ประสานเสียงไม่มีเจตนาทำลาย

รัฐสภา 31 ม.ค.-“พิธา-ชัยธวัช” ยืนยันไม่มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลาย หวั่น คำวินิจฉัยศาล รธน.เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง อาจส่งผลกระทบด้านลบต่อสถาบัน ย้ำ เป็นเรื่องของทุกคน ไม่ใช่แค่พรรค


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงความเห็นของพรรคก้าวไกลหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกรณีเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นายชัยธวัช กล่าวว่า แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อการล้มล้างการปกครอง แต่พรรคก้าวไกลขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้มีเจตนาเพื่อเซาะกร่อน บ่อนทำลาย หรือแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากชาติ นอกจากนี้พวกเรายังกังวลว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเมืองไทยในระยะยาวด้วย เช่น อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับศาลรัฐธรรมนูญในอนาคต


“กระทบต่อความเข้าใจและการให้ควาหมายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และหลักการสำคัญของระบอบการเมืองมีความชัดเจน ซึ่งอาจทำให้สิ่งที่เคยกระทำได้ในอดีตทั้งในสมัยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชหรือในระบอบประชาธิปไตยอาจเป็นการล้มล้างการปกครองได้ในปัจจุบันและอนาคต อาจกระทบเรื่องสำคัญ เช่น การตีความว่าอะไรคือการล้มล้างการปกครอง อาจเกิดปัญหาที่พวกพวกเราเข้าใจหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนแน่นอนไม่ตรงกันมีความคลุมเครือทั้งในเรื่องของแง่ตีความข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า เจตนาคำวินิจฉัยในวันนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อดุลยภาพระหว่างประชาธิปไตยกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในระบอบการเมืองไทยในอนาคต อาจจะทำให้สังคมไทยสูญเสียโอกาส ในการใช้ระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตยในการหาข้อยุติความขัดแย้งหรือความคิดเห็นที่แตกต่างกันในสังคมในอนาคต สุดท้ายคำวินิจฉัยในวันนี้อาจส่งผลกระทบให้ประเด็นเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์กลายเป็นปมปัญหาความขัดแย้งในการเมืองไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เสียเอง

“พรรคก้าวไกลขอบคุณทุกกำลังใจจากประชาชนที่ส่งมาให้พวกเราตลอดหลังจากที่มีการอ่านคำวินิจฉัย แต่อย่างไรก็ตามคำวินิจฉัยในวันนี้ไม่เพียงกระทบเฉพาะพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่จะกระทบต่อความเป็นประชาธิปไตยของประเทศ และสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกคน ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้และผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จึงเป็นเรื่องของพวกเราทุกคนไม่ใช่ของพรรคก้าวไกลเพียงอย่างเดียวแต่เป็นเรื่องของอนาคตของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว


ส่วนหากมีผู้ไปยื่นยุบพรรคก้าวไกลจะดำเนินการอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องรอคำวินิจฉัยก่อน แต่ไม่ประมาท  ในทางกฎหมายคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นที่สิ้นสุด จะอุทธรณ์ต่อไม่ได้ ซึ่งไม่ได้กังวล แต่ไม่ประมาทและยังไปไม่ถึงเรื่องการยุบพรรค เพราะต้องรอเอกสารคำวินิจฉัยที่สมบูรณ์ เพื่อรับมือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น

หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เรื่องการประกันตัวเป็นปัญหาที่เรามีความกังวลต่อคำวินิจฉัย ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อหลักเกณฑ์และข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย รวมถึงเจตนาเช่นกัน ที่บอกว่าการที่มีสส.ของพรรคก้าวไกลไปประกันตัวให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาคดี 112 ถือเป็นองค์ประกอบ เพื่อบอกว่าเรามีเจตนาล้มล้างการปกครองก็มีปัญหาเท่ากับหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย ซึ่งรับรองในรัฐธรรมนูญที่บอกว่าหลักที่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อน ไม่ว่าจะถูกกล่าวหาข้อหาอะไร ต้องถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งตรงนี้ถือว่าขัดกันและความจริงการประกันตัวผู้ต้องหาหรือผู้ที่ถูกกล่าวหาไม่ว่าจะข้อหาใด ๆ เป็นการใช้สิทธิ์ในกระบวนการยุติธรรมของบุคคลทุกคนไม่ได้มีข้อยกเว้นว่าถูกแจ้งข้อกล่าวหานี้ เป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ ห้ามประกันตัว หรือจะมีความผิดไปด้วย ซึ่งพรรคไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเหล่านี้เอามาร้อยรัดกัน แล้วตีความเป็นเจตนา

นายชัยธวัช กล่าวว่า คำสั่งของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีปัญหา 2 เรื่องคือสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเรื่องงดการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียนการพิมพ์การโฆษณาและการสื่อความหมาย โดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หมายความว่าหลังจากนี้พรรคก้าวไกลก็ต้องห้ามพูดเรื่อง 112 อย่างสิ้นเชิงหรือไม่ พูดได้อย่างเดียว คือสนับสนุนให้เพิ่มโทษหรือไม่อย่างไร ซึ่งยังไม่นับว่านักวิชาการหรือสื่อมวลชนแสดงความเห็นเรื่องมาตรา 112 ได้หรือไม่ รายงานเรื่องความปรองดองของคอป.ที่เสนอให้แก้ไขมาตรา 112 ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ส.ส.พรรคก้าวไกลนำมาใช้เสนอแก้ไข ครั้งที่ผ่านมาถ้าอิงตามคำวินิจฉัยนี้ถือว่าเป็นข้อเสนอที่ล้มล้างการปกครองด้วยหรือไม่ เพราะมีการเสนอให้ลดโทษเสนอให้สำนักพระราชวังเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษแทนประชาชน ตรงนี้ก็เป็นปัญหาเรื่องความชัดเจนแน่นอน และไม่นับว่าหากมีการเสนอกฎหมายศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา ได้โดยไม่ต้องรอให้ผ่านครบ 3 วาระหรือไม่ ซึ่งตรงนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อปัญหาในอนาคตได้

ส่วนกังวลหรือไม่ว่าจะมีการดำเนินคดีกับสส.ที่ลงชื่อแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งหนักกว่าการถูกยุบพรรค หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นแน่นอนและการดำเนินการใด ๆ หลังจากนี้ที่เกินสมควร ยืนยันว่าจะทำให้ประเด็นเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์กลายเป็นปมขัดแย้งทางการเมืองไทยมากยิ่งขึ้นซึ่งพรรคก้าวไกลมีเจตนาที่จะยุติ ลดการนำประเด็นเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเป็นประเด็นความขัดแย้งในสังคมไทย เพื่อให้เกิดเอกภาพและความมั่นคง ของประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และข้อเสนอของพรรคก้าวไกลมีเจตนาที่จะไม่ทำให้มาตรา 112 เป็นเครื่องมือทำลายทางการเมืองซึ่งกันและกัน

“ไม่เปิดช่องให้ใครผูกขาดความจงรักภักดีไว้กับตัวเองและอาศัย ความจงรักภักดีนั้นแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวซึ่งส่งผลให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองอย่างปฏิเสธให้ได้ ถ้าศาลบอกว่าการเป็นนโยบายหาเสียงเรื่องแก้ 112 เป็นการลดสถานะของพระมหากษัตริย์เข้ามาอยู่ในความขัดแย้งทางการเมือง ให้มาเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน ผ่านการเลือกตั้ง ดังนั้นพรรคการเมืองที่รณรงค์หาเสียงว่าตนเองเป็นผู้จงรักภักดีอีกพรรคหนึ่งไม่จงรักภักดีหรือโจมตีว่าอีกพรรคหนึ่ง มีเจตนาเป็นลบต่อพระมหากษัตริย์ หรือมีการขึ้นรูปพระราชวงศ์ในเวทีหาเสียง ถือว่าเป็นการลดทอน ทำลาย ทำให้พระมหากษัตริย์ไม่อยู่ในสถานะที่เป็นกลางทางการเมืองหรือไม่” นายชัยธวัช กล่าว

ด้านนายพิธา กล่าวยืนยันเจตนาว่า มีความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีวาระซ่อนเร้น และไม่มีความตั้งใจจะแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากความมั่นคงแห่งชาติในลักษณะแบบนั้น ส่วนความกังวล 2-3 เรื่องนั้น คือความกังวลในนิยามของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ความกังวลในเรื่องขอบเขตระหว่างนิติบัญญัติกับศาลรัฐธรรมนูญว่า อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ และความกังวลเรื่องเกี่ยวกับการวินิจฉัยด้วยอะไรที่ไม่ได้เป็นข้อเท็จจริงเยอะ ที่อาจจะมีเรื่องเจตนา การจินตนาการต่างๆ นาๆ ถ้าลงรายละเอียดไป ก็จะเป็นเรื่องสำคัญๆ ทางนิติรัฐ นิติธรรม เช่น การสันนิษฐานเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน

“สิทธิในการเข้าถึงการประกันตัว สิทธิรวมตัว เพื่อเรียกร้องความเปลี่ยนแปลงในสังคม ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย เรื่องแบบนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของตนเองคนเดียว ไม่ใช่เรื่องชะตากรรมของพรรคก้าวไกลอย่างเดียว เป็นเรื่องสุขภาพ เป็นเรื่องอนาคตของระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย เป็นสิ่งที่รู้สึกว่าเสียดาย เรามีโอกาสที่จะออกจากความขัดแย้ง ที่อาจมีคนนำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาอยู่ในความขัดแย้ง แล้วใช้รัฐสภานี้ที่ไม่มีใครสามารถผูกขาดความคิดได้ ว่าควรจะเป็นลักษณะไหน แล้วหานิยามร่วมกัน ตอนนี้ก็เป็นนิยามที่ออกมาจากคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น เป็นสิ่งที่จะต้องดูรายละเอียด แล้วกลับมาหาด้วยกันอีกที เพื่อเดินหน้ากันต่อ” นายพิธา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการแถลงนายพิธา พร้อมสส. ภาคก้าวไกล ก็ กลับเข้าห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในขณะที่ ส.ส.ที่อยู่ในห้องประชุมในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย มีสีหน้าเคร่งเครียด อาทิ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. บัญชีรายชื่อ โดยกอดกับสมาชิกพรรค และเพื่อนสส.ปลอบใจ แล้วนั่งเงยหน้า สีหน้าเหมือนสะอื้น. -312.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]