สั่งผู้ว่าฯ ทำบัญชีผู้มีอิทธิพล

โรงแรมเซ็นทาราฯ ลาดพร้าว 8 ก.ย.-มท.1 ให้ผู้ว่าฯ ทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพล คุมเข้มพกปืน เตรียมออกคำสั่ง “ กำนันนก” ออกจากราชการ ชงกฎหมายกันชง-กัญชาเพื่อเศรษฐกิจเข้าสภาฯ ย้ำต่อไปมหาดไทยไม่มีสิงห์ดำ สิงห์แดง ระบบเส้นสายต้องหมดไป ผลงานเป็นที่ตั้ง


นายอนุทิน   ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้สัมภาษณ์กกรณีสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพล จะสำเร็จและดำเนินการอย่างไรต่อว่า  ขออย่าระบุว่าเป็นการสั่งการ เป็นสิ่งที่เราจะต้องดูแล คนที่จะมาดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน แม้จะมีบุคลิกเป็นผู้นำแต่ต้องมีคุณธรรม ไม่ใช้อิทธิพลดูแลปกครองประชาชน ส่วนจะต้องนำประวัติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มาพิจารณาควบคู่กันหรือไม่ ก็ต้องตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง และเชื่อว่าประชาชนไม่ต้องการอยู่ภายใต้การนำของคนอันธพาลเหล่านี้ 

“แต่ถ้าเป็นผู้มีอิทธิพลแล้วมาปกครองบ้านเมือง จะเกิดเหตุการณ์อย่างเช่นที่จังหวัดนครปฐม ไม่พอใจก็ข่มขู่  นี่ขนาดลูกน้อง  แต่ถ้าเป็นลูกพี่จะขนาดไหน ไม่มีลูกน้องที่ไหนที่ไม่ทำตามลูกพี่  ตัวอย่างที่เลว ๆ แบบนี้  ผู้ว่าราชการจังหวัด และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยต้องช่วยผม ไปขึ้นทะเบียนและคัดกรอง  คนแบบนี้จะอยู่ในบ้านเราและในสังคมไม่ได้  เพราะประชาชนจะเดือดร้อน   ถึงขั้นเอาชีวิตกันมันไม่ได้ บ้านเมืองมีขื่อมีแปร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย กล่าว


นายอนุทิน กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนปืนต้องมีความเข้มข้นมากขึ้น ใบอนุญาตการมีปืน  ห้ามบรรจุกระสุน และพกพาไปในที่สาธารณะ  มีข้อห้ามมากมาย   เพราะไม่ใช่มีใบอนุญาตแล้วจะพกพาไปไหนตอนไหนได้ ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัด

ส่วนที่ย้ำว่าการทำงานของกระทรวงมหาดไทยต้องไม่มีระบบเส้นสาย หรือเรื่องทางการเมือง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย กล่าวว่า เป็นการทำงานสไตล์ของตนอยู่แล้ว เชื่อมั่นว่าหากเราให้ความเป็นธรรมกับทุกคน  คำว่าเส้นสายจะเปลี่ยนไปเป็นผลงาน  ใครมีผลงานคนนั้นเส้นใหญ่   ใครรักประชาชนอย่างไรก็เข้าตาผู้บริหารและรัฐมนตรี

“การทำงานกระทรวงมหาดไทยภายใต้การนำของผม ไม่มีคำว่าสิงห์ดำ สิงห์แดง  พิสูจน์มาแล้วในยุคที่พ่อของผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เราเอาผลงานเป็นที่ตั้ง และเส้นสาย จะต้องหมดไปในยุคของตน ซึ่งระบบเส้นสายควรต้องหมดไปตั้งนานแล้ว ผมจะพยายามทำให้ไม่แบ่งขั้วแบ่งฝ่าย จะทำให้กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน เพราะสีหรือขั้วฝ่าย คลายทุกข์ให้ประชาชนไม่ได้  ความสามารถ ประสบการณ์ ความตั้งใจ จะทำให้ประชาชนมีความสุข   ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ใช่นโยบายผม” นายอนุทิน กล่าว


เมื่อถามถึงแนวทางปกป้องสถาบัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย กล่าวว่า  เป็นความภาคภูมิใจที่เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ จะให้ถูกลบหลู่ดูหมิ่นไม่ได้ ส่วนเรื่องการศึกษาต้องให้เยาวชนของชาติต้องภูมิใจในสถาบันหลักของชาติที่เป็นมาโดยช้านาน แก้ไขวิกฤติการณ์ของชาติมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง หลักสูตรต่าง ๆ  ถูกถอดออกไป แล้วอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น

“ผมเล่าเรียนมาจึงรู้สึกหวงแหน ภูมิใจที่เรามีสถาบันอันเป็นที่รักของชาติอยู่  สภาพหลังจากที่ถอดหลักสูตรออกไปเป็นอย่างไรเราก็เห็นกันอยู่ หลังจากนี้คงจะต้องมีการสังคายนาและปลูกฝังค่านิยมที่ดีเหล่านี้ต่อไป พร้อมสร้างความเข้าใจให้กับเด็กและเยาวชน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะนำกัญชาไปสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย กล่าวว่า ต้องขอบพระคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในช่วงที่เราหารือกัน พรรคภูมิใจไทยได้ฝากทำความเข้าใจว่าไม่ได้นำกัญชามาใช้ในทางสันทนาการหรือมอมเมา แต่นำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์และสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อสุขภาพของประชาชน แต่ที่ผ่านมามีการสื่อสารที่ผิดเพี้ยนไป เพราะกฎหมายยังไม่ผ่านสภา แต่หากกฎหมายผ่านแล้วสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น  

“เร็ว ๆ นี้พรรคภูมิใจไทยจะยื่นกฎหมายควบคุมกันชงกัญชาเข้าสภาฯ อีกครั้งหนึ่ง  ต้องนับหนึ่งใหม่ แต่โครงสร้างพื้นฐานมีอยู่แล้ว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่และนายกรัฐมนตรีจะพิจารณาเพิ่มเติมหรือทำอะไรที่เป็นประโยชน์มากขึ้น หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น และในคำแถลงนโยบายก็มีเรื่องนี้ปรากฎอยู่เช่นกัน” นายอนุทิน กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงตำรวจ 2 นาย ภายในบ้านนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ “กำนันนก” ผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนครปฐม ว่า คงจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน อหยุดปฏิบัติหน้าที่ เราต้องดูพฤติกรรมของคนเหล่านี้ว่าจะไปคุกคามประชาชนแบบนี้ไม่ได้ ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]