สภาฯ ผ่านงบฯ เพิ่มเติม 67 โปะดิจิทัลวอลเล็ต 1.22 แสนล้าน

รัฐสภา 31 ก.ค.-สภาฯ เห็นชอบผ่านงบฯ เพิ่มเติม 67 โปะดิจิทัลวอลเล็ต 1.22 แสนล้าน ส่งวุฒิสภาพิจารณาต่อ ฝ่ายค้านย้ำขัด รธน.-กม.วินัยการคลัง ไม่คุ้มค่า ด้าน “จุลพันธ์” โต้เป็นไปตามกรอบกฎหมาย คุ้มค่าเดินหน้าโครงการต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมงในการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 เพิ่มเติม วงเงิน 122,000 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมงบกลาง จำนวน 6 มาตรา ภายหลังกรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วเสร็จ โดยไม่ได้มีการปรับแก้ใด ๆ และมีมติเสียงข้างมาก 291 เสียง ต่อ 161 เสียง ให้ความเห็นชอบ


นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ย้ำว่า รัฐบาล มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อันเป็นกรณีที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน ไม่สามารถรองบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2568 ได้ จึงต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมฉบับนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ โดยเป็นงบประมาณจากภาษี และรายได้อื่น จำนวน 10,000 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 112,000 ล้านบาท พร้อมย้ำว่า การตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของประเทศ

สำหรับการพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายนพณัฐ มีรักษา กรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย เห็นว่า ร่างงบประมาณฉบับนี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องใช้เงินภายใน 30 กันยายน ที่จะต้องออกงบประมาณเพิ่มเติมฉบับนี้ เพราะการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แล้วถือเป็นการก่อหนี้ของรัฐบาลนั้น ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน และไม่สามารถกำหนดสัญญาก่อหนี้ได้ ดังนั้น จึงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่า การแจกเงินดิจิทัลฯ เป็นการสัญญาให้ของรัฐบาล โดยที่ประชาชน ไม่ต้องตอบแทนใด ๆ กลับมายังรัฐบาล แม้จะมีการเปิดลงทะเบียน แต่ยังไม่มีการส่งมอบเงิน ก็ต้องถือว่า สัญญาไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถฟ้องร้องใด ๆ ได้


ด้าน นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย ได้เสนอตัดลดงบประมาณลง เนื่องจาก กังวลว่า งบประมาณ ที่จะนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนี้ จะยิ่งทำให้ธุรกิจค้าปลีกกระจุกตัวอยู่เพียงรายเดียว อาจส่งผลเสียงต่อเศรษฐกิจของประเทศ กลายเป็นพายุที่พรากการแข่งขันของธุรกิจรายย่อยออกไปอีก จึงขอให้รัฐบาล ได้พิจารณาประเมินผล ตั้งแต่ก่อนดำเนินการ ระหว่างดำเนินการ และหลังดำเนินการด้วย

ขณะที่ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอปรับลดงบประมาณเพิ่มเติม เหลือเพียง 10,000 บาท ซึ่งเป็นงบประมาณเท่าที่รัฐบาล จะหารายได้อื่นมาเพิ่มได้ เนื่องจาก รัฐบาลไม่ควรมีการกู้เงินเพิ่มอีกแล้ว ซึ่งแม้จะยังอยู่ในกรอบวินัยการเงิน แต่ก็อยู่ปริ่มเพดานแล้ว ขาดการประมาณการรายได้ที่จะถึงเป้า และแม้รัฐบาล จะยังกู้ได้ ก็จะต้องใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2567 ซึ่งการลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของประชาชน ไม่ได้นับเป็นหนี้ และสัดส่วนรายงานลงทุน ก็จะต้องเป็นไปกฎหมาย รวมถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็ไม่คุ้มค่าที่จะดำเนินการ เพราะจากเดิมที่มีการประเมิน GDP จะสามารถโตได้ 1.2-1.8% แต่เมื่อแหล่งที่มาของเงินเปลี่ยน จึงเหลือเพียง 0.9% จึงสะท้อนว่า โครงการนี้ ไม่ได้มีการประเมินความคุ้มค่าไว้ล่วงหน้า

ด้าน นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เสนอตัดลดงบประมาณจาก 122,000 ล้านบาท เหลือเพียง 1 บาท


ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ ยืนยันความจำเป็น ที่รัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ในห้วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่มีอัตราการเจริญเติบโตต่ำในระดับภูมิภาค จึงต้องมีเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ และต้องเป็นไปตามวินัยการเงินการคลังที่กำกับไว้ ดำเนินการด้วยความรอบคอบ และจะไม่ให้เกิดวิกฤตใด ๆ ตามมาจากการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยตั้งเป้าว่า จะสามารถทำให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจ จะสามารถเติบโตได้ 4-5% ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น หนี้ครัวเรือน

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตการกำหนดงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ในปีงบประมาณ 2567 จะทันต่อการใช้จ่ายในไตมาสที่ 4 ของปี 2567 หรือเป็นการเริ่มปีงบประมาณ 2568 แล้วนั้น นายจุลพันธ์ ย้ำว่า การดำเนินการโครงการของรัฐ และให้ประชาชนลงทะเบียน ถือเป็นงบผูกพัน หรือข้อผูกพันที่รัฐบาลต้องจ่าย ตามกฎหมายที่ว่าด้วยหนี้ภาครัฐ เมื่อประชาชนขอใช้สิทธิรับเงิน 10,000 บาท เมื่อรัฐอนุมัติ ก็ถือเป็นนิติกรรมร่วมกันระหว่างประชาชนกับรัฐ เช่นเดียวกับโครงการอื่น ๆ ของภาครัฐ

นายจุลพันธ์ ยังย้ำด้วยว่า การดำเนินการของรัฐบาล เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย มีหน่วยงานภาครัฐมาชี้แจงอย่างครบถ้วน รัฐบาลจึงมั่นใจ นำเสนอร่างงบประมาณฉบับนี้ เข้ามาสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร พร้อมชี้แจงความคุ้มค่าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า นอกจากจะเกิดความเจริญเติบโตทางเศรฐกิจแล้ว ยังมีผลประโยชน์ที่ประชาชนเกือบ 50 ล้านคน จะได้รับเงินไปต่อยอดชีวิต และเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการพัฒนาตลาดเศรษฐกิจดิจิทัล และ E-government ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล จึงคุ้มค่าที่จะเดินหน้าโครงการต่อ

ทั้งนี้ ภายหลังที่ประชุลงมติให้ความเห็นชอบแล้ว นายจุลพันธ์ ได้ขอบคุณที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมยืนยันว่า งบประมาณที่รัฐบาล ได้รับอนุมัติให้นำไปใช้จ่ายในครั้งนี้ จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ และแผนงาน และจะกำกับดูแลติดตามการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว ให้มีความโปร่งใส และบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายที่ได้กำหนดไว้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ด เงินหมุนเวียนในพื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิต และการดำรงชีพ รวมถึงสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของภาคประชาชน และภาคธุรกิจเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชนต่อไป โดยรัฐบาล มีจุดมุ่งหมายสำคัญ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ต่าง ๆ และยกระดับคุณภาพชีวิต และการดำรงชีพ สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน และภาคธุรกิจ ควบคู่กับการรักษาระดับการบริโภค และการลงทุนในประเทศ รวมถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อให้ประชาชน ได้รับประโยชน์จากการใช้เม็ดเงินงบประมาณมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม สำหรับขั้นตอนภายหลังสภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นชอบร่างงบประมาณเพิ่มเติมฉบับนี้แล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะได้ส่งร่างงบประมาณฯ ให้วุฒิสภาชุดใหม่ พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

น้ำหลากท่วมบางบาล เร่งย้ายของหนี

อยุธยา 7 ก.ย.- สถานการณ์น้ำหลายพื้นที่เริ่มวิกฤติ โดยที่อยุธยา ชาวบ้าน อ.บางบาล ย้ายรถยนต์ขึ้นมาจอดหนีน้ำ ขณะที่โคราช ฝนถล่มทั้งคืน น้ำท่วมถนนสาย 304 ด้านชาวบ้าน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เร่งซ่อมแซมเรือ รับมือน้ำหลาก สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา มีการปรับการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 1,600 ลบ.ม ต่อวินาที ส่งผลกระทบกับพื้นที่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล และอำเภอบางไทร โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังชุมชน หมู่ที่ 7 ตำบลวัดตะกู อำเภอบางบาล พบว่าสถานการณ์ตอนนี้ระดับน้ำในคลองบางหลวง มีระดับน้ำสูงล้นตลิ่งเข้าท่วมแล้วหลายจุด บางจุดน้ำหลากเข้าท่วมถนนภายในชุมชน ส่งผลให้ตอนนี้พี่น้องประชาชนไม่สามารถจอดรถในพื้นที่บ้านได้ ด้าน นายสมศักดิ์ อายุ 74 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่า ตอนนี้ระดับน้ำเริ่มขึ้นเรื่อยๆ บางจุดท่วมสูง บางจุดก็เริ่มท่วมตามแล้ว ตอนนี้เร่งกางเต้นท์ เพื่อนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ มาจอด เพราะข้างในท่วมหมด ขณะที่นครราชสีมา ภาพจากกล้องหน้ารถเผยให้เห็นสภาพถนนสาย 304 […]

เขมรครึ่งร้อยป่วนบ้านหนองจานอีก

สระแก้ว 7 ก.ย. – ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย เกณฑ์เด็ก-ผู้หญิง เข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน สร้างเพิงพักชั่วคราวใกล้แนวชายแดน ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย โดยเกณฑ์เด็กและผู้หญิงเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน ใกล้หลักเขต 46 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทั้งสร้างเพิงพักชั่วคราวบริเวณใกล้แนวชายแดน สถานการณ์โดยรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด ส่วนบริเวณจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน ผู้กำกับ สภ.โคกสูง ได้จัดกำลังตำรวจเข้าดูแลพื้นที่รักษาความปลอดภัย ช่วงเวลา 11.00 น. มีกลุ่มมวลชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 20 คน เหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ลั่นนั่งนายกฯ ควบ มท.1 เร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย.- “อนุทิน” ลั่นไม่ติดหนี้บุญคุณใคร นอกจากประชาชน โพล่งนั่งนายกฯ ควบ มท.1 ประกาศเร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน ยันไม่มีแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. ทุกอย่างกางบนโต๊ะโปร่งใส ไม่ยัดเยียดปรุงแต่ง หรือกลั่นแกล้งใคร เหมือนที่เคยโดน สั่งล่วงหน้า ครม.หนู เวลาน้อยแค่ 4 เดือน ต้องไม่เหนื่อย-ไม่ป่วย-ไม่ลา-ทำงานไม่มีวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า นับเป็นพระมหากรุณากรุณาธิคุณ แก่ตัวกระผมอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ผมยืนยันด้วยความตระหนักดีว่าการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อาจมีข้อจำกัดหลายประการหลายด้าน ในการปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ผมให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน ว่า ตนและคณะรัฐมนตรีของผมทุกคน จะมุ่งมั่นทุ่มเททำงานด้วยความไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย จะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกำลังกาย กำลังสมอง เพื่อให้ประเทศไทยของเราได้หลุดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ โดยเร็วที่สุด ต้องขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความมั่นใจโดยผ่านความไว้วางใจและการลงคะแนนเสียงของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาชนที่ได้ให้การสนับสนุนตนให้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า และได้เสียสละให้ประเทศไทยมีทางออกและหลังจากลงคะแนนเสียงเรียบร้อยแล้ว ได้กลับไปอยู่ในเจตนารมณ์เดิมของพรรคประชาชนคือการเป็นฝ่ายตรวจสอบ ตนได้ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรรกล้าธรรม […]

“อนุทิน” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32

พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย. – “อนุทิน ชาญวีรกูล” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ถวายสัตย์จะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มกําลังความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม ขณะที่พรรคร่วมฯ เข้ายินดีพร้อมเพรียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 กันยายน 2568) เวลา 11.30 น. ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคภูมิใจไทย โดยได้อัญเชิญไปยังสถานที่ในการรับสนองพระบรมราชโองการฯ ซึ่งพรรคจัดไว้ที่ชั้น 4 ของอาคารที่ทำการพรรคภูมิใจไทย จากนั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ด้วยความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี […]