ซัดแรงทำกระบวนการยุติธรรมย่อยยับ

รัฐสภา 25 มี.ค.-“สว.ถวิล” ชี้ “ทักษิณ” ทำกระบวนการยุติธรรมย่อยยับ ไม่คำถึงพระเมตตา เหน็บป่วยเฉพาะเวลาอยู่เรือนจำ-โรงพยาบาล ออกมา 1 สัปดาห์เปิดบ้านรับแขก 1 เดือนไปเชียงใหม่ ข้องใจ รัฐมนตรี-ข้าราชการเข้าหารือ


การประชุมวุฒิสภา ในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153  นายถวิล เปลี่ยนศรี สว. ยกคำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ระบุว่า   รัฐบาลจะสร้างความชอบธรรมในกระบวนการยุติธรรม   เข้มแข็ง  มีประสิทธิภาพ โปร่งใส   และให้เป็นที่ยอมรับนานาประเทศ แม้จะดูดี สวยหรู แต่รัฐบาลปฏิบัติหรือละเว้น สร้างความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมและหลักยุติธรรมของประเทศในช่วง 6-7 เดือน   ไม่เป็นไปตามที่แถลง    โดยเฉพาะกรณีที่เด่นชัดที่สุดของนายทักษิณ  ซึ่งมองว่าไม่ใช่เรื่องส่วนตัว กระทบต่อนโยบายความยุติธรรมของคนทั้งประเทศ ทุกคนมีส่วนได้เสีย

นายถวิล กล่าวว่า ในหลักการการรับโทษ คดีถึงที่สุดต้องรับโทษ กฎหมายก็ศักดิ์สิทธิ์   บ้านเมืองก็อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข แต่เสียดายตั้งแต่ก้าวแรกที่นายทักษิณกลับ ก็เกิดเรื่องแปลกกับกระบวนการยุติธรรม โดยเริ่มตั้งแต่การได้รับสิทธิพิเศษตั้งแต่วันแรกที่เดินทางกลับเข้าประเทศ เมื่อเข้าไปศาลเข้าเรือนจำก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจด้วยข้อมูลทางการแพทย์ที่น่าเคลือบแคลง สงสัย ทั้งที่ก่อนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และได้รับอนุญาตให้รักษาตัวนอกเรือนจำถึง 180 วันจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งตลอดเวลา 6 เดือนไม่ได้สัมผัสเรือนจำเลย และหลังการพักโทษก็ยิ่งสร้างความเคลือบแคลง หลังออกมาโรงพยาบาล 1 สัปดาห์ สามารถเปิดบ้านรับแขก พอหนึ่งเดือนก็เดินทางไปเชียงใหม่ และที่แปลกคือมีรัฐมนตรี ข้าราชการไปรอรับรายงานข้อราชการ ดูแล้วไม่ใช่ภาพนักโทษ อาการเจ็บป่วยไม่หลงเหลือ ความรุนแรงวิกฤติตามที่โรงพยาบาลตำรวจแถลง


“อาจจะพูดได้ว่าท่านแข็งแรงเป็นปกติ ก่อนท่านจะเข้ามารับโทษ และหลังจากที่ได้รับการพักโทษ ท่านก็แข็งแรง เป็นปกติสุข เว้นแต่ช่วงที่ท่านรับโทษ พักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจเท่านั้นที่มีอาการวิกฤติ อาจจะพูดได้ว่าท่านไม่ถูกโฉลกกับเรือนจำ   หรือคุกก็เป็นไปได้ สังคมทั่วไปมองว่ามันไม่ตรง มันบิดเบี้ยว เบี่ยงเบน ไม่เสมอภาคกับรายอื่น ๆ และน่าเสียใจคือคนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เจ้าหน้าที่เรือนจำ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แพทย์   รัฐมนตรีที่รับผิดชอบกลับยืนยันเสียงแข็งว่าเรื่องนี้ปฏิบัติโดยถูกต้องชอบธรรม ครบถ้วนตามกฎหมาย” นายถวิล กล่าว

นายถวิล   ยังตั้งคำถามว่าไม่สงสัยหรือเอะใจหรือไม่ การแก้โจทย์ลืมทดเลขตรงไหน ทดเลขผิดหรือไม่ เหตุใดคำตอบออกมาค้านสายตาคนทั้งประเทศ และในฐานะที่เป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ อำนวยความเสมอภาคเป็นธรรมกับประชาชน ขอให้หลับตาสวดมนต์ ทำใจสบาย ๆ และสัตย์สาบานกับตัวเองว่าได้ทำถูกต้องชอบธรรม เป็นธรรมเสมอภาคแล้วจริงหรือไม่ แต่ตนเห็นว่าคำตอบปรากฏชัดในใจท่านแล้ว

 “ท่านคิดว่าคนไทย กินหญ้า กินแกลบหรือผมไปกินน้ำค้างหน้าบ้านผม ไม่ได้กินข้าวเหมือนพวกท่านที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในกรณีนี้หรืออย่างไรครับ จึงหลอกตัวเอง หลอกคนทั้งประเทศ ท่านคิดว่าเดี๋ยวคนคงจะลืม ๆ แล้วคงจะแล้ว ๆ กันไป ปลุกม็อบไม่ขึ้นแล้ว บาดเจ็บกันมามากแล้ว แล้วคนไทยขี้ลืม เรื่องนี้จะไม่ลืมเป็นอันขาด ในฐานะที่ตนผ่านมาหลายเหตุการณ์   ทำงานด้านความมั่นคงมาก็มาก เรื่องนี้จะเป็นบาดแผลลึก   ที่ไม่มีวันหาย และจะเป็นฝันร้ายที่ไม่มีวันจายหายไปเป็นอันขาด เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว” นายถวิล กล่าว


นายถวิล กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมที่ไม่ตรงปก จะส่งผลกระทบต่อสังคม   คือทำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น ทั้งจากกลุ่มคนที่รัก และชัง ส่วนจะอ้างว่าปรองดอง  และยืนเหยียบบนหัวอีกฝ่าย ตนไม่เห็นว่าจะสร้างความปรองดองให้บรรลุผลได้อย่างไร   อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่อค่านิยมต่อข้าราชการ ซึ่งไม่สามารถบอกต่อลูกหลานได้ เพราะสิ่งที่เด็กเห็นย้อนแย้งกับสิ่งที่เราบอก และเกิดการทำลายความยำเกรงต่อกระบวนการกฎหมายอย่างหมดสิ้น ทำลายระบบราชการ ทำลายกระบวนการยุติธรรม ไม่คำนึงถึงพระเมตตา.-314.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย