ดันกระแส Soft Power ไทย สู่สายตานานาชาติต่อเนื่อง

ทำเนียบ 26 ส.ค.- รัฐบาล “พลเอกประยุทธ์” ผลักดันกระแส Soft Power ไทย สู่สายตานานาชาติต่อเนื่อง ปูรัฐบาลใหม่สานต่อให้แพร่หลายทั่วโลกยิ่งขึ้น


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผ่านการจัดงาน Consumer Fair ภายใต้ชื่อ “Amazing Thailand Fest 2023” ใน 4 เมืองสำคัญของโลก นครนิวยอร์ก นครบาร์เซโลนา นครโอซาก้า และนครซิดนีย์ นำเสนอ 5F Soft Power ไทย ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก กระตุ้นการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมสร้างกระแสสู่การเดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ในประเทศไทย รวมยอดเข้าร่วมงานใน 4 เมืองสำคัญของโลก 134,000 คน สร้างความประทับใจ เพิ่มยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต่อยอดส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวผ่านการจัดงาน Amazing Thailand Fest 2023 เพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย โดยนำเสนอ 5F Soft Power ของไทยผ่านการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว สร้างแรงบันดาลใจ ดึงดูดการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) โดยในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ททท. ได้เดินหน้าจัดกิจกรรมดังกล่าวใน 4 เมืองสำคัญของโลก ได้แก่


1) นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ณ The Oculus – World Trade Center โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 40,000 คน ภายในงานมีการนำเสนอ Soft Power ของไทยในมิติต่าง ๆ อาทิ การแสดงหุ่นละครเล็ก นาฎศิลป์ไทย ศิลปะการต่อสู้มวยไทย และการเดินแบบผ้าไทย รวมถึงยังมีบูธนำเสนออาหารไทยภาคต่าง ๆ ทั้งนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวภูมิภาคอเมริกา (สหรัฐอเมริกา แคนาดา และละตินอเมริกา) เป็นตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกลอันดับ 2 ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 28 พฤษภาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอเมริกาเดินทางมาเยือนไทยแล้ว จำนวน 504,285 คน

2) นครบาร์เซโลนา ราชอาณาจักรสเปน ณ Plaza De La Rosa Dels Vents โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 12,000 คน ภายในงานจำลองบรรยากาศงานวัดในเมืองไทยให้ชาวสเปนได้ตื่นตาตื่นใจกับ Soft Power ของไทย อาทิ การแสดงมวยไทย การแสดงศิลปวัฒนธรรม 4 ภาค และการออกบูธร้านอาหาร-เครื่องดื่ม สินค้าและบริการของไทย ทั้งนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวสเปน ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 26 มิถุนายน 2566 มีนักท่องเที่ยวจากสเปนเดินทางมาเยือนไทยแล้ว จำนวน 47,258 คน

3) นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ณ ห้างสรรพสินค้า Q’s Mall โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 37,000 คน ภายในงานมีการจำลองบรรยากาศงานวัดและเทศกาลที่สอดคล้องกับฤดูกาลของไทย พร้อมนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยละครซีรีส์ไทย กิจกรรมมินิคอนเสิร์ตและสัมภาษณ์นักแสดง Boys Love (BL) รวมถึงการแสดงศิลปะมวยไทย กิจกรรม Workshop/ DIY ต่าง ๆ แต่งชุดไทยถ่ายภาพ ทั้งนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ให้ความสำคัญกับการเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ควบคู่กับสนใจการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรม อีกทั้งยังมีกลุ่มตลาดศักยภาพใหม่ เช่น กลุ่มผู้ที่ชื่นชอบละครไทยซีรีส์ไทย โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 13 กรกฎาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นเดินทางมาเยือนไทยแล้ว จำนวน 351,288 คน


4) นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ณ Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West โดยมีผู้ร่วมงานประมาณ 45,000 คน ภายในงานมีการจำลองบรรยากาศงานเทศกาลประเพณีไทยและกิจกรรมการแสดง อาทิ รำไทยสี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน โชว์ไหว้ครูมวยไทย การจำลองฉากหาดทรายชายทะเลที่สวยงามของไทย ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ และการออกบูธจากร้านอาหารไทยในซิดนีย์ที่ได้รับความนิยมจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลีย เป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่อเติบโตของตลาดระยะใกล้ โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 13 กรกฎาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางมาเยือนไทยแล้ว จำนวน 385,100 คน

การจัดงานฯ สอดคล้องกับทิศทางส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ในปี 2567 ซึ่ง ททท. ได้เน้นย้ำการเร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยเพื่อเดินหน้าต่อเนื่องสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving forward to Better) สร้างระบบนิเวศใหม่ที่มีคุณค่า สมดุลและยั่งยืน ด้วยการลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจำนวนมาก สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง รวมทั้งผลักดัน Soft Power ไทยต่อเนื่อง ด้วยการร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกในพื้นที่ต่าง ๆ ผ่านแคมเปญ “Brand Collaboration : Amazing Thailand x 5F” โดยจะทำงานร่วมกับสินค้าต่าง ๆ และนำแบรนด์ Amazing Thailand ไปประทับลงบนสินค้า ซึ่งถือเป็นการทำ Co-Brand ร่วมกัน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเที่ยวไทยมากขึ้น

“ตลอดระยะเวลาการบริหารงานของรัฐบาล ภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว สร้างพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย รวมถึงนำเสนอศักยภาพด้านศิลปวัฒนธรรม ต่อยอดเป็นสินค้าส่งออกทางวัฒนธรรม เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการผลักดัน Soft Power ของไทยให้เป็นที่รู้จัก เพิ่มความนิยมให้แก่ชาวต่างชาติ โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่ารัฐบาลใหม่จะสานต่อ ขับเคลื่อนนโยบายและกิจกรรมให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยต่อไป” นางสาวรัชดา กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“คุณหญิงกัลยา” ลาออกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

กทม. 19 ก.ย.- “คุณหญิงกัลยา” ลาออกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ผ่านมา คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า “ข้าพเจ้า คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ขอเรียนแจ้งความประสงค์ในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาในการที่ข้าพเจ้าได้เป็นส่วนหนึ่งของพรรค ข้าพเจ้าได้รับเกียรติและประสบการณ์อันทรงคุณค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมผลักดันนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา และการสร้างโอกาสให้เยาวชนประสบความสำเร็จ รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริ เพื่อแก้จน แก้หลาก และแก้แล้ง อันช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งล้วนเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้ายังคงมีความเชื่อมั่นว่า “การศึกษา คือรากฐานสำคัญที่สุดในการพัฒนาคนและชาติ” จึงตั้งใจจะอุทิศเวลาและความรู้ ความสามารถทั้งหมดต่อจากนี้ เพื่อพัฒนาการศึกษาไทย สร้างโอกาสที่เท่าเทียม และขับเคลื่อนการเรียนรู้สู่ความยั่งยืนต่อไป ขอขอบพระคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้มอบโอกาสและความไว้วางใจเสมอมา ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ให้ประสบความสำเร็จในภารกิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติสืบไป”.-315.-สำนักข่าวไทย