“พิธา”​ เปิดใจอีกครั้ง มั่นใจในข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย

รัฐสภา 7 ส.ค.-“พิธา”​ ร่วมประชุมสภา​ เปิดใจอีกครั้งก่อนศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล บ่ายวันนี้ ยังคงมั่นใจในข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและข้อต่อสู้ของก้าวไกล พร้อมเดินหน้าทำหน้าที่ สส.​ต่อ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. รายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลให้สัมภาษณ์ ก่อนเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ไม่ได้รู้สึกเครียดและเมื่อคืนนอนหลับตั้งแต่สี่ทุ่มครึ่ง นอน 8 ชั่วโมง ซึ่งในวันนี้ได้ เข้าร่วมการประชุมสภาซึ่งตอนแรกจะอภิปรายร่างพระราชบัญญัติขนส่งทางบก แต่ดูจากเวลาแล้วจะล่วงเลยเวลาไปในช่วงบ่าย เกรงว่าจะเดินทางไปศาล รัฐธรรมนูญ ไม่ทัน ซึ่งขณะนี้มีความเป็นห่วงเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ จึงจะใช้โอกาสนี้หารือในที่ประชุมสภา ในช่วงสาย ซึ่งขณะนี้น้ำท่วมไปแล้ว 37 จังหวัดการเยียวยามีความล่าช้าประชาชนไม่มีเงินหมุนทันจึงอยากจะเร่งทางรัฐบาล


นายพิธา กล่าวว่า ส่วนอนาคตหลังจากนี้หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ก็ยังไม่ได้มีการวางแผนอะไร และเป็นไปตามปกติ พรุ่งนี้ก็เข้ามาประชุมสภา ซึ่งจะมีการตั้งกระทู้ถาม อาจจะเป็นผู้นำฝ่ายค้านถามนายกรัฐมนตรีครบรอบหนึ่งปีในการทำงาน และมีอะไรที่จะเสนอแนะรัฐบาลบ้าง ซึ่งตนก็ยังทำงานตามปกติ แต่แน่นอนว่าถ้าคำตัดสินออกมามาไม่เป็นคุณ เราก็ยังมีแผนงานอยู่ดี เช่น ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ก็จะอยู่ที่จังหวัดราชบุรี และยังเดินหน้าทำงานทางการเมืองต่อไป เป็นนักการเมือง เป็น สส. ก็ทำงานทางการเมืองเป็นพลเมืองก็ทำงานการเมืองได้

“ผมก็ยังยืนยันว่า ยังมั่นใจในแนวทางในการต่อสู้ยังมั่นใจในข้อเท็จจริง ยังมั่นใจในข้อกฎหมายและคิดว่าจะได้รับความเป็นธรรมในบ่ายวันนี้ ซึ่งตอนนี้ เรายังไม่ถึงยังมีเวลาอีก 2- 3 ชั่วโมง ขอทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรให้สมกับที่ประชาชนเลือกมาก่อน” นายพิธา กล่าว


ทั้งนี้ ยังไม่มีการเช็คสัญญาณอะไร และเมื่อคืนก็นอนหลับตามปกติ และได้มีการรับประทานอาหารกับเพื่อน สส. ซึ่งบรรยากาศการประชุมพรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้ ยังมีความเป็นเอกภาพ มีความสามัคคี และไม่มีความกังวล แต่ก็ไม่ประมาทเข้าใจว่าอย่างไรพรรคเราก็ไปต่อได้แน่นอน

ส่วนกระแสการซื้องูเห่า ที่มีจำนวนเงินถึง 20-30 ล้านบาท นายพิธา กล่าวว่า ตนมีโอกาสได้เห็นหลักฐานบ้าง จากโทรศัพท์ของคนอื่น จากหลายๆพรรค บ้างก็มาเป็นจำนวนเงินอย่างที่มีข่าวออกไป บางอันก็มาเป็นตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคบ้าง ตำแหน่งโน้นตำแหน่งนี้บ้าง สส. ก็นำมาให้ดู เขาบอกว่ายินดีที่จะเดินทางต่อไปกับพรรคก้าวไกลแน่นอน

“เงินซื้อเขาไม่ได้ ตำแหน่งซื้อเขาไม่ได้ เพราะคือความไว้วางใจที่ประชาชนให้มา จะไม่เอาไปแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวแน่นอน ซึ่งผมก็รู้สึกเบาใจ แต่ให้ประชาชนรู้ว่ามีการเมืองใต้เข็มขัด มีการเมืองสกปรกแบบนี้อยู่จริงๆบ้านเมืองเราในช่วงเวลาแบบนี้” นายพิธา กล่าว


