“บิ๊กต่าย” ไม่หวั่น “บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ป.ป.ช.

กองทัพอากาศ 24 มิ.ย.-“บิ๊กต่าย” ไม่หวั่น “บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ป.ป.ช. ไม่มองถูกเช็กบิล ลั่นเกิดมาทุกคนต้องตาย พร้อมรับผลทุกอย่าง ยันไม่มีสัญญาใจเป็น ผบ.ตร. บอกแม้แต่คิดก็ไม่เคย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะไปร้อง ป.ป.ช. กรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบเซ็นให้ออกจากราชการไว้ก่อน ในช่วงเป็นรักษาการ ผบ.ตร. ว่า เพิ่งทราบจากสื่อว่าจะมีการไปฟ้องตนที่ ป.ป.ช. ก็ถือเป็นสิทธิ์ของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ซึ่งขณะนี้ตนปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. แล้ว แต่ในกระบวนการพิจารณาเป็นเรื่องที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ไปใช้สิทธิ์อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมแล้ว จากนี้ก็รอผลการพิจารณา


ส่วนที่มองว่าคำสั่งดังกล่าวขัด พ.ร.บ.ตำรวจ ในปัจจุบันนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า มีนักกฎหมายออกมาแสดงความคิดเห็น ตีความมุมมองที่แตกต่างกันไป ตนก็รับฟัง พวกเราคงได้ยินได้ฟังในเรื่องที่ว่า สิ่งนั้นมิชอบ สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง แต่มีท่านใดได้พิจารณาถึงข้อเท็จจริงบ้างหรือไม่ เรากำลังคิดว่าคำสั่งนี้ไม่ถูกต้อง ขัดกฎหมาย ตรงนี้ใช้กฎหมายเก่า แต่อย่าลืมว่า พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เกิดปี 2565 และตนได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง การนำกฎหมายปี 65 มาใช้ ถือว่าเป็นฐาน แต่ในข้อเท็จจริงมีใครหยิบตรงนี้ขึ้นมาพิจารณาหรือไม่ ในเรื่องพฤติกรรมความร้ายแรงแห่งคดี ประกอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

เมื่อถามว่าสำนักงานกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นมาแล้วว่าการออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนไม่ถูกต้อง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นเรื่องกฤษฎีกา ซึ่งกฤษฎีกาเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ขึ้นตรงต่อนายกฯ เช่นกัน ความเห็นใดที่เป็นข้อผูกพันทางกฎหมายทุกหน่วยย่อมถือปฏิบัติ แต่ข้อสังเกตเราก็รับไว้ ก็ต้องมาดูว่าสามารถทำได้หรือไม่


เมื่อถามย้ำว่าในช่วงที่เป็นรักษาการ ผบ.ตร. เขื่อว่าคำสั่งที่เซ็นออกไปถูกต้อง ครบถ้วนแล้วใช่หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า “ครับ ถือเป็นช่วงจังหวะที่ผมมารักษาการ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาเป็นช่วงที่ผมอยู่ในจุดนั้นพอดี เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้ดุลพินิจพิจารณาจากข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมาย ประกอบระเบียบ คำสั่ง กฎ ก.ตร. ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบแล้ว ดังนั้นผมจึงบอกว่าขอให้ดูข้อเท็จจริง อย่ามุมมองเพียงแค่ว่าอันนี้ผิดหรือไม่ผิด และเป็นสิทธิ์ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่จะบอกว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องพิจารณาจากข้อมูลหลักฐาน ซึ่งจะพิจารณาได้ว่าคำสั่งนี้ถูกต้องหรือไม่ อยู่ที่องค์กรอิสระและคณะกรรมการต่างๆที่เกี่ยวข้อง”

เมื่อถามว่ากรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ระบุว่าให้มาปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ตัวท่านกลับถูกฟ้อง คิดว่าสถานการณ์ภายในของตำรวจจะสงบหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตนในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการ มีหน้าที่รับคำสั่งมาทำงาน ก็ทำงานไป และทุกวันนี้ก็ทำงานอยู่ตอนนี้เป็น รอง ผบ.ตร. รับหน้าที่ดูแลป้องกันและปราบปราม ตนก็เห็นว่าตำรวจร่วมมือร่วมแรงกันทำงาน ส่วนประเด็นอื่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ย่อมมีการวิพากษ์วิจารณ์ ถือเป็นเรื่องปกติ ตนคิดว่าความขัดแย้งคณะกรรมการชุดของ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ชัดเจน โดยนายวิษณุ ออกมาแถลงว่ามีความขัดแย้งภายในตำรวจจริง

