fbpx

แนะรัฐเร่งบังคับใช้พ.ร.บ.ป้องกันการทรมาน-อุ้มหาย

กสม. 26 ม.ค.-กสม. ส่งหนังสือถึงนายกฯ เดินหน้าบังคับใช้พ.ร.บ.ป้องกันการซ้อมทรมานและอุ้มหายตามกำหนด ไม่ให้กระทบสิทธิและเสรีภาพประชาชน และความเชื่อมั่นในระดับสากล


 นายวสันต์ ภัยหลีกลี้และนายสุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ถลงว่า ได้ส่งหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อเสนอให้เดินหน้าบังคับใช้พ.ร.บ.ป้องกันการซ้อมทรมานและอุ้มหายตามกำหนด เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิและเสรีภาพประชาชน  หลัง กสม. ติดตามผลักดันร่างกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย และได้มีข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา กระทั่งกฎหมายผ่านความเห็นชอบและจะมีผลใช้บังคับ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566  

นายวสันต์ กล่าวว่า ระหว่างปี 2558 – 2565 กสม.ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีการละเมิดสิทธิในชีวิตและร่างกาย จากการซ้อมทรมานและทำร้ายร่างกายระหว่างถูกควบคุมตัว จำนวน 232 เรื่อง แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ดังกล่าวดำรงอยู่มายาวนานและไม่มีแนวโน้มที่จะคลี่คลาย ด้วยเหตุนี้กสม.จึงเห็นควรมีข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกรณีการบังคับใช้ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565   เพื่อแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรี โดยขอให้ยืนยันการมีผลบังคับใช้พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ พ.ศ. 2565 เพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์การยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน


“รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ สตช. และหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายนี้อย่างเหมาะสมต่อไป และเมื่อกฎหมายมีผลบังคับและจะมีคณะกรรมการกลางมาดำเนินการ ก็จะอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย ประกอบกับที่ผ่านมาตำรวจเคยมีระเบียบการใช้กล้องในการสอบสวนจึงไม่น่าจะเป็นปัญหา การใช้กล้องไม่จำเป็นที่ที่จะต้องใช้ หรือตำรวจทุกนายต้องมี เพราะกฎหมายก็มีการยกเว้นด้วยการให้ลงบันทึก  ซึ่งระยะเปลี่ยนผ่านอาจไม่สมบูรณ์ แต่หากจะรอให้สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์คงไม่ได้ ส่วนเมื่อบังคับใช้กฎหมายแล้วเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวข้องจะลดลงหรือไม่ นายวสันต์ กล่าวว่าที่ผ่านมา 8 ปี  กสม.มีเรื่องร้องเรียน 232 เรื่อง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีมากกว่านี้เพียงแต่ไม่ได้มีการร้องเรียนหรือเป็นข่าว และเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้น่าจะคุ้มครอง   ซึ่งเชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะลดลง และจะดีกับตำรวจเองเพราะจะมีพยานหลักฐาน ทำให้เห็นว่ามีความโปร่งใสเป็นมืออาชีพมากขึ้น” นายวสันต์ กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอให้ขยายเวลาการประกาศบังคับใช้กฎหมายออกไปก่อนด้วยเหตุผลหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องขาดความพร้อมด้านอุปกรณ์ ทักษะในการปฏิบัติ และแนวทางปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานกลาง กสม.ตระหนักถึงความสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว จึงได้จัดเวทีเสวนาวิชาการและระดมความคิดเห็นจากผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายและได้ข้อสรุปที่เห็นพ้องต้องกันว่าไม่มีความจำเป็นต้องเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไป เนื่องจากจะส่งผลต่อการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับสากล  กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายนี้ นอกจากจะเป็นกฎหมายสำคัญในการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของประชาชนแล้ว ยังจะเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ของรัฐเมื่อถูกกล่าวหาหรือร้องเรียนเกี่ยวกับการตรวจค้น จับกุม และสอบสวนคดีอาญาด้วย.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