รัฐสภา 15 ก.พ.-“ฝ่ายค้าน -สส.ภาคใต้” รุมค้านโครงการแลนด์บริดจ์ “พิธา” ซัดไม่มีคำตอบชัดเจน ลงทุน 1 ล้านล้านบาทคุ้มค่าหรือไม่ “ประเสริฐพงษ์” บอก น่าอาย “เขยระนอง” แก้ปัญหาสะพานข้ามคลองชาวมอแกนไม่ได้ บอก ถามคนใต้หรือยังต้องการอะไร
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติเรื่องการศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ แลนด์บริดจ์ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ที่มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน กมธ. พิจารณาแล้วเสร็จ สส.หลายคน โดยเฉพาะฝ่ายค้าน และ สส.ภาคใต้ คัดค้านเนื้อหาในรายงานของ กมธ.ที่ไม่มีความชัดเจนในหลายเรื่อง ทั้งความคุ้มทุนของโครงการ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่สามารถตอบคำถามได้เรื่องการประหยัดระยะเวลา ค่าใช้จ่ายในเส้นทางเดินเรือ พร้อมแสดงความเป็นห่วงเรื่องพื้นที่ป่าไม้ และวิถีชีวิตคนในพื้นที่ต้องสูญเสียไปจำนวนมาก
นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า รายงานฉบับนี้พูดแต่ผลดี แต่ไม่พูดถึงผลเสีย มีคำถามมากมายที่สำนักนโยบายและแผนการขนส่ง(สนข.) ตอบไม่ได้ เช่น ผลกระทบต่อการถมทะเล ป่าต้นน้ำหายไป
“ไม่ใช่ไม่อยากพัฒนาภาคใต้ แต่เคยถามคนภาคใต้หรือไม่ว่าอยากได้อะไร รายงานฉบับนี้ประชุมแค่ 10ครั้ง เป็นการมัดมือชก มีข้อบกพร่องมากมาย ไม่มีส่วนร่วมจากประชาชน เป็นการพัฒนาท่ามกลางความเดือดร้อนประชาชน วิถีชีวิตชาวบ้านที่ต้องสูญเสียวิถีทำกิน ไม่ใช่เรื่องเล็ก”นายอนุทิน กล่าว
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า ขอให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องออกมาพูดความจริง ว่าคนที่ได้ประโยชน์ คือบริษัทที่ปรึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร แล้วรายงานบอกว่าจะให้ความสุขกับชุมชน จะให้ได้อย่างไร คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปประชุมที่ระนองยังแก้ปัญหาไม่ได้
“แก้ปัญหาสร้างสะพานข้ามคลองให้ชาวมอแกนไม่ได้เลย สุดท้ายฝรั่งต้องไปสร้างสะพานให้เด็กๆ ฝรั่งออกเงิน รัฐบาลนี้ ครม.ไปประชุมแท้ๆ เขยคนระนองไปยังแก้ปัญหาไม่ได้ น่าอาย โอ้โฮ ไม่ไหวหรอก” นายประเสริฐพงษ์ กล่าว
ด้านนายณัฏฐ์นนท์ ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การลงทุนโครงการนี้เป็นของเอกชน 100% หรือไม่ มีทางเลือกอื่นหรือไม่ หากเอกชนไม่ให้ความสนใจ และใช้หลักอะไรกับการให้สัมปทานโครงการ 50ปี แม้โครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อภาคใต้ แต่สิ่งที่ต้องตระหนักมี 4 ข้อคือ 1.ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 2.ค่าตอบแทนเวนคืนต้องเป็นธรรม 3.การจัดการไฟฟ้า แหล่งน้ำในพื้นที่พาดผ่าน จะจัดการอย่างไรไม่ให้กระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4.การอ้างข้อมูลการจ้างงานในพื้นที่จะหลอกชาวบ้านหรือไม่ สิ่งที่ทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นโครงการ คือ ข้อมูลหน่วยงานรัฐมีความสมบูรณ์แบบ 100% หรือไม่ ขอให้ กมธ.ทบทวน ฟังความเห็นต่างของ สส.ด้วย
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า รายงานฉบับนี้ที่ระบุว่า อาจช่วยลดเวลาและระยะทางขนส่ง เกิดคำถามที่ไม่มีคำตอบมากมาย รัฐบาลต้องตอบคำถามสำคัญ 3 ข้อ คือ 1.ไม่มีออปชั่นอื่นที่ดีกว่านี้แล้วใช่หรือไม่ นอกเหนือจากการดำเนินโครงการนี้ เม็ดเงิน 1ล้านล้านบาทที่จะใช้ในโครงการ ยกระดับความสามารถการแข่งขันอะไรของประเทศได้บ้าง 2.จะจัดการความเสี่ยงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างไร พื้นที่ดำเนินการโครงการเป็นพื้นที่มรดกโลก 6 แห่ง เต็มไปด้วยศักยภาพทั้งทางบก ทางน้ำ ต้องเวนคืนพื้นที่หลายหมื่นไร่ สูญเสียพื้นที่ประมง ป่าไม้ พื้นที่ปลูกทุเรียน และผลไม้มากมายคือต้นทุนที่ต้องจ่าย และ 3.โครงการนี้ต้องวางสมดุลและแสดงวิสัยทัศน์ชัดเจนเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน เป็น 3 คำถามสำคัญที่ยังไม่มีคำตอบในรายงานฉบับนี้ ถ้ารัฐบาลเลือกโครงการแลนด์บริดจ์ หวังจะแชร์ส่วนแบ่งการเดินเรือในภูมิภาค ต้องตอบคำถามให้ได้ชัดเจนใน 3 องค์ประกอบคือ เส้นทางดำเนินโครงการต้อง 1.เร็วกว่า 2.สะดวกกว่า 3.ถูกกว่า แต่เนื้อหาในรายงานแค่บอกว่า อาจจะลดเวลา ไม่สามารถอนุมานได้จะเร็วกว่า หรือการขนส่งที่ต้องใช้ทั้งทางเรือ ทางราง ทางรถ จะสะดวกในการขนส่งสินค้าหรือไม่ ส่วนเรื่องถูกกว่ายังไม่มีคำตอบในรายงาน ต้องรอรายละเอียด ดังนั้นถ้ารัฐบาลตอบคำถามไม่ได้ ก็ไม่สามารถรับรายงานฉบับนี้ได้.-314.-สำนักข่าวไทย