“และเมื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับมา ก็ไม่ได้ปรากฏเรื่องที่ต้องขัดแย้ง ถึงแม้ว่าจะมีรอง ผบ.ตร. ท่านใดกลับมาอีก ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้เกิดความชัดเจนในเรื่องของการกล่าวหา และหลักฐานต่างๆให้เคลียร์ ใครกลับมาผมก็พร้อมจะทำงาน เป็นรอง ผบ.ตร. ในหน้าที่ที่รับมอบหมาย ส่วนใครจะฟ้องร้องก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ก็เป็นสิทธิ์แก้ต่างไป”


เมื่อถามว่าที่ระบุว่าทำตามหน้าที่ในช่วงรักษาการ แต่ขณะนี้ท่านกำลังจะโดนเช็คบิล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตนไม่ได้เคยคิดว่าถูกเช็คบิล บอกแล้วว่าเป็นสิทธิ์ของแต่ละท่านที่จะดำเนินการทั้งทางกฎหมายและวินัยกับตนได้อยู่แล้วแต่ตนได้ถือปฏิบัติอยู่บนความสุจริตเป็นที่ตั้ง และตนทำเพื่อองค์กร ซึ่งต้องดูเรื่องกฎหมาย ข้อเท็จจริง ระเบียบคำสั่ง มาประกอบแล้ว ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นกับตนก็พร้อมรับ

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้เป็น ผบ. ตร. คนต่อไป พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ หัวเราะพร้อมทั้งระบุว่า “อย่าใช้คำว่ามั่นใจ แม้แต่คิดยังไม่เคย และไม่มีสัญญาใจอะไร และไม่เคยคิดเรื่องนี้ คิดอย่างเดียวว่า ได้รับหน้าที่อะไรก็ทำอย่างนั้น”

เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เหมือนท่านตายเดี่ยวในรอบนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ หัวเราะพร้อมทั้งระบุว่า “ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย ไม่มีใครหลุดพ้นความตาย เป็นธรรมะอย่างหนึ่ง ดังนั้นเมื่อความตายมาเยือน เราต้องพร้อมที่จะรับความตาย แต่เราอยู่ในพื้นฐานความสุจริตใจ และความโปร่งใส ผมปฏิบัติตามหลักนิติธรรมเพื่อองค์กร ดังนั้นก็พร้อมที่จะรับทุกสิ่งทุกอย่าง”

เมื่อถามว่าในวันที่ 26 มิ.ย.67 ที่จะมีการประชุม ก.ตร. โดยมีนายกฯ เป็นประธาน กังวลอะไรหรือไม่ เพราะจะมีการนำประเด็นดังกล่าว มาพูดคุยด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตนทราบว่ามีประชุม ก.ตร. และก็ทราบวาระการประชุมแล้ว แต่ขออนุญาตไม่พูดถึง เพราะเป็นเรื่องของการประชุม ส่วนที่ประชุมจะอภิปรายหรือมีความเห็นอย่างไรก็สุดแท้แต่ ก.ตร. แต่ละท่านจะพิจารณา.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน

เวียดนาม 16 พ.ค.-นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน รวมทั้งสุสานโฮจิมินห์ เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญประวัติศาสตร์และมิตรภาพกับเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิต เมื่อปี ค.ศ. 1940 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของขบวนการต่อสู้ของเวียดนามภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ โดยตั้งอยู่บนถนนบั๊กเซิน (Bạch Sơn Street) ในพื้นที่ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ โดยออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยกลุ่มรูปปั้นนักรบปฏิวัติ แสดงถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่ซึ่งอดีตผู้นำโฮจิมินห์เคยอ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถาน โดยใช้หินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานระหว่างศิลปะสังคมนิยม กับเอกลักษณ์เวียดนาม โดยโฮจิมินห์เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนาม ผู้ได้รับการยกย่องในฐานะ “บิดาแห่งชาติ” ที่นำพาประเทศสู่การประกาศเอกราช และเป็นผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ สถานที่สำคัญของเวียดนามครั้งนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไทยอย่างเวียดนาม จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าร่วมประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล.-314.-สำนักข่าวไทย

“เปรมชัย” นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัว กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม

กทม. 16 พ.ค.-“เปรมชัย” ผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม ด้านวิศวกร ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ทยอยเข้ามอบตัวเช่นกัน เวลา 08.00 น. นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประมูลโครงการก่อสร้างหลัก อาคาร สตง.แห่งใหม่ ซึ่งพังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238 นายเปรมชัย นั่งวีลแชร์ มีพยาบาลส่วนตัวประกบ เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ พร้อมทนายความและญาติ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้บริหารบริษัทกิจการร่วมค้า รวมถึงกลุ่มวิศวกร อีก 13 […]

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]