้น ผู้บัญชาการทหารอากาศกล่าวว่า อนาคตคงมีความร่วมมือกับภาครัฐที่เกี่ยวข้องเช่นเดิม เรามีช่องทางแล้วว่าจะติดต่อหน่วยงานไหน และอาจต้องดูพื้นที่ทั่วประเทศในการทำทาง เพื่อรองรับเป็นพื้นที่ที่เป็นสนามบินสำรอง


สำหรัลการทดสอบวันนี้เป็นการปฏิบัติงานเชิงกองทัพก็จะนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เช่นเดียวกันและท่านก็มองว่าให้เอาขีดความสามารถในประเทศและขอให้กองทัพอยู่คู่กับประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องภัยพิบัติ หรือเหตุการณ์ต่างๆน้ำท่วมไฟป่า ซึ่งเราก็ปฎิบัติภารกิจอยู่แล้ว แต่การเข้าถึงประชาชนก็เป็นอีกนโยบายหนึ่ง ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเคยมอบไว้

สำหรับผลการทดสอบ แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของเครื่องบินขับไล่ ที่สามารถขึ้น-ลงบนถนนได้ หากเกิดเหตุสนามบินถูกทำลาย ซึ่งเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบที่ 20/ก (Gripen) ใช้ระยะทางวิ่งสั้นมาก 700-800 เมตร นับเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการปฏิบัติภารกิจผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน เป็นบททดสอบสำคัญหลายมิติ ได้แก่

  • ความพร้อมอากาศยานต่อการตอบสนองภารกิจ ต้องรวดเร็ว ทันเวลา และมีประสิทธิภาพ
  • ขีดความสามารถของนักบิน ต้องมีทักษะ ความรู้ และได้รับการฝึกตามมาตรฐานที่กำหนด เพื่อให้เกิดความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุด
  • ความร่วมมือร่วมใจของทุกหน่วยงานและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันวางแผนและสร้างการมีส่วนทุกภาคส่วน
  • ภารกิจด้านความมั่นคง ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและประเทศชาติ-313 .-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]