“เอกนัฏ” มอง “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง โอกาสลงทุนไทย

ทำเนียบ 12 พ.ย.- “เอกนัฏ” มอง “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง เป็นโอกาสการลงทุนไทย หากปรับตัวทัน ย้ำต้องอย่าให้ไทยเป็นเป้า ถูกสหรัฐมองเป็นฐานผลิตสำรองให้จีน


นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายโดนัล ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ภาคส่วนอุตสาหกรรมของไทยต้องรับมืออย่างไร ว่า เท่าที่ตนได้คุยกับ BOI ในฐานะที่เป็นรองประธานบอร์ดด้วย เราก็อยากดึงเม็ดเงินการลงทุนจากทุกประเทศ ไม่ใช่เฉพาะจีน สหรัฐ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ซึ่งรัฐบาลใหม่ของสหรัฐ ก็ต้องรอดูมาตรการที่ออกมา เพราะสิ่งที่ประกาศปล่อยเป็นช่วงที่เป็นการเลือกตั้ง แน่นอนว่าวันนี้สหรัฐเน้นการผลิตใช้ในประเทศ พยายามลดการนำเข้า ซึ่งก็น่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศคู่ค้า ดังนั้น จึงอยู่ที่การเตรียมพร้อมของไทยมากกว่า ตนเชื่อว่าสหรัฐจะตัดการส่งออกหาหรือนำเข้าทั้งหมดเลยคงไม่ได้ เรื่องนี้ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

เมื่อถามว่า เซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ที่เราอยากลงทุนเข้ามาเพิ่มจะมีนโยบายอะไรหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า การที่ทรัมป์ชนะ ทุกคนคาดการณ์ว่าอาจทำให้สถานการณ์การกีดกันทางการค้าสินค้าจากประเทศจีนหนักขึ้น ซึ่งน่าจะมีการย้ายฐานจากประเทศจีน หรือในภูมิภาคมาที่ประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้น ปรากฎการณ์นี้ต้องทำให้เป็นประโยชน์กับคนไทย เพราะเราเห็นว่ามีความต้องการเข้ามาในประเทศไทยสูงขึ้นมาก ก็อยู่ที่การตั้งเงื่อนไขว่าทำอย่างไรให้บริษัทที่เข้ามาลงทุนในไทยเกิดประโยชน์กับไทยมากที่สุด ซึ่งตนไม่ขอใช้คำว่าโลคัลคอนเทนต์ แต่ขอใช้คำว่า ไทยคอนเทนต์ โดยมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นเป็นคนไทยเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ เท่าที่ต่อรองพูดคุย หลายบริษัทยินดีที่จะร่วมทุนกับคนไทย แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ถูกเป็นเป้าจากสหรัฐว่าประเทศไทยเป็นเหมือนฐานการผลิตสำรองของจีน ซึ่งในความเป็นจริงก็ไม่ใช่แบบนั้น เพราะเราต้อนรับเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศอยู่แล้ว


“วันนี้ที่เข้ามาก็ไม่ได้มีเฉพาะจีน มีสิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาก็มี ขอยกตัวอย่างเรื่อง Data Center ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนจากสหรัฐก็เข้ามาลงทุนเช่นกัน เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ วันนี้อเมริกาเป็นผู้นำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศไทยรายใหญ่ ซึ่งลักษณะแบบนี้ก็คงเป็นต่อไปในอนาคต จึงต้องระมัดระวัง ผมคุยกับ BOI ถึงยุทธวิธีในการลงทุนใหม่ๆ รวมถึงวิธีในการกำหนดเงื่อนไข เพื่อให้คนไทยได้ประโยชน์สูงสุด” นายเอกนัฏ กล่าว

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งสหรัฐ หลายคนกังวลว่ามันจะเป็นปัญหา แต่หากเราปรับมาตรการ ปรับตัวให้ทัน ตนกลับมองว่าอาจจะเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยก็ได้ วันนี้รัฐบาลไม่ใช่แค่ดึงเม็ดเงินการลงทุนหรือฐานการผลิตมาสู่ประเทศ แต่ต้องคิดด้วยว่า จะกำหนดเงื่อนไขหรือมีวิธีการใด การลงทุนที่เกิดขึ้นเกิดประโยชน์สูงสุดกับคนไทย และบริษัทไทย .314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม