ทำเนียบรัฐบาล 27 มี.ค.-นายกฯ ชื่นชมออท.กัวเตมาลา ที่มีบทบาทสำคัญให้กัวเตมาลากลับมาเปิดสถานทูตที่ไทยอีกครั้ง พร้อมขยายความร่วมมือทั้งด้านการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว มั่นใจว่าจะร่วมกันขับเคลื่อน การค้าในลาตินอเมริกาได้
นายการ์โลส อุมเบร์โต ฆิเมเนซ ลิโกนา (H.E. Mr. Carlos Humberto Jiménez Licona) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐกัวเตมาลาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันของเอกอัครราชทูตกัวเตมาลาฯ ถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกลับมาเปิดสถานเอกอัครราชทูตกัวเตมาลาประจำประเทศไทย เมื่อปี 2562 ซึ่งช่วยขับเคลื่อนพลวัตความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก โดยให้ความร่วมมืออันดีกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนของไทย
“เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนการเยือนและการหารือทวิภาคีระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมชื่นชมการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดปี 2565 ที่ผ่านมา เพื่อฉลองวาระครบรอบ 65 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ ไทย – กัวเตมาลา สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพอันยาวนานและความตั้งใจของทั้งสองฝ่ายที่จะสานต่อความร่วมมืออันดีระหว่างกัน ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือกับกัวเตมาลาให้แน่นแฟ้น และสร้างสรรค์ยิ่งขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและความร่วมมือเพื่อการพัฒนา” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยพร้อมหารือโดยเฉพาะด้านการเกษตร การพัฒนาทางเลือก และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รวมทั้งชื่นชมความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายในการหารือด้านความร่วมมือในสาขาโบราณคดีระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมมือ เพื่อการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมและสามารถนำร่องไปสู่การพัฒนาในมิติอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
เอกอัครราชทูตกัวเตมาลาฯ ยืนยันว่ากัวเตมาลาพร้อมจะสานต่อความร่วมมือ โดยไทยถือเป็นประเทศที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่มาเยือนและมีศักยภาพทางการพัฒนาในอีกหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุนและด้านการท่องเที่ยว จึงเชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะสามารถขับเคลื่อนและผลักดันการค้าในลาตินอเมริกาได้อีกมาก
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างกัน ซึ่งไทยเห็นถึงศักยภาพของกัวเตมาลา โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าปุ๋ย และการนำเข้าและขยายตลาดสินค้ากาแฟกัวเตมาลา ซึ่งเอกอัครราชทูตกัวเตมาลาฯ เห็นพ้องและยินดีที่ทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเพื่อขยายความร่วมมือในด้านดังกล่าวเพื่อประโยชน์ร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย