“พิธา”​ เปิดใจอีกครั้ง มั่นใจในข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย

รัฐสภา 7 ส.ค.-“พิธา”​ ร่วมประชุมสภา​ เปิดใจอีกครั้งก่อนศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล บ่ายวันนี้ ยังคงมั่นใจในข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและข้อต่อสู้ของก้าวไกล พร้อมเดินหน้าทำหน้าที่ สส.​ต่อ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. รายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลให้สัมภาษณ์ ก่อนเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ไม่ได้รู้สึกเครียดและเมื่อคืนนอนหลับตั้งแต่สี่ทุ่มครึ่ง นอน 8 ชั่วโมง ซึ่งในวันนี้ได้ เข้าร่วมการประชุมสภาซึ่งตอนแรกจะอภิปรายร่างพระราชบัญญัติขนส่งทางบก แต่ดูจากเวลาแล้วจะล่วงเลยเวลาไปในช่วงบ่าย เกรงว่าจะเดินทางไปศาล รัฐธรรมนูญ ไม่ทัน ซึ่งขณะนี้มีความเป็นห่วงเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ จึงจะใช้โอกาสนี้หารือในที่ประชุมสภา ในช่วงสาย ซึ่งขณะนี้น้ำท่วมไปแล้ว 37 จังหวัดการเยียวยามีความล่าช้าประชาชนไม่มีเงินหมุนทันจึงอยากจะเร่งทางรัฐบาล


นายพิธา กล่าวว่า ส่วนอนาคตหลังจากนี้หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ก็ยังไม่ได้มีการวางแผนอะไร และเป็นไปตามปกติ พรุ่งนี้ก็เข้ามาประชุมสภา ซึ่งจะมีการตั้งกระทู้ถาม อาจจะเป็นผู้นำฝ่ายค้านถามนายกรัฐมนตรีครบรอบหนึ่งปีในการทำงาน และมีอะไรที่จะเสนอแนะรัฐบาลบ้าง ซึ่งตนก็ยังทำงานตามปกติ แต่แน่นอนว่าถ้าคำตัดสินออกมามาไม่เป็นคุณ เราก็ยังมีแผนงานอยู่ดี เช่น ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ก็จะอยู่ที่จังหวัดราชบุรี และยังเดินหน้าทำงานทางการเมืองต่อไป เป็นนักการเมือง เป็น สส. ก็ทำงานทางการเมืองเป็นพลเมืองก็ทำงานการเมืองได้

“ผมก็ยังยืนยันว่า ยังมั่นใจในแนวทางในการต่อสู้ยังมั่นใจในข้อเท็จจริง ยังมั่นใจในข้อกฎหมายและคิดว่าจะได้รับความเป็นธรรมในบ่ายวันนี้ ซึ่งตอนนี้ เรายังไม่ถึงยังมีเวลาอีก 2- 3 ชั่วโมง ขอทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรให้สมกับที่ประชาชนเลือกมาก่อน” นายพิธา กล่าว


ทั้งนี้ ยังไม่มีการเช็คสัญญาณอะไร และเมื่อคืนก็นอนหลับตามปกติ และได้มีการรับประทานอาหารกับเพื่อน สส. ซึ่งบรรยากาศการประชุมพรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้ ยังมีความเป็นเอกภาพ มีความสามัคคี และไม่มีความกังวล แต่ก็ไม่ประมาทเข้าใจว่าอย่างไรพรรคเราก็ไปต่อได้แน่นอน

ส่วนกระแสการซื้องูเห่า ที่มีจำนวนเงินถึง 20-30 ล้านบาท นายพิธา กล่าวว่า ตนมีโอกาสได้เห็นหลักฐานบ้าง จากโทรศัพท์ของคนอื่น จากหลายๆพรรค บ้างก็มาเป็นจำนวนเงินอย่างที่มีข่าวออกไป บางอันก็มาเป็นตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคบ้าง ตำแหน่งโน้นตำแหน่งนี้บ้าง สส. ก็นำมาให้ดู เขาบอกว่ายินดีที่จะเดินทางต่อไปกับพรรคก้าวไกลแน่นอน

“เงินซื้อเขาไม่ได้ ตำแหน่งซื้อเขาไม่ได้ เพราะคือความไว้วางใจที่ประชาชนให้มา จะไม่เอาไปแลกกับผลประโยชน์ส่วนตัวแน่นอน ซึ่งผมก็รู้สึกเบาใจ แต่ให้ประชาชนรู้ว่ามีการเมืองใต้เข็มขัด มีการเมืองสกปรกแบบนี้อยู่จริงๆบ้านเมืองเราในช่วงเวลาแบบนี้” นายพิธา กล่าว


ส่วนเป็นเพราะรู้ว่าอนาคตจะออกมาเป็นอย่างไรจึงมีความพยายามซื้อตัวคนของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เขาคงทำไปเพื่อที่จะสร้างให้อนาคตมันเป็นแบบนั้น แต่ถ้าเราไม่ยอมซะอย่างอนาคตก็จะเป็นไปอย่างที่เราต้องการอยากให้เป็น มั่นใจว่าอุดมการณ์ของพรรคจะสามาถพลิกไม่ทำให้เป็นงูเห่าไปได้ และไม่ใช่แค่อุดมการณ์อย่างเดียว แต่เป็นนโยบายและ ความเชื่อใจของพี่น้องประชาชนด้วยและตนเชื่อมั่นในตัว สส. ทุกคนและว่าที่ผู้สมัครทุกคนที่เราถามอย่างเข้มข้นว่าทำไมอยากมาเล่นการเมืองและทำไมต้องกับพรรคก้าวไกล ซึ่งการที่เราถามย้ำ ทำให้เชื่อว่าทุกคนยังจำได้ อยู่เสมอว่ามาเล่นการเมืองเพราะอะไร

ส่วนคนที่มาเสนอซื้อตัว สส. พรรคก้าวไกล ยังเป็นคนเดียวกับที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยวานนี้หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คิดว่ามีเยอะมากกว่านั้น

ส่วนการตั้งพรรคสำรองที่มีข่าวออกมาว่าเป็นพรรคถิ่นกาขาวฯ นั้น นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้โฟกัสเรื่องการประชุมสภาและไปฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญตอนบ่าย

นอกจากนี้การที่ปรากฏภาพ นายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ได้พบกับพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา องคมนตรี คิดว่าสถานการณ์การเมืองเข้าสู่ปกติแล้วหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เห็นแต่รูปออกมา ตนก็ไม่รู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไรและตอนนี้ก็คงไม่มีความคิดเห็นอะไรมากไปกว่านี้ อีกอย่างเป็นงานพระราชทานเพลิงศพ ของมารดานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้ โฟกัสแต่เรื่องที่จะไปปรึกษาหารือเรื่องการบริหารจัดการน้ำ และส่วนตัวสนใจแต่ประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง

เมื่อถามว่า อยากจะบอกอะไรหรือไม่ เพราะวันนี้มีการตีความไปในลักษณะที่ว่าจะโดนยุบพรรคแน่นอน นายพิธา กล่าวว่า ยังมั่นใจในข้อเท็จจริงและมั่นใจในข้อกฎหมายและได้ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่อย่างที่เป็นไปได้ ช่วงนี้ก็ต้องมีสมาธิในการประชุมสภาช่วงเช้าก่อน เพราะฉะนั้นไม่ได้มีความกังวลและไม่ได้คิดอะไรล่วงหน้าไปกว่างานที่ต้องทำในตอนนี้ และส่วนตัวสนใจประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง และที่ทำงานที่พรรคเป็นอันดับสอง และเรื่องของพรรคที่จะเกิดขึ้นช่วงบ่ายนี้ ไม่ได้สนใจเรื่องอื่น พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับ น.ส.จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักมวยหญิงชาวไทย ที่คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิค

เมื่อถามว่า เสียกำลังใจหรือไม่ ที่นักวิชาการฟันธงออกมาในทางลบ นายพิธา กล่าวว่า เราไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรใคร เพราะเป็นข้อเท็จจริง และตั้งแต่ปี 2549 ที่สภารวบรวมข้อมูลมา พบว่า 33 พรรคถูกยุบ ซึ่งตัวเลขที่ออกมารวมกัน 249 คน ตรงนี้ใครเป็นนักสถิติ นักวิชาการ ก็จะรู้สึกแบบนั้นว่าพรรคก้าวไกลต้องถูกยุบแน่ แต่เป็นข้อเท็จจริงว่ามีพรรคที่รอดคำพิพากษาที่ 25 / 53 คือ พรรคประชาธิปัตย์รอด เพราะ กกต. ทำคำร้องไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งก็คล้ายกับกรณีของพรรคก้าวไกลที่มีอยู่ตอนนี้ ก็คือ กกต. ไม่ได้ทำตามระเบียบของตัวเอง ทำให้ตนไม่มีสิทธิ์ชี้แจงและรับทราบข้อกล่าวหาในชั้น กกต.

ทั้งนี้ ขอยืนยันในคำแถลงที่ชี้แจงความโปร่งใสให้ประชาชนมาโดยตลอด พร้อมยืนยันไม่ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เหมือนพรรคอนาคตใหม่.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

ส่งตัวพลทหารขับแกร็บ กลับต้นสังกัดกองทัพอากาศ

พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ 15 พ.ค.-ส่งตัวพลทหารขับแกร็บ กลับต้นสังกัดกองทัพอากาศ รับรองความปลอดภัย ขณะตัวผู้พันบินตรงจากอุดรธานี มารับด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายเจ้าตัวขออยู่กรุงเทพฯ ก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี รองผู้บังคับกองพันนายหนึ่งในสังกัดกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี ถูกกล่าวหาว่าใช้ทหารกองประจำการจากจังหวัดอุดรธานีไปขับรถรับส่งผู้โดยสาร (แกร็บ) เพื่อประโยชน์ส่วนตนนั้น และทางผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว และได้มีคำสั่งให้ดำเนินการย้ายรองผู้บังคับกองพันรายดังกล่าว ออกจากตำแหน่งเดิม โดยในวันนี้ได้มีการส่งตัว พลทหารกองประจำการ หรือพลทหารรายดังกล่าว โดยเพจ สายไหมต้องรอด ให้กับกองทัพอากาศ ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ โดยพลอากาศโทประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ร่วมรับตัวทหารกองประจำการ หรือพลทหารคนดังกล่าวที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ และมีการรับรองความปลอดภัยจากนั้นตัวผู้บังคับการกองบินจากจังหวัดอุดรธานีซึ่งเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครในวันนี้ เพื่อรับตัวพลทหารดังกล่าวเพื่อกลับไปทำงานตามสังกัดปกติที่จังหวัดอุดรธานีต่อไป ทั้งนี้สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนตัว นายทหารที่นำพลทหารมาขับแกร็บนั้น ตามระเบียบมีกรอบเวลาอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าจะมีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นนโยบายที่ทางผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ให้ความสำคัญและย้ำมาตลอดในเรื่องของการดูแลทหารกองประจำการหรือพลทหาร ให้เป็นไปตามกฎระเบียบและไม่ให้มีการนำตัวไปใช้งานในลักษณะที่ขัดต่อระเบียบอยู่แล้ว อย่างไร ก็ตาม น.อ.วุฒิกร สุวารี รองโฆษก ทอ.และรองเสนาธิการ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ซึ่งมาร่วมในการรับตัวทหารกองประจำการ ยืนยันความปลอดภัยพร้อมระบุ เพื่อความสบายใจทหารรายดังกล่าว จะให้พักภายในกองบัญชาการทหารอากาศโยธินกรุงเทพมหานครไปก่อน จนกว่าจะมีความสบายใจ และมั่นใจในความปลอดภัย […]

ปิดล้อมพื้นที่ “ชายคลุ้มคลั่ง” ยิงปืนขึ้นฟ้า ยิงใส่ตำรวจ 3 นัด

กทม. 15 พ.ค.-ชายเมายาคลุ้มคลั่ง ยิงปืนขึ้นฟ้า 6 นัด ย่านอิสรภาพ 44 เขตบางกอกน้อย ขังตัวเองอยู่ภายในบ้าน พร้อมยิงปืนใส่ตำรวจ 3 นัด เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่ เมื่อเวลา 06.00.น วันนี้ (15 พ.ค.68) เกิดเหตุชายเมายาคลุ้มคลั่ง ยิงปืนขึ้นฟ้า 6 นัดซ้อน ย่านอิสรภาพ 44 แขวงบางช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย ชาวบ้านในพื้นที่หวั่นไม่ปลอดภัย แจ้งตำรวจ สน.บางกอกน้อย เข้าระงับเหตุ แต่ไม่เป็นผล ชายคนดังกล่าว หลบหนีเข้าบ้านพัก และขังตัวเองอยู่ภายในบ้าน พร้อมยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นัด ทำให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่ ต่อมา พลตำรวจโทสยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่เกิดเหตุหลังได้รับการรายงาน เพื่อเข้าไปควบคุมการปฏิบัติงานด้วยตนเอง ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังคงปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่ และไม่ให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด ป้องกันอันตรายจากลูกหลง.-414.-สำนักข่าวไทย

ฤดูฝนมา จับตาความพร้อม Cell Broadcast

14 พ.ค. – ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า ปริมาณฝนปีนี้จะมากกว่าค่าปกติ 5% ในระยะนี้ต้องติดตามพายุไซโคลนที่อาจก่อตัวในทะเลอันดามัน ขณะที่ปลายฤดูอาจเจอพายุโซนร้อน 1-2 ลูก ล่าสุดภาครัฐยกระดับการแจ้งเตือนภัย แต่ต้องรอลุ้นว่า Cell Broadcast จะใช้ได้เต็มระบบทั่วประเทศทันฤดูฝนนี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ชวนอุดหนุนผลไม้ไทย เล็งจัด Thai Fruits Festival

ทำเนียบ 14 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ชวนประชาชนอุดหนุนผลไม้ไทย เตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เร่งเจรจา FTA ดันการส่งออกนำผลไม้ไทยร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดสร้างโอกาสให้เกษตรกร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน TikTok ชื่อบัญชี ingshin21 เชิญชวนประชาชนอุดหนุนและรับประทานผลไม้ไทย โดยกล่าวว่า “เป็นคลิปแรกที่มาอยากมาขายของเป็นแม่ค้าหนึ่งวัน ผลไม้ไทยมีเยอะมากที่อร่อย พร้อมนำผลไม้ที่จัดใส่จาน ทั้ง มังคุด เงาะ ทุเรียน รวมถึงข้าวเหนียวมะม่วง แล้วจะมาเชิญชวนให้ พี่น้องคนไทยทุกคนให้ทานผลไม้ไทย และสองปีที่แล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงของเราดังไปทั่วโลก ซึ่งมะม่วงของเราอร่อยจริงๆ ไปเจอที่เมืองนอกแพง แต่ที่เมืองไทยราคาดี เพราะฉะนั้นอดอุดหนุนผลไม้ไทยกันหน่อยนะคะ อร่อยด้วยราคาดีด้วย ไม่อย่างนั้นเวลาไปอยู่เมืองนอกนานๆ ซื้อที่เมืองนอกแพง ตอนนี้เมืองไทย มะม่วงราคาดีมากผลไม้ทุกอย่างก็ราคาดี และอากาศปีนี้ดีทำให้ผลไม้ค่อนข้างหวาน หาซื้อได้ง่าย ดังนั้นขอให้อุดหนุนผลไม้ไทยกันเยอะๆ” นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุข้อความ ด้วยว่า “สวัสดีค่ะ ทุกคน หน้าผลไม้แล้วค่ะ ปีนี้ผลไม้ไทยผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% […]