ส่วนเป็นเพราะรู้ว่าอนาคตจะออกมาเป็นอย่างไรจึงมีความพยายามซื้อตัวคนของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เขาคงทำไปเพื่อที่จะสร้างให้อนาคตมันเป็นแบบนั้น แต่ถ้าเราไม่ยอมซะอย่างอนาคตก็จะเป็นไปอย่างที่เราต้องการอยากให้เป็น มั่นใจว่าอุดมการณ์ของพรรคจะสามาถพลิกไม่ทำให้เป็นงูเห่าไปได้ และไม่ใช่แค่อุดมการณ์อย่างเดียว แต่เป็นนโยบายและ ความเชื่อใจของพี่น้องประชาชนด้วยและตนเชื่อมั่นในตัว สส. ทุกคนและว่าที่ผู้สมัครทุกคนที่เราถามอย่างเข้มข้นว่าทำไมอยากมาเล่นการเมืองและทำไมต้องกับพรรคก้าวไกล ซึ่งการที่เราถามย้ำ ทำให้เชื่อว่าทุกคนยังจำได้ อยู่เสมอว่ามาเล่นการเมืองเพราะอะไร

ส่วนคนที่มาเสนอซื้อตัว สส. พรรคก้าวไกล ยังเป็นคนเดียวกับที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยวานนี้หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คิดว่ามีเยอะมากกว่านั้น

ส่วนการตั้งพรรคสำรองที่มีข่าวออกมาว่าเป็นพรรคถิ่นกาขาวฯ นั้น นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้โฟกัสเรื่องการประชุมสภาและไปฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญตอนบ่าย

นอกจากนี้การที่ปรากฏภาพ นายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ได้พบกับพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา องคมนตรี คิดว่าสถานการณ์การเมืองเข้าสู่ปกติแล้วหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เห็นแต่รูปออกมา ตนก็ไม่รู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไรและตอนนี้ก็คงไม่มีความคิดเห็นอะไรมากไปกว่านี้ อีกอย่างเป็นงานพระราชทานเพลิงศพ ของมารดานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้ โฟกัสแต่เรื่องที่จะไปปรึกษาหารือเรื่องการบริหารจัดการน้ำ และส่วนตัวสนใจแต่ประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง

เมื่อถามว่า อยากจะบอกอะไรหรือไม่ เพราะวันนี้มีการตีความไปในลักษณะที่ว่าจะโดนยุบพรรคแน่นอน นายพิธา กล่าวว่า ยังมั่นใจในข้อเท็จจริงและมั่นใจในข้อกฎหมายและได้ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่อย่างที่เป็นไปได้ ช่วงนี้ก็ต้องมีสมาธิในการประชุมสภาช่วงเช้าก่อน เพราะฉะนั้นไม่ได้มีความกังวลและไม่ได้คิดอะไรล่วงหน้าไปกว่างานที่ต้องทำในตอนนี้ และส่วนตัวสนใจประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง และที่ทำงานที่พรรคเป็นอันดับสอง และเรื่องของพรรคที่จะเกิดขึ้นช่วงบ่ายนี้ ไม่ได้สนใจเรื่องอื่น พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับ น.ส.จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักมวยหญิงชาวไทย ที่คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิค

เมื่อถามว่า เสียกำลังใจหรือไม่ ที่นักวิชาการฟันธงออกมาในทางลบ นายพิธา กล่าวว่า เราไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรใคร เพราะเป็นข้อเท็จจริง และตั้งแต่ปี 2549 ที่สภารวบรวมข้อมูลมา พบว่า 33 พรรคถูกยุบ ซึ่งตัวเลขที่ออกมารวมกัน 249 คน ตรงนี้ใครเป็นนักสถิติ นักวิชาการ ก็จะรู้สึกแบบนั้นว่าพรรคก้าวไกลต้องถูกยุบแน่ แต่เป็นข้อเท็จจริงว่ามีพรรคที่รอดคำพิพากษาที่ 25 / 53 คือ พรรคประชาธิปัตย์รอด เพราะ กกต. ทำคำร้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งก็คล้ายกับกรณีของพรรคก้าวไกลที่มีอยู่ตอนนี้ ก็คือ กกต. ไม่ได้ทำตามระเบียบของตัวเอง ทำให้ตนไม่มีสิทธิ์ชี้แจงและรับทราบข้อกล่าวหาในชั้น กกต.

ทั้งนี้ ขอยืนยันในคำแถลงที่ชี้แจงความโปร่งใสให้ประชาชนมาโดยตลอด พร้อมยืนยันไม่ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เหมือนพรรคอนาคตใหม่.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]