สถานการณ์น้ำทุกพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติ

ทำเนียบ 3 ธ.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผยสถานการณ์น้ำทุกพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติ ด้าน ‘ภูมิธรรม’ กำชับเร่งโอนเงินเยียวยาให้เร็วที่สุด เตรียมเข้าสู่โหมดบริหารจัดการน้ำช่วงหน้าแล้ง

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. รับทราบรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า สถานการณ์อุทกภัยภาคใต้คลี่คลายทุกพื้นที่แล้ว ระดับน้ำกลับสู่ภาวะปกติ เหลือเพียงการสูบน้ำออกจากสวนส้มโอทับทิมสยาม อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช คาดแล้วเสร็จ 1-2 วันนี้ สอดคล้องกับกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ระยะนี้ฝนใต้ลดลง อาจมีฝนอีกครั้งช่วงวันที่ 10 -12 มกราคมนี้ บริเวณฝั่งอ่าวไทยตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีลงไป แต่ไม่รุนแรงหรือตกต่อเนื่องจนเกิดน้ำท่วมเหมือนที่ผ่านมา


อย่างไรก็ตาม ผอ.ศปช. สั่งการให้ยังคงเครื่องมือ เครื่องจักร และบุคลากร พร้อมดูแลช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ระบุว่า จากข้อมูลปริมาณน้ำทั่วประเทศ ปีนี้มีน้ำมากกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย เป็นน้ำใช้การได้ทั้งจากแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก รวม 38,389 ล้านลูกบาศก์เมตร ภาพรวมภูมิภาคต่างๆ ไม่น่ากังวลปัญหาภัยแล้ง แต่ที่ต้องติดตามเป็นพิเศษคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีน้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 9

“ปัจจุบัน พื้นที่ภาคใต้สถานการณ์น้ำกลับสู่ภาวะปกติแล้ว แม้ช่วงเดือนมกราคมจะมีฝนตกบ้างตามฤดูกาล แต่ไม่น่ากังวลว่าจะทำให้เกิดอุทกภัย ช่วงต่อไปต้องเน้นบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะภาคอีสาน เพราะปีนี้มีน้ำเพียง 69% จากปีที่ผ่านมามีอยู่ 78% ลุ่มน้ำมูลน่าห่วงใยปัญหาภัยแล้ง ส่วนลุ่มน้ำชีไม่มีปัญหา นอกจากนี้ คือบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ลุ่มน้ำสะแกกรัง หลังเขื่อนทับเสลามีน้ำเพียง 40% ส่วนภูมิภาคอื่นๆ มีน้ำต้นทุนมาก เช่น ภาคเหนือ ปีนี้มีน้ำ 81% มากกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 70% ขณะที่ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก ปริมาณน้ำใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา” นางสาวศศิกานต์ กล่าว


รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยว่า จากการจ่ายเงินเยียวยาตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.67 ขณะนี้โอนเงินสำเร็จแล้ว 3 ครั้ง จำนวน 166,795 ครัวเรือน เป็นเงิน 1,501,155,000 บาท และวันนี้ (3 ม.ค.) และวันที่ 6 มกราคม 2568 จะโอนเงินถึงมือผู้ประสบภัยอีกรวม 71,516 ครัวเรือน พร้อมกันนี้ ผอ.ศปช. ได้กำชับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ( ปภ.) เร่งดำเนินการให้ถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมงไทย

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

ตร.-ผอ.รพ.แจงวิสามัญผู้ป่วยคลั่ง ทำตามยุทธวิธี

ตำรวจ-รพ. แถลงเหตุวิสามัญผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบ คลั่งกลาง รพ.สุรินทร์ ตำรวจแจงทำตามยุทธวิธี แต่ผู้ป่วยมีอาการคลั่ง ไม่สงบ จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อระงับเหตุ ด้าน รพ. เผยเหตุดังกล่าวเกือบเสียคนไข้อีกคน ส่วนกล้องวงจรปิด พบว่าใช้การไม่ได้ อยู่ระหว่างการเปลี่ยน

เพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกสำเร็จรูป อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จนท.ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงได้ คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน