“อนุทิน” แจงย้าย “หมอสุภัทร” เป็นอำนาจผู้ตรวจฯ ปัดแทรกแซง

รัฐสภา 15 ก.พ. – “อนุทิน” แจงย้าย ผอ.รพ.จะนะ เป็นอำนาจผู้ตรวจกระทรวงฯ ยันไม่แทรกแซงการชุมนุม ชี้ฝ่ายค้านอภิปรายข้อมูลแค่คาดเดา ไร้หลักฐาน สอนกลับควรแนะนำ ไม่ใช่โหวกเหวกตะโกน


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปในวันนี้ (15 ก.พ.66) ว่า ทุกฝ่ายต่างทำหน้าที่ ฝ่ายค้านมีทั้งวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถาม และให้คำแนะนำ แต่รัฐบาลก็ได้ชี้แจงในส่วนที่มีความเหมาะสม เช่น กรณีกระทรวงสาธารณสุข ที่พูดถึงในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธาน สปสช. ไม่ยอมลงนามในงบฯ ส่งเสริมสุขภาพ ในส่วนนอกเหนือสิทธิบัตรทอง ตนเองก็ได้ชี้แจงไปอย่างชัดเจนว่าจะต้องมีขั้นตอน ยืนยันไม่มีเจตนารมณ์ที่จะสร้างความเสียหาย ทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่มีวาระซ่อนเร้นใดๆ ส่วนในด้านการให้บริการ ทุกคนสามารถเบิกงบฯ ไม่ว่าจะอยู่ในสิ่งใดก็ตาม

นายอนุทิน ยืนยันว่า การอภิปรายในครั้งนี้ ในฐานะที่กำกับดูแล 3 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต่างทำงานอย่างเต็มที่ ผลงานออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ข้อมูลบางอย่างจากฝ่ายค้านเป็นข้อมูลเก่า และเป็นข้อมูลที่สังเกตได้ว่า ตั้งคำถามเชื่อได้ว่า แสดงว่า เท่านั้น ขณะที่การอภิปรายเรื่องการย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา และมีการยื่นให้ดำเนินคดีกับตนเองผิดมาตรา 185 แทรกแซงก้าวก่ายงานของข้าราชการประจำ ทั้งที่อำนาจนี้เป็นของผู้ตรวจฯ ไม่ใช่อำนาจของปลัดกระทรวง ไม่สามารถแทรกแซงได้ แต่การอภิปรายกลับอ้างเชื่อได้ว่า ถือเป็นการคาดเดา ไม่ใช่สิ่งที่ทำจริง จึงคิดว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง ดังนั้นควรเอาสิ่งที่เป็นหลักฐานมาให้คำแนะนำ โดยการให้คำแนะนำจะต้องมีสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งไหนไม่ดีแล้วจะต้องแก้ไข ไม่ใช่มาโหวกเหวกตะโกน ซึ่งไม่ใช่เรื่อง พร้อมยืนยันไม่แทรกแซงการชุมนุม ถือเป็นสิทธิของประชาชน การชุมนุมในสถานที่ราชการ ไม่สามารถทำได้ ผิดกฎหมาย ซึ่งตนเองไม่ได้สั่งในเรื่องนี้ ส่วนตัวต้องการให้ทุกคนได้แสดงสิทธิอย่างเต็มที่ ไม่ได้จำกัดสิทธิแต่อย่างใด. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย