พรรคประชาธิปัตย์ 24 พ.ค.-ปชป. ยื้อโหวต “หัวหน้าพรรค” ใหม่ รอ กกต.รับรอง ส.ส. “ราเมศ” ยันไม่เกิน 13 ก.ค. รู้ชื่อผู้นำพรรคคนใหม่
นายราเมศ รัตนเชวง รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ชุดรักษาการว่า ที่ประชุมหารือเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อพรรคการเมือง คือการสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้มีประชาชนสมัครสมาชิกทั่วประเทศแล้ว 89,180คน หลังจากแก้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)พรรคการเมือง ปรับลดค่าบำรุงเป็น 20 บาท เชื่อว่าจะมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น
“ที่ประชุมรับทราบกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค โดยขั้นตอนต่อไปจะเลือกตั้งหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ภายใน 60 วันตามพ.ร.ป.พรรคการเมือง โดยในส่วนของกระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ตามข้อบังคับข้อที่ 32 ในอดีตจะต้องเปิดให้หยั่งเสียงเบื้องต้น เหมือนครั้งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะลาออก แต่ขณะนี้เรามีกลไกประจำจังหวัดและสาขาพรรค ที่ประชุมจึงเสนอให้ยกเว้นข้อบังคับข้างต้น แต่ยังยืนยันรับฟังสมาชิกทุกท่าน โดยหลังจากนี้พรรคจะเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ ซึ่งวันนั้นจะมีสมาชิกทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมอยู่แล้ว” นายราเมศ กล่าว
นายราเมศ กล่าวว่า ที่ประชุมได้กำหนดองค์ประชุมการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยองค์ประชุมสำคัญที่สุดคือว่าที่ส.ส.ที่ผ่านการเลือกตั้งทั้ง 24 คนที่จะเป็นองค์ประชุมหลัก 70% ดังนั้น จึงเห็นควรให้รอคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศรับรองก่อน ในส่วนอื่น ๆ ยังเป็นไปในข้อบังคับพรรคทุกประการ เช่น จะต้องมีกรรมการบริหารพรรค อดีตหัวหน้าพรรค อดีตรัฐมนตรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะร่วมเป็นองค์ประชุม 30 % หลังจากนี้จะประชุมเพื่อกำหนดสัดส่วนที่เหมาะสมอีกครั้ง การประชุมกก.บห.ชุดรักษาการครั้งนี้ ยังไม่ใช่นัดสุดท้าย แต่หลังจากกกต.รับรองส.ส.แล้ว จะประชุมอีกครั้งเพื่อกำหนดเรื่องวันที่ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งหากนับกำหนด 60วันหลังจากนายจุรินทร์ลาออก จะต้องเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ภายในวันที่ 13ก.ค.นี้
นายราเมศ กล่าวว่า ที่ประชุมได้พูดคุยผลการเลือกตั้ง แต่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด เพียงแต่ให้กำลังใจกัน หลังจากประชุมกก.บห. จะประชุมว่าที่ส.ส.เพื่อขับเคลื่อนการทำงานภายใต้ระบบรัฐสภาต่อไป ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังไม่พูดถึงประเด็นร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลหรือลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนไหน การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้มติพรรค
“นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ยืนยันต่อที่ประชุมอย่างชัดเจนว่าไม่เคยพูดคุย ติดต่อประสานงานเรื่องตั้งรัฐบาลกับใครทั้งสิ้น ข่าวที่ออกไปเป็นการบิดเบือนเพื่อดิสเครดิตพรรค ขณะเดียวกันท่านยังพูดในหลักการ “คำไหนคำนั้น” เมื่อตัวเลขไม่ถึงตามที่ประกาศไว้ก็ต้องดำเนินการตามนั้น แต่ในส่วนของสมาชิก ยังเชื่อในหลักการว่าท่านยังรักพรรคประชาธิปัตย์ และยังต้องการคำปรึกษาจากท่านร วมถึงผู้อาวุโสอีกหลายท่านที่มีประสบการณ์ ซึ่งเราก็ดำเนินการมาโดยตลอด” นายราเมศ กล่าว
เมื่อถามว่าการยกเว้นข้อบังคับเรื่องการหยั่งสียง เพราะต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า ในอดีตแข่งขันตามระบอบประชาธิปไตย จึงเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อเลือกเสร็จก็จบ ยืนยันว่าเหตุผลที่ยกเว้นข้อบังคับมาจากว่าขณะนี้เรามีสมาชิกพรรค กลไกแต่ละจังหวัดเพียงพออยู่แล้ว เรายังเห็นความสำคัญของสมาชิก.-สำนักข่าวไทย