ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดอดีตเลขาฯ สภาฯ คดีจัดจ้างปรับปรุงระบบนาฬิกาฯโดยมิชอบ

ป.ป.ช. 10 ส.ค. – ป.ป.ช. แถลงชี้มูลความผิด “สุวิจักขณ์” อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร คดีจัดจ้างปรับปรุงระบบนาฬิการอบสภา 15 ล้าน โดยมิชอบ และชี้มูล “นายก อบจ.มหาสารคาม” ทุจริตจัดซื้อเวชภัณฑ์โควิด-19 และ “อดีตอัยการตะกั่วป่า” เรียกเงินญาติผู้ต้องหาแลกลดโทษ ปมพกปืน


นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายวัชระชัยย์ หรือสุวิจักขณ์ นาควัชระชัยท์ หรือนาควัชระชัย พร้อมพวก 16 ราย กรณีจัดจ้างโครงการปรับปรุงระบบนาฬิกา (Clock system) สำหรับติดตั้งบริเวณภายในและโดยรอบอาคารรัฐสภา โดยมิชอบ วงเงินงบประมาณโครงการ 15,122,845 บาท

จากการไต่สวนดังกล่าวพบว่า ติดตั้งโดยจ้างบริษัทเอกชน และมีการแก้ไขคุณสมบัติของนาฬิกาให้เป็นไปตามที่ต้องการ ซึ่งไม่ตรงกับทีโออาร์ ต่อมาในขั้นตอนของการอนุมัติพบว่าไม่ได้เสนอราคามาตรฐานหรือราคากลางของทางราชการ หรือราคาที่เคยจัดซื้อล่าสุดในระยะเวลา 2 ปีงบประมาณ


ทั้งนี้ ในขั้นตอนของการยื่นซองประกวดราคามีเพียง 2 บริษัทที่ยื่นซอง โดยบริษัทชนะการประกวดราคาเป็นบริษัทเสนอราคาต่ำสุด 14,891,083 ล้านบาท ทั้งที่บริษัทดังกล่าวไม่ได้จำหน่ายและติดตั้งนาฬิกาโดยตรง พบว่ามีการปลอมแปลง แต่เป็นการสั่งซื้อจากบริษัทอื่น เพื่อมาติดตั้งและส่งมอบ

นอกจากนี้ยังพบอีกว่าบริษัทเอกชนดังกล่าวปลอมแปลงหนังสือรับรองผลงานและสัญญาจ้างที่ใช้ประกอบการเสนอราคา ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาไม่ได้เบิกค่าจ้างและบอกเลิกสัญญาในเวลาต่อมา ดังนั้น ป.ป.ช. จึงมีมติดำเนินคดีอาญาและวินัยนายวัชระชัยย์ หรือนายสุวิจักขณ์

ส่วนผู้บริหารและบริษัทเอกชนที่ชนะการประกวดราคา และบริษัทผู้เสนอราคาแข่งขันประกวดราคาอีกราย มีความผิดทางอาญาและความผิดตามกฎหมายเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการสภามีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง


นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังชี้มูลความผิดนายธรรมะ หรือนายชินโชติ สอนใจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดตะกั่วป่า สำนักงานอัยการจังหวัดตะกั่วป่า จังหวัดพังงา พร้อมพวก เรียกรับผลประโยชน์จากญาติของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดีครอบครองอาวุธปืน เพื่อแลกกับการช่วยเหลือให้ลงโทษผู้ต้องหาในสถานเบา กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหารายหนึ่ง และตั้งข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และในระหว่างการสั่งฟ้องคดีนายธรรมะได้เรียกเงินจากญาติของผู้ต้องหา 500,000 บาท ซึ่งมีหลักฐานเป็นคลิปการสนทนา ทั้งนี้ญาติของผู้ต้องหาไม่จ่ายเงินตามที่เรียก

ต่อมานายธรรมะจึงได้สั่งฟ้อง พร้อมเพิ่มเติมร่างคำฟ้องของพนักงานอัยการ บิดเบือนข้อเท็จจริง และให้ลงโทษผู้ต้องหาสถานหนัก ป.ป.ช. จึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าวมีมูลความผิดทางอาญา และความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ถูกไล่ออก แต่คดีทางวินัยไม่ต้องส่งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการ

พร้อมกันนี้ ป.ป.ช. ยังมีมติชี้มูลนายกองโท นางคมคาย อุดรธานีพิมพ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม พร้อมพวก ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีจัดซื้ออุปกรณ์ ยา และเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา ตามโครงการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อไวรัสโคโรนาโดยมิชอบ ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่านางคมคายจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ ที่ไม่ใช่ยา ก่อนที่จะให้คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนให้ความเห็นชอบ และทำสัญญาจัดซื้อในราคาแพงกว่าปกติ โดยมีการจัดซื้อทำสัญญา 3 ฉบับ วงเงินฉบับแรกวงเงิน 1,942,400 บาท ฉบับที่ 2 วงเงิน 1,050,000 บาท และฉบับที่ 3 วงเงิน 892,500 บาท รวมทั้ง 3 สัญญา เป็นเงิน 3,884,900 บาท อีกทั้งในขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินค่าซื้อวัสดุอุปกรณ์ให้กับผู้ขายนั้น ไม่ได้ให้ผู้รับเช็คลงลายมือชื่อรับเช็คไว้ในต้นขั้ว

ป.ป.ช. จึงเห็นว่าการกระทำของนางคมคาย มีมูลความผิดทางอาญา และความผิดตามกฎหมายว่าด้วยตามกฎหมายว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ รวมถึงมีมูลทำให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้ต้องถูกถอดถอน ส่วนปลัดและรองปลัด มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง กรณีปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ขณะที่นางเพ็ญศรี แสงดารา รองปลัด อบจ.มหาสารคาม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ อบจ. มีความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง จากการประมาทเลินเล่อในหน้าที่ มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง

ส่วนบริษัทเอกชนมีความผิดทั้งอาญาและกฎหมายการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ทั้งนี้ ให้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดให้ดำเนินคดีอาญาในศาลที่มีเขตอำนาจ และส่งเรื่องให้ผู้บัญชาให้ดำเนินการต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของ ป.ป.ช. ผลการพิจารณาของ ป.ป.ช. ให้สำนักงาน กกต. ทราบ ที่ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]