ครม.เห็นชอบ 2 มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวโลว์ซีซั่น

ทำเนียบ 4 มิ.ย.-“เผ่าภูมิ” รมช.คลัง เผย ครม.เห็นชอบ 2 มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซั่น ระบุสูญเสียรายได้ 1,700 ล้านบาท แต่ได้ผลบวกทางเศรษฐกิจ เล็งเสนอมาตรการช่วยท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรมอีก ใน 1-2 สัปดาห์นี้

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 2 มาตรการในการกระตุ้นการท่องเที่ยว 1คือ มาตรการภาษีกระตุ้นสัมมนาในประเทศ (สำหรับนิติบุคคล) จัดสัมมนาหักค่าใช้จ่าย 2 เท่า ส่วนในเมืองรอง 1.5 เท่า เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นิติบุคคลไปจากสัมมนาหรือใช้จ่ายในการจัดสัมมนา ทั้งในเมืองหลักและเมืองรองเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว มาตรการที่2 คือบุคคลธรรมดาหากสมมุติเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองรองก็สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 15,000 บาทโดยเป็นในส่วนของค่าไกด์และค้าโรงแรม ดังนั้นจะเป็นการกระตุ้นประชาชนให้ไปท่องเที่ยวในเมืองรองโดยเฉพาะในในช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งเป็นจุดอ่อนการท่องเที่ยวแห่งในประเทศไทย เพราะการท่องเที่ยวในไทยจะสูงในไตรมาส1 และไตรมาส4 ส่วนไตรมาส2 -3 จะเป็นจุดอ่อนจึงเป็นหนึ่งมาตรการในการกระตุ้นการคลังที่ปิดจุดอ่อนและกระตุ้นการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในช่วงโลว์ซีซั่นและในเมืองรอง โดยมาตรการนี้จะใช้ในระยะสั้นคือ 1 พฤษภาคมถึง 30 พฤศจิกายนนี้


นายเผ่าภูมิ ยังระบุว่า การท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น จะเกิดการจับจ่ายใช้สอยในช่วงนี้น้อยเป็นพิเศษสิ่งไหนเป็นมิตรเงินกระตุ้นท่องเที่ยวก็จะไปชุบชีวิตธุรกิจ โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจลักษณะนี้จะมีการประเมินเม็ดเงินที่ลงไป จะมีตัวคุณประมาณสอง และการสูญเสียรายได้ค่อนข้างน้อย สำหรับมาตรการนี้สูญเสียรายได้ประมาณ 1,700 ล้านบาท โดยสูญเสียรายได้ค่อนข้างน้อยแต่ สร้างแรงจูงใจมาก มีผลบวกต่อระบบเศรษฐกิจค่อนข้างสูง

พร้อมระบุว่ายังได้เตรียมมาตรการอื่นๆในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเตรียม เสนอ ครม. 1-2 สัปดาห์นี้


ส่วนทำไมไม่ดึงโครงการเราเที่ยวด้วยกันมาใช้ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า แต่ละมาตรการก็มีข้อต่างกัน แต่สิ่งนี้คือรัฐบาลให้ความสำคัญช่วงท่องเที่ยวโลว์ซีซั่น และเมืองรอง พร้อมเห็นความสำคัญประชาชนที่ท่องเที่ยวในประเทศในจังหวัดที่นักท่องเที่ยวลดลง โดยนำเอามาชดเชยกันเพื่อหาจุดสมดุลซึ่งกันและกัน

นายเผ่าภูมิ ยังกล่าวถึง คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ จำนวน 122,000 ล้านบาท สำหรับเป็น งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ว่า หลังจากนี้ กระบวนการก็ต้องเข้าสู่สภาคาดว่าร่างกฎหมาย จะเข้าสู่สภาเดือน ก.ค. หรือ ส.ค.นี้.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก