“ปลานึ่งต้มยำแบบไทย” เป็น 1 ในเมนูเสิร์ฟเอเชียนเกมส์

กทม. 2 ก.ค.-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ปลื้ม “ปลานึ่งต้มยำแบบไทย” ได้รับเลือกเป็น 1 ในเมนูอาหารที่ใช้เสิร์ฟในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ณ เมืองหางโจว ประเทศจีน ถือเป็นโอกาสประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลื้มอาหารไทย ได้รับเลือกเป็น 1 ในเมนูอาหารที่ใช้เสิร์ฟในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 8 ตุลาคม 2566 ณ เมืองหางโจว ประเทศจีน เชื่อมั่นจะเป็นโอกาสเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม “อาหารไทย” ให้เป็นที่รู้จักต่อนานาประเทศมากขึ้น


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊คว่า “ปลานึ่งต้มยำแบบไทย” ได้รับเลือกเป็น 1 ในเมนูอาหารที่ใช้เสิร์ฟในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 8 ตุลาคม 2566 โดยเมนูต้มยำ ถือเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นที่รู้จัก และชื่นชอบของคนทั่วโลก โดยเฉพาะที่ประเทศจีน ที่ได้รับความนิยมและมีขายอย่างแพร่หลาย ทั้งในร้านอาหารไทยในจีน และในรูปแบบเครื่องปรุงสำเร็จรูปสำหรับทำต้มยำแบบไทยก็มีขายในจีนด้วยเช่นกัน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวเพิ่มเติมว่า การเลือกเป็นเมนูปลานึ่งต้มยำแบบไทยนั้น เนื่องจากคนจีนรู้จักต้มยำกุ้งของไทยเป็นอย่างดี โดยร้านอาหารไทย รวมถึงร้านอาหารอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ร้านอาหารไทยโดยตรงต้องการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ จึงนำเครื่องปรุงและรสชาติแบบต้มยำไปประยุกต์ใช้ในเมนูอื่น อย่างเช่น เมนูปลานึ่ง ที่คนจีนชอบรับประทานนำเครื่องต้มยำมาทำเป็นน้ำซุปราด ทั้งนี้ การได้รับเลือกดังกล่าวยังมีสื่อหลักของจีนอย่างสำนักข่าว China Media Group (CMG) ได้นำเอาเรื่องนี้ไปนำเสนอด้วย โดยระบุว่า เมนูนี้ของไทยเป็นเมนูยอดนิยมของคนทั่วโลก และต้มยำนับเป็นอาหารเอกลักษณ์ของไทย


“นายกรัฐมนตรียินดีที่อาหารไทยได้รับการยอมรับในเวทีระหว่างประเทศอีกครั้ง สนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเดินหน้าประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมอาหารไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผลักดัน และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยให้ความสำคัญกับมาตรฐาน วัตถุดิบ รสชาติ ราคา เพื่อคงความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค รวมทั้ง สนับสนุนให้ต่อยอดอาหารไทยไปสู่เทรนด์อาหารแห่งอนาคต (Future Foods) และผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบตั้งแต่ผู้ประกอบการผลิตอาหาร และผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