พร้อมหนุนเอกชนเยอรมนีลงทุนในไทย

ทำเนียบรัฐบาล 25 ม.ค.-นายกฯ หารือผู้แทนภาคเอกชนเยอรมนี พร้อมอำนวยความสะดวก เปิดรับทุกภารกิจ มุ่งเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน พร้อมยกระดับการเจรจา FTA เพื่อประโยชน์เอกชนทั้งสองปท.


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  หารือเต็มคณะ ร่วมกับนายฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์  ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นาย Michael Kellner รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMWK) และคณะผู้แทนภาคเอกชนเยอรมนี ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก 12 บริษัท ใน 5 สาขา ได้แก่ 1. สาขานิทรรศการงานแสดงสินค้านานาชาติ 2. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ 3.พลังงานหมุนเวียนและสิ่งแวดล้อม 4. บริการ ดิจิทัลและการศึกษา และ 5. วัสดุก่อสร้าง การก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและความต้องการด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน  

ประธานาธิบดีเยอรมนี กล่าวว่า เยอรมนีเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแข็งแกร่งระหว่างสองประเทศ ซึ่งไทยถือเป็นประเทศแรกที่มีทั้งความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้ากับเยอรมนีอย่างยาวนานนับตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1862 โดยเชื่อมั่นว่าไทยไม่ได้เป็นเพียงประเทศด้านการค้าการลงทุนเท่านั้น แต่เป็นพันธมิตรที่ดีสำหรับเยอรมนี เชื่อมั่นในการร่วมกันพัฒนาอนาคตที่สดใสร่วมกัน รวมถึงชื่นชมการมีเสถียรภาพทางการเมืองของไทย ซึ่งสะท้อนว่าไทยพร้อมเปิดกว้างสำหรับการทำธุรกิจ โดยเยอรมนีพร้อมยกระดับทางการค้าการลงทุนร่วมกัน


ด้านนายกรัฐมนตรี ยินดีที่ได้พบกับตัวแทนภาคเอกชนเยอรมนีในวันนี้ ขณะที่มล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย กล่าวสรุปข้อหารือที่ได้จากคณะผู้แทนภาคเอกชนเยอรมนีร่วมกับหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องว่า ผลการหารือเป็นไปได้ด้วยดี สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันดีและใกล้ชิดระหว่างภาคธุรกิจไทยเยอรมัน โดยได้เน้นย้ำถึงกระบวนทัศน์ทางเศรษฐกิจใหม่ของไทยในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ 1. การทำให้ประเทศไทยเป็นทางเลือกสำคัญในการลงทุนในฐานะแหล่งผลิตและภาคอุตสาหกรรมที่มีพลังงานสะอาด 2.) การนำเสนอด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งไทยมีฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งเชื่อมั่นว่าการมีส่วนร่วมของบริษัทรถยนต์เยอรมนี จะสามารถเปลี่ยนผ่านสู่ภาคการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้ในประเทศไทย 3. การพัฒนาดิจิทัล ไทยมีเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค มีการปรับปรุง พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่รองรับทั้งการใช้งานส่วนบุคคลและการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม 4. การส่งเสริมด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ซึ่งหารือร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะบริษัทด้านการผลิตไมโครชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคตสำหรับอุตสาหกรรม EV  

“5. การสนับสนุนความยั่งยืน ไทยมีเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 โดยภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 นี้ รัฐบาลอยู่ระหว่างการสร้างอัตราภาษีสีเขียว (Green Tariff) แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมให้การดูแล ติดตามทุกบริษัทที่ลงทุนในไทย รวมไปถึงการสร้างพลังงานหมุนเวียน เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์จากเขื่อนกักเก็บน้ำ 7 แห่งในไทย ซึ่งทางบริษัทเยอรมันหลายแห่ง ให้ความสนใจด้านพลังงานหมุนเวียน โดยเห็นพ้องที่จะส่วนร่วมในแง่ของการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการลงทุนในไทยต่อไป และ 6. ด้านการเจรจา FTA เน้นย้ำการเจรจาร่วมกับสหภาพยุโรป ซึ่งไทยให้ความสำคัญกับพลังงานสีเขียว เพื่อการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ลดคาร์บอนอื่น ๆ โดยข้อหารือทั้งหมดจะมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อทั้งสองประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเน้นนโยบายหลักหลายประการ ทั้งในด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และการปฏิรูปโครงสร้างในระยะยาว ขณะเดียวกันรัฐบาลจะส่งเสริมการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมมี Roadmap ที่ชัดเจนมากที่สุดในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ โดยเฉพาะด้านการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่าง ๆ เช่น การพัฒนาสนามบิน การพัฒนาระบบรางรถไฟ โครงการ Landbridge


“ประเทศไทยพร้อมอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจสำหรับภาคเอกชนต่างชาติในไทย โดยไทยเปิดรับการทำธุรกิจอย่างอิสระ มีมาตรการจูงใจทางภาษี รวมไปถึงด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเยอรมนีถือเป็นผู้นำระดับแนวหน้าของโลก รัฐบาลพร้อมยกระดับการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคเอกชนทั้งจากไทยและเยอรมัน และมีกำหนดเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีในเดือนมีนาคม 2567 นี้ เพื่อพบปะกับบริษัทของเยอรมนี ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนของเยอรมนี” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยพร้อมบูรณาการความร่วมมือ อำนวยความสะดวกให้แก่ภาคธุรกิจที่ต้องการขยายการลงทุนในไทย ศักยภาพและเสถียรภาพทางการเมืองของไทยชี้ชัดและมีความสำคัญอย่างมากต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้มากขึ้น รัฐบาลยินดีพิจารณาทุกข้อเสนอแนะและจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไป.-314  .-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระเบิดรถครู ตชด.

ทราบกลุ่มคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก

ทราบคนร้ายก่อเหตุระเบิดรถครู ตชด.สองพ่อลูก จ.นราธิวาส แล้ว วันก่อเหตุมีแนวร่วมปฏิบัติการประมาณ 6 คน กลุ่มเป้าหมายคือเจ้าหน้าที่รัฐ

นายกฯ ลงพื้นที่ยะลา พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ปลื้มต้อนรับอบอุ่น

นายกฯ ขึ้น ฮ. ลงยะลา ทักทายเป็นภาษามลายู พบนักเรียน-ผู้นำศาสนา ท่ามกลางฝนตกโปรยปราย ปลื้มต้อนรับอบอุ่น บอกมีตรงไหนเดือดร้อน รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ลั่นอยู่ศาสนาใด-เชื้อชาติใด คนไทยด้วยกัน ขอรักสามัคคีกัน

ข่าวแนะนำ

ระทึก! ฝรั่งคลั่งจี้ภรรยา สกัดจับได้แล้ว

ระทึกกลางถนน พลเมืองดีพบเหตุชายต่างชาติคลั่ง ใช้ปืนจี้ภรรยาคนไทย ขับรถจาก อ.หลังสวน มุ่งหน้าไปทางชุมพร ในรถมีเด็ก 2 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดจับได้แล้ว

นายกฯ คิกออฟ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง

นายกฯ คิกออฟ เปิดโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้ประชาชนเข้าชมบ้าน-ห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์ หวังยกระดับคุณภาพชีวิต มีบ้านใกล้ที่ทำงาน ลดความเหนื่อยล้า มีแรงช่วยพัฒนาประเทศ เผยหลังเปิดจองพบประชาชนกว่า 12 ล้านคน เข้าจองสิทธิ์ในเว็บไซต์จนเว็บล่ม ขณะที่ชาวบ้านมารอเข้าคิวที่สถานีกลางบางซื่อ คึกคักตั้งแต่ตี 5

กทม.คาดสัปดาห์หน้าค่าฝุ่นเป็นสีส้ม ขอภาครัฐ-เอกชน WFH 20-21 ม.ค.68

กทม. ประกาศขอความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน WFH 20-21 ม.ค.68 คาดค่าฝุ่นสัปดาห์หน้าเป็นสีส้ม มีอัตราระบายลมต่ำ ด้านผู้บริหารโรงเรียน สั่งเปิด-ปิดได้ตามหลักเกณฑ์และดุลยพินิจ

ข่าวลือไทยไม่ปลอดภัย

นายกฯ ถกเรียกความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย

นายกฯ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถกเรียกความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย หลังมีข่าวลือ ปั่นกระแสความไม่ปลอดภัย พร้อมคุยหากประเทศไหนมีความกังวล