ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดอดีตเลขาฯ สภาฯ คดีจัดจ้างปรับปรุงระบบนาฬิกาฯโดยมิชอบ

ป.ป.ช. 10 ส.ค. – ป.ป.ช. แถลงชี้มูลความผิด “สุวิจักขณ์” อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร คดีจัดจ้างปรับปรุงระบบนาฬิการอบสภา 15 ล้าน โดยมิชอบ และชี้มูล “นายก อบจ.มหาสารคาม” ทุจริตจัดซื้อเวชภัณฑ์โควิด-19 และ “อดีตอัยการตะกั่วป่า” เรียกเงินญาติผู้ต้องหาแลกลดโทษ ปมพกปืน


นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายวัชระชัยย์ หรือสุวิจักขณ์ นาควัชระชัยท์ หรือนาควัชระชัย พร้อมพวก 16 ราย กรณีจัดจ้างโครงการปรับปรุงระบบนาฬิกา (Clock system) สำหรับติดตั้งบริเวณภายในและโดยรอบอาคารรัฐสภา โดยมิชอบ วงเงินงบประมาณโครงการ 15,122,845 บาท

จากการไต่สวนดังกล่าวพบว่า ติดตั้งโดยจ้างบริษัทเอกชน และมีการแก้ไขคุณสมบัติของนาฬิกาให้เป็นไปตามที่ต้องการ ซึ่งไม่ตรงกับทีโออาร์ ต่อมาในขั้นตอนของการอนุมัติพบว่าไม่ได้เสนอราคามาตรฐานหรือราคากลางของทางราชการ หรือราคาที่เคยจัดซื้อล่าสุดในระยะเวลา 2 ปีงบประมาณ


ทั้งนี้ ในขั้นตอนของการยื่นซองประกวดราคามีเพียง 2 บริษัทที่ยื่นซอง โดยบริษัทชนะการประกวดราคาเป็นบริษัทเสนอราคาต่ำสุด 14,891,083 ล้านบาท ทั้งที่บริษัทดังกล่าวไม่ได้จำหน่ายและติดตั้งนาฬิกาโดยตรง พบว่ามีการปลอมแปลง แต่เป็นการสั่งซื้อจากบริษัทอื่น เพื่อมาติดตั้งและส่งมอบ

นอกจากนี้ยังพบอีกว่าบริษัทเอกชนดังกล่าวปลอมแปลงหนังสือรับรองผลงานและสัญญาจ้างที่ใช้ประกอบการเสนอราคา ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาไม่ได้เบิกค่าจ้างและบอกเลิกสัญญาในเวลาต่อมา ดังนั้น ป.ป.ช. จึงมีมติดำเนินคดีอาญาและวินัยนายวัชระชัยย์ หรือนายสุวิจักขณ์

ส่วนผู้บริหารและบริษัทเอกชนที่ชนะการประกวดราคา และบริษัทผู้เสนอราคาแข่งขันประกวดราคาอีกราย มีความผิดทางอาญาและความผิดตามกฎหมายเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการสภามีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง


นอกจากนี้ ป.ป.ช. ยังชี้มูลความผิดนายธรรมะ หรือนายชินโชติ สอนใจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดตะกั่วป่า สำนักงานอัยการจังหวัดตะกั่วป่า จังหวัดพังงา พร้อมพวก เรียกรับผลประโยชน์จากญาติของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดีครอบครองอาวุธปืน เพื่อแลกกับการช่วยเหลือให้ลงโทษผู้ต้องหาในสถานเบา กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหารายหนึ่ง และตั้งข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และในระหว่างการสั่งฟ้องคดีนายธรรมะได้เรียกเงินจากญาติของผู้ต้องหา 500,000 บาท ซึ่งมีหลักฐานเป็นคลิปการสนทนา ทั้งนี้ญาติของผู้ต้องหาไม่จ่ายเงินตามที่เรียก

ต่อมานายธรรมะจึงได้สั่งฟ้อง พร้อมเพิ่มเติมร่างคำฟ้องของพนักงานอัยการ บิดเบือนข้อเท็จจริง และให้ลงโทษผู้ต้องหาสถานหนัก ป.ป.ช. จึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าวมีมูลความผิดทางอาญา และความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ถูกไล่ออก แต่คดีทางวินัยไม่ต้องส่งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการ

พร้อมกันนี้ ป.ป.ช. ยังมีมติชี้มูลนายกองโท นางคมคาย อุดรธานีพิมพ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม พร้อมพวก ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีจัดซื้ออุปกรณ์ ยา และเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา ตามโครงการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อไวรัสโคโรนาโดยมิชอบ ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่านางคมคายจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ ที่ไม่ใช่ยา ก่อนที่จะให้คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนให้ความเห็นชอบ และทำสัญญาจัดซื้อในราคาแพงกว่าปกติ โดยมีการจัดซื้อทำสัญญา 3 ฉบับ วงเงินฉบับแรกวงเงิน 1,942,400 บาท ฉบับที่ 2 วงเงิน 1,050,000 บาท และฉบับที่ 3 วงเงิน 892,500 บาท รวมทั้ง 3 สัญญา เป็นเงิน 3,884,900 บาท อีกทั้งในขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินค่าซื้อวัสดุอุปกรณ์ให้กับผู้ขายนั้น ไม่ได้ให้ผู้รับเช็คลงลายมือชื่อรับเช็คไว้ในต้นขั้ว

ป.ป.ช. จึงเห็นว่าการกระทำของนางคมคาย มีมูลความผิดทางอาญา และความผิดตามกฎหมายว่าด้วยตามกฎหมายว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ รวมถึงมีมูลทำให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้ต้องถูกถอดถอน ส่วนปลัดและรองปลัด มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง กรณีปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ขณะที่นางเพ็ญศรี แสงดารา รองปลัด อบจ.มหาสารคาม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ อบจ. มีความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง จากการประมาทเลินเล่อในหน้าที่ มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง

ส่วนบริษัทเอกชนมีความผิดทั้งอาญาและกฎหมายการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ทั้งนี้ ให้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุดให้ดำเนินคดีอาญาในศาลที่มีเขตอำนาจ และส่งเรื่องให้ผู้บัญชาให้ดำเนินการต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของ ป.ป.ช. ผลการพิจารณาของ ป.ป.ช. ให้สำนักงาน กกต. ทราบ ที่ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง