เปิดใจ “บิ๊กป้อม” พร้อมนั่งนายกฯ คนที่ 30 ย้ำสัมพันธ์ 3 ป.ยังแนบแน่น

30 ม.ค. – เปิดใจ “บิ๊กป้อม” ใจบันดาลแรง พร้อมนั่งนายกฯ คนที่ 30 ย้ำสัมพันธ์ 3 ป. แยกกันเดินเฉพาะการเมือง แต่สัมพันธ์ยังแนบแน่น เผยชอบทำอาหารและทำให้ 3 ป. กิน


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดใจในงานระดมทุนพรรค ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ โดยจัดในรูปแบบมีพิธีกรถาม และ พล.อ.ประวิตรตอบ โดยตอบคำถามถึงคำพูดเรื่องใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่แรงบันดาลใจ ว่าเป็นเพราะสังขารร่วงโรยมาก แก่แล้ว เลยต่อสู้ด้วยเอาใจบันดาล ทำให้มีกำลังใจ ให้แรงทำงานต่อไปได้ เมื่อพูดแล้วรู้สึกใจฟู และยิ้มกว้างให้ทุกคน

ส่วนที่ชอบตอบไม่รู้นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อาจจะรู้ แต่อยากให้ผู้รู้มากกว่ามาสั่งสอน มาบอกให้รู้เท่ากับคนที่รู้ คำว่าไม่รู้คือไม่รู้จริงๆ เพราะคนที่รู้อยู่รอบตัวเยอะแยะ จะเอาความรู้คนใกล้ตัวมาใส่ตัว แต่ตอนนี้รู้แล้ว พร้อมแล้ว


พล.อ.ประวิตร ยังเล่าถึงการทำงานตั้งแต่รับราชการจนมาเล่นการเมือง ยอมรับส่วนตัวไม่ได้ตั้งใจมาเล่นการเมือง แต่ตลอดระยะเวลาตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน

พล.อ.ประวิตร ยังเล่าถึงการทำอาหารเลี้ยง 3 ป. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ให้รับประทานมาตลอด เช่น เมนู ต้มเนื้อ เนื้อผัดกะเพรา ไข่เจียว แต่จะอร่อยหรือไม่ต้องถามคนกิน ส่วนตัวมั่นใจ ทำผัดซีอิ๊ว ราดหน้า และข้าวหน้าไก่อร่อย มีคนชมถึงขั้นเปิดร้านได้

พล.อ.ประวิตร ยังเล่าถึงความสัมพันธ์ 3 ป. ว่าตั้งแต่รับราชการทหาร ร่วมใจทำงานเพื่อประเทศชาติมาตลอด นอนบ้านเดียวกัน สนิทสนม เป็นกันเองอย่างพี่น้อง แม้จะแยกกันก็เฉพาะการเมือง และได้ใช้ความเป็นพี่ใหญ่มาจนทุกวันนี้ ไม่ว่ากับทหารข้าราชการ พลเรือน หรือนักการเมือง ตนมีอย่างเดียวคือความจริงใจต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ต่อผู้ร่วมงานทุกคน ไม่มีความขัดแย้ง ตนพูดอย่างตรงไปตรงมา ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด และฝากบอกทุกคนด้วยว่าตนตั้งใจและจริงใจต่อทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง น้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือลูกน้องก็แล้วแต่ ตนพูดอะไรไปนั่นเป็นคำพูดจากตน


พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ปัญหาที่อยากแก้ไขอันดับแรกคือความยากจน โดยดูแลชาวนา ชาวไร่ เกษตรกร พวกหาเช้ากินค่ำ ต้องดูแลคนเหล่านี้ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีที่อยู่อาศัย เพื่ออยู่ได้ต่อไป และจะทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าต่อไป

ส่วนเมื่อถามว่ามีฮีโร่ในดวงใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มีคือคุณแม่ของตน โดยคุณแม่ตนเลี้ยงตนมาพี่น้อง 5 คน เป็นผู้ชายหมด เลี้ยงได้ดิบได้ดีมาทุกคน แม่เลี้ยงตนและน้องๆ อีก 4 คน เป็นผู้ชายหมด และอยู่ด้วยความเป็นสุข ขณะนี้มีความเจริญรุ่งเรืองกันทุกคน มีอาชีพด้วยความเรียบร้อยและมีความเป็นอยู่ที่ดีทุกคน

สำหรับคำถามที่ว่าพร้อมหรือไม่กับการรับหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถามว่าพร้อมหรือไม่ ตนต้องพร้อม แต่จะได้หรือไม่อยู่ที่คนเลือก ถ้าประชาชนเลือกตนก็พร้อม ถ้าไม่เลือกตนก็กลับบ้าน

“รู้แล้ว พร้อมแล้ว ตนพร้อมที่จะเป็นนายกฯ แต่ต้องรอคนเลือกนะครับ” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.เอกประวิตร ยังได้กล่าวเปิดงานระดมทุนในวันนี้ ใจความตอนหนึ่งระบุว่า พร้อมสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย เปิดโอกาสให้ทุกฝ่าย เปิดโอกาสร่วมกันหาทางออกให้ประเทศไปสู่จุดหมายที่ดีสำหรับคนไทย และก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่

สำหรับการจัดระดมทุนวันนี้เป็นการจัดกิจกรรมครั้งที่ 2 หลังจากเคยจัดครั้งแรกเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งการจัดกิจกรรมระดมทุนครั้งนี้มีการเข้มงวดเรื่องผู้มาร่วมซื้อโต๊ะมากขึ้น เนื่องจากเคยมีเรื่องการตรวจสอบผู้บริจาคเงินเข้าพรรคพลังประชารัฐมาแล้ว ทั้งนี้ การระดมทุนมีการซื้อโต๊ะรวมทั้งสิ้น170 โต๊ะ โต๊ะละ 3,000,000 บาท และคาดว่าจะได้รับเงินในการระดมทุนครั้งนี้เข้าพรรคพลังประชารัฐประมาณ 510,000,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตได้ว่าการจัดระดมทุนครั้งนี่้ที่โต๊ะไม่ได้ระบุหน่วยงานหรือผู้ให้การสนับสนุนดังเช่นการระดมทุนเมื่อปี 2562 อาจเป็นไปได้ว่าครั้งก่อนตกเป็นเป้าและถูกร้องเรียน เนื่องจากมีหน่วยงานรัฐเป็นจำนวนมากมาซื้อโต๊ะในงานระดมทุน จึงติดเพียงหมายเลขโต๊ะลำดับที่ 1-170 เท่านั้น

สำหรับเมนูจัดเลี้ยงมีวันนี้ อาทิ ยำส้มโอทับทิมสยาม ไก่ฉีกออร์แกนิก กระทงทองไก่ ข้าวเกรียบปากหม้อนครชัยศรี ต้มยำกุ้งลายเสือนครศรีธรรมราช ปลากะพงบางปะกงอบสมุนไพร มูสมะม่วงแปดริ้วกับครีมมะพร้าวสดทับสะแก ราดซอสเสาวรส จากโครงการหลวง ซึ่งได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีจากหลายจังหวัดมาประกอบอาหาร

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าจากจำนวนโต๊ะ 170 โต๊ะ มีการซื้อโต๊ะเกินไปถึง 260 โต๊ะ แต่จัดโต๊ะยังคงมีเท่าเดิม 170 โต๊ะ ทำให้มีการคาดการณ์ยอดเงินจากงานระดมทุนจาก 510 ล้านบาท เป็น 780 ล้านบาท และคาดว่าจะมีเพิ่มเติมอีก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]