ถ้า “พล.อ.ประยุทธ์” กลับมาจะได้สานต่อนโยบายเดิม

ทำเนียบรัฐบาล 18 ม.ค.-“ธนกร” ย้ำ “ พล.อ.ประยุทธ์” ริเริ่ม “โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ชี้ ยกระดับประสิทธิภาพการจัดสรรสวัสดิการของไทยในรอบหลายสิบปี  คาดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 7.5 หมื่นล้าน มั่นใจหากกลับมาเป็นนายกฯ ทุกนโยบายจะพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม


นายธนกร  วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเปิดนโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ 700 ต่อเดือน ซึ่งเกทับพรรคเพื่อไทยที่ชูนโยบายค่าแรง 600 บาท ว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มดำเนินการครั้งแรกเมี่อปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ให้แนวคิด เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดสรรสวัสดิการของประเทศไทยในรอบหลายสิบปี โดยให้เงินช่วยเหลือของภาครัฐตรงไปยังกลุ่มเป้าหมาย สามารถระบุตัวตนผู้มีรายได้น้อยได้อย่างแท้จริง ซึ่งมีผู้รับสิทธิโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2559 จำนวนทั้งสิ้น 7.7 ล้านราย

“ล่าสุดข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบัน (ณ วันที่ 1 มกราคม 2566) มีจำนวน 13.22 ล้านราย สำหรับโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ  ปี 2565 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนกว่า 19.63 ล้านรายนั้น ได้ปรับรูปแบบให้ใช้บัตรประจำตัวประชาชนเป็นบัตรสวัสดิการฯ แทน คาดว่าจะสามารถประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนได้ในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ และเริ่มใช้สิทธิได้ภายในเดือนมีนาคม สำหรับงบประมาณที่จัดสรรสำหรับสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปี 2565 ยังช่วยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้อีกด้วย คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท” นายธนกร กล่าว


นายธนกร กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลในอดีตไม่สามารถจัดสวัสดิการสังคม หรือให้เงินช่วยเหลือของภาครัฐได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากข้อมูลผู้มีรายได้ในระดับรายบุคคลกระจายอยู่ตามหน่วยงานหลายแห่ง ทั้งนี้ โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถือเป็นครั้งแรกที่ออกแบบโครงการฯ ในระดับประเทศ สามารถจัดสวัสดิการรัฐให้เข้าถึงประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้แบบรายบุคคล อีกทั้งยังเก็บตกกลุ่มเปราะบางของสังคม ทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ที่เคยถูกละเลยในอดีต ให้เข้าถึงสวัสดิการรัฐที่จำเป็น ด้วยการใช้จ่ายวงเงินผ่านบัตรสวัสดิการฯ ทั้งการซื้อสินค้า อาหาร ช่วยค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมทั้งการใช้จ่ายผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ร้านประชารัฐของกองทุนหมู่บ้าน ร้านถุงเงินประชารัฐ ซึ่งช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก 

“พูดได้ว่าการจัดสวัสดิการสังคมและการให้เงินช่วยเหลือของรัฐในยุค พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนในสังคมไทย และส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบางในสังคมไทยได้อย่างยั่งยืน และหากการเลือกตั้งสมัยหน้า ท่านนายกฯ ได้กลับมาบริหารประเทศอีกครั้ง ผมเชื่อว่าทุกนโยบายจะถูกนำมาคิดเพื่อต่อยอดและพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าในปัจจุบันอย่างแน่นอน เพราะนายกฯ ลุยงานหนักทุกวัน ย่อมทราบถึงข้อดีในทุกนโยบาย สิ่งที่ดีท่านนายกฯ พร้อมสานต่อและเพิ่มเติมให้โดนใจประชาชนมากขึ้น ส่วนสิ่งที่ต้องปรับปรุงก็พร้อมที่จะอุดช่องโหว่เหล่านี้ บนพื้นฐานที่ประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“พิธา-ทักษิณ” ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

“พิธา” ลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย จ.เชียงใหม่ พบปะพี่น้องประชาชน ด้านพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ขึ้นเวทีแนะนำ “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น