รัฐสภา 12 มี.ค.-“จิรายุ” ย้ำ “สนามกอล์ฟธูปะเตมีย์” อยู่ระหว่างพิจารณายกเลิกหรือไม่ เหตุเป็นพื้นที่มั่นคง ขณะ “สนามงูกานรัตน์” ชัดเจนแล้ว รอ ทอ.สรุปคืนพื้นที่-เงินชดเชย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในการประชุม กมธ.วันนี้จะมีการพิจารณาเรื่องของสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) ว่าตกลงแล้วที่ขาดทุนควรจะไปแบบไหน เนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ผู้แทนกองทัพบก และผู้แทนจากททบ.5 ชี้แจงว่าขาดทุนมา 2-3 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้มีกำไร ดังนั้นต้องดูว่าการขาดทุนครั้งนี้จะนำไปสู่การชดเชยแบบไหนอย่างไร ส่วนการที่จะให้ททบ.5 กลับคืนไปสู่ภาคเอกชน หรือย้ายไปอยู่หน่วยงานอื่นๆ นั้นคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากททบ.5 เป็นโทรทัศน์เพื่อความมั่นคงของชาติ ขึ้นอยู่กับวิธีการพัฒนาปรับปรุงจะทำให้เป็นสื่อหลักที่สามารถหาข้อมูลต่างๆได้ควรเป็นแบบไหนอย่างไร
นายจิรายุ กล่าวว่า นอกจากนั้นที่ประชุมจะพิจารณาเรื่องกองทัพเรือ โดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานอนุกมธ.จะลงพื้นที่ไปฐานทัพเรือสัตหีบ และอำเภอใกล้เคียงของฐานทัพเรือ เพื่อไปดูว่าที่กองทัพมีแนวโน้มที่ดีจะคืนบางส่วนให้กับการไฟฟ้าภูมิภาคจะเป็นแบบไหน แต่ยังคงเรื่องความมั่นคงทางการทหารภาคตะวันออกอยู่ ถ้าไฟฟ้าไปอยู่รัฐวิสาหกิจก็ต้องวิเคราะห์ต่อว่าจะสามารถดำเนินการแบบไหนอย่างไร มีความปลอดภัยขนาดไหน ซึ่งคิดว่าใน 1-2 เดือนนี้น่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องนี้
โฆษกกระทรวงกลาโหม ยังระบุว่า ส่วนกองทัพอากาศเรื่องของสนามกอล์ฟกานตรัตน์ หรือสนามงู เป็นที่ชัดเจนแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างกองทัพอากาศส่งข้อมูลมาว่าจะคืนพื้นที่จำนวนเท่าไหร่ และจะต้องนำเงินชดเชยจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเท่าไหร่ เมื่อได้เงินแล้วก็จะนำไปสู่การพัฒนา ก็จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม หรือการท่าอากาศยานนำไปพิจารณาว่าจะทำรันเวย์ หรืออาคารจอดรถใต้ดินก็แล้วแต่รัฐบาลจะพิจารณา ส่วนเงินดังกล่าวผู้บัญชาการทหารอากาศได้พูดคุยกับตนแล้วว่าจะนำไปเพิ่มสปอร์ตคอมแพลคที่สนามกีฬาธูปะเตมีย์ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ส่วนคำถามที่ว่ามีสปอร์ตคอมแพลคแล้วจะต้องยกเลิกสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์หรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณา เนื่องจากเป็นพื้นที่ความมั่นคง ส่วนภาพรวมสวัสดิการต่างๆ ของกองทัพอยู่ระหว่างการพิจารณาของกมธ..-312.-สำนักข่าวไทย