‘แพทองธาร’ เปิดตัว ‘TCDC’ แห่งใหม่

ไปรษณีย์กลาง 26 มิ.ย.-‘แพทองธาร’ เปิดตัว ‘TCDC’ แห่งใหม่ นำร่อง 10 จังหวัด สนับสนุน ‘ทุนทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์’ ระดับท้องถิ่น เพื่อต่อยอด Soft Power ไทย ในระดับสากล

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมเปิดงานประกาศจัดตั้งศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย นครราชสีมา ปัตตานี พิษณุโลก แพร่ ภูเก็ต ศรีษะเกษ สุรินทร์ อุตรดิตถ์ และอุบลราชธานี โดยมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยในแต่ละจังหวัดเข้าร่วมงานทั้ง นางสาววิสารดี เตชะธีรวัฒน์ สส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย นางสาวลินธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายพชร จันทรรวงทอง สส. นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายนิกร โสมกลาง สส. ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย และนายธนรัช จงสุทธานามณี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ


“แพทองธาร” ได้กล่าวเปิดงานว่างานนี้เป็นการประกาศจุดเริ่มต้นของนโยบายการยกระดับทุนวัฒนธรรม เสริมทักษะและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ให้เป็นพลังขับเคลื่อนกระบวนการ Soft Power ที่สำคัญของประเทศ ซึ่งในปัจจุบัน “ทุนทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์” กลายเป็นหนึ่งปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่ประเทศไทย มีภูมิปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่ามากมาย แต่ยังขาดการบูรณาการและกลไกที่เหมาะสม ในการนำมาพัฒนาและต่อยอดให้กลายเป็นทรัพยากรหลักของประเทศ

รัฐบาลจึงมีนโยบาย “สร้างคน เพิ่มทักษะ” ผ่านการจัดตั้ง “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ” หรือ TCDC แห่งใหม่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ที่เป็นภูมิปัญญาสำคัญในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร ดนตรี การออกแบบ ศิลปะ และวิถีชีวิตอื่น ๆ ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สอดคล้องกับนโยบาย “1 ครอบครัว 1 Soft Power” (OFOS) ที่จะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนทุกบ้าน ทุกครัวเรือนอย่างแท้จริง เพื่อพัฒนาประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง เริ่มจากการพัฒนา “คนไทย” เป็นทรัพยากรอันล้ำค่าของประเทศชาติ ในการส่งต่อฝีมือของคนไทย ไปยังตลาดสากลสร้างความประทับใจให้คนทั่วโลก จึงเป็นหน้าที่รัฐที่ต้องมุ่งพัฒนาทักษะฝีมือคนไทย โดยเปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าฝึกอบรมผ่าน TCDC โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย ทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งค่ายมวย 400 แห่งที่จะร่วมอบรมมวยไทยด้วย เพื่อให้ทุกครัวเรือนเข้าถึงได้ ตั้งแต่ระดับตำบล จังหวัด จนถึงระดับประเทศ


นโยบายการสร้างคนผ่านการ Upskill-Reskill จะสำเร็จได้ผ่านความร่วมมือของหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานอย่าง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) (CEA) ที่เป็นจุดตั้งต้นในการดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ ใน 10 จังหวัดขึ้นในระยะแรก รวมถึงการผนึกกำลังขององค์กรหรือหน่วยงานภาครัฐส่วนท้องถิ่นในจังหวัดต่าง ๆ ที่มาร่วมอำนวยความสะดวกในการจัดหาทรัพยากรพื้นฐานและความร่วมมือ ไปจนถึงหน่วยงานสนับสนุนอย่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ในการจัดหาหลักสูตรในการอบรม พัฒนาทักษะ พร้อมออกใบรับรองศักยภาพ ทั้งหน่วยงานที่รับช่วงต่อในการสร้างงาน เพื่อเปิดโอกาสให้แรงงานเหล่านี้ได้เข้าถึงตลาดงานที่สำคัญ ที่จะเชื่อมต่อความสำเร็จทั้งระบบไปสู่ตลาดระดับประเทศและตลาดโลกได้

“แพทองธาร” กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานหลักกับองค์กรหรือหน่วยงานภาครัฐส่วนท้องถิ่น ที่ได้รับการคัดเลือกจัดตั้ง TCDC แห่งใหม่ ใน 10 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ ได้แก่ การส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทุนวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ในระดับภูมิภาค การสร้างเครือข่ายและกลไกการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะและศักยภาพของคนในพื้นที่ และการส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ระดับท้องถิ่น

โดยทั้ง 3 เป้าหมาย จะเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถนำทุนทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ของเรา ไปสู่การสร้าง Soft Power ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป


ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงศักยภาพของศูนย์ TCDC ว่า TCDC ที่ตั้งขึ้นมา 20 ปีแล้ว มีการสะสมองค์ความรู้และเครือข่าย ซึ่ง TCDC ได้นำต้นแบบที่จะทำใน 10 จังหวัดมาให้ดู ก็จะมีทั้ง creative,Lab ค้นคว้าจุดเด่นของแต่ละจังหวัด เป็นฐานการพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ต่างๆ ซึ่งพื้นที่เหล่านั้นมีความพร้อมอยู่แล้ว แต่ไม่มีเจ้าภาพ ดังนั้น TCDC จะเป็นเจ้าภาพที่ต่อเชื่อมกับส่วนกลาง คือคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และเราก็มีความพยายามตั้งคณะอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ระดับจังหวัด ซึ่งจะทำงานร่วมกับ TCDC ต่อไป

นพ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ศูนย์ 10 จังหวัดเหล่านี้ เลือกมาจาก 24 จังหวัด ซึ่งดูจากความพร้อม เมื่อมีการจัดตั้งแล้ว 10 จังหวัดนี้จะเป็นการพัฒนาทั้งต้นน้ำและกลางน้ำ ส่วนการเดินสายไปเยี่ยมชมศูนย์ต่างๆ นั้น เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน นอกจากนี้ในอนาคตเราอยากให้มีศูนย์ระดับนานาชาติตามมหานครใหญ่ๆทั่วโลก

เมื่อถามว่าศูนย์ทั้ง 10 จังหวัดจะเริ่มรายงานได้เมื่อไหร่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เพิ่งประกาศ MOU ก็มีการเตรียมในการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งแต่ละจุดมีประมาณ 300 ตารางเมตร แต่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงปีหน้า.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

จับแล้ว “เกม” มือยิงยัดถังถ่วงอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ

นครสวรรค์ 29 พ.ค. – เมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดเหตุสะเทือนขวัญ พบศพถูกยัดใส่ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร โยนทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ จ.นครสวรรค์ วันนี้จับผู้ต้องหาได้แล้ว จากเหตุสยองอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เมื่อมีผู้พบศพชายปริศนา ถูกยัดอยู่ภายในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ลอยอยู่ใกล้กับตลิ่ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจ สภ.ตะคร้อ ต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อหาคำตอบให้กับเหตุการณ์อันโหดเหี้ยมนี้ เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่าชายดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้ว 3-5 วัน และมีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซอง จากการตรวจสอบในถังพลาสติกยังพบก้อนหินขนาดใหญ่ ถุงปุ๋ย และกระเป๋าสะพายข้าง ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถค้นหาและทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายจุฑาเพชร หรืออ้วน อายุ 44 ปี ที่รับจ้างทำไร่ในพื้นที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี จากการสืบสวนและแกะรอยจากกล้องวงจรปิดมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้พบว่านายปารวี หรือเกม อายุ 35 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบรถกระบะและห้างนาของนายเกม ยิ่งพบหลักฐานสำคัญที่ยืนยันได้ว่านายเกมคือคนร้าย […]

ตั้ง 2 ประเด็น เหตุบุกยิง ครู-อส. งานแข่งตะกร้อ

นราธิวาส 29 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเหตุคนร้ายยิงถล่ม สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส คาดผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ด้านภรรยาตำรวจที่เสียชีวิต ร่ำไห้ทำใจไม่ได้ ส่วนเหตุบุกยิง ครู-อส. กลางงานแข่งตะกร้อ จนท.ตั้ง 2 ปมก่อเหตุ “ปัญหาส่วนตัว-ความมั่นคง” จากเหตุคนร้ายลอบยิงตำรวจขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และยิงใส่ป้อมรักษาการประตู กระทั่งเกิดการยิงตอบโต้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงประมาณ 15 นาที จนกลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง อายุ 30 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และสิบตำรวจเอก เจษฎา พรหมรัตน์ อายุ 33 ปี บาดเจ็บสาหัส เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านตำรวจที่เสียชีวิต เป็นสถานที่จัดงานให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญและแสดงความเสียใจกับครอบครัว หลังนำร่าง ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ประกอบพิธีฝังศพที่กูโบร์บ้านบาเร๊ะบาโร๊ะ เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ค.) นางสาวนุชฮูดา […]

ทางออก 3 ข้อ ไทย-กัมพูชา ตกลงร่วมคลี่คลายสถานการณ์ช่องบก

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เช้าวานนี้ (28 พ.ค.) บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 2 แม้ไม่มีการปะทะเพิ่มเติม แต่เจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังแน่นหนา ส่วนชาวบ้านในพื้นที่เริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่การแก้ปัญหาที่สำคัญคือ ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศได้คุยกันแล้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้ข้อสรุป 3 ข้อ.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]