นายกฯ เตรียมร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป 12-15 ธ.ค.นี้

ทำเนียบฯ 10 ธ.ค.- ​นายกฯ เตรียมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ณ กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม 12-15 ธ.ค.นี้ เพื่อหารือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และการเปลี่ยนผ่านสีเขียว พร้อมผลักดันการพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืน ตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาล


วันนี้ (10 ธันวาคม 2565) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ระหว่างวันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2565 ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในกรอบอาเซียนที่มีการประชุมระหว่างผู้นำหรือผู้แทนอาเซียน 9 ประเทศ กับผู้นำหรือผู้แทนประเทศในสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ แม้จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ แต่ก็เป็นเพียงการพบกันระหว่างผู้นำอาเซียนกับประธานคณะมนตรียุโรป และประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เท่านั้น จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้นำทั้งสองภูมิภาคทั้งอาเซียนกับสหภาพยุโรป จะได้พบปะแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นภูมิภาค และประเด็นระหว่างประเทศที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องภูมิรัฐศาสตร์และความท้าทายด้านความมั่นคง การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัล


โดยนายกรัฐมนตรีมีภารกิจสำคัญในการเข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมผู้บริหารระดับสูงในช่วงอาหารกลางวัน (C-Suite Roundtable Luncheon) จัดโดยสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน (EU-ASEAN Business Council: EU-ABC) ณ โรงแรมโซฟิเทล บรัสเซลส์ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับภาคเอกชนยุโรปในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุน โดยจะมีคณะของสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน พร้อมผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชนเข้าร่วมด้วย

รวมทั้ง ภารกิจในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามร่างกรอบความตกลงความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกกับราชอาณาจักรไทย (Thai-EU Partnership and Cooperation Agreement: Thai-EU PCA)

สำหรับประเด็นสำคัญที่ไทยจะผลักดันในการประชุมโต๊ะกลมผู้บริหารระดับสูงในช่วงอาหารกลางวัน (C-Suite Roundtable Luncheon) ซึ่งจัดโดยสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน จะมีการเน้นย้ำประเด็นความร่วมมือ เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมที่ครอบคลุม สมดุล และยั่งยืน ผ่านการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งสอดคล้องกับข้อริเริ่ม Global Gateway ของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นการระดมทุน มูลค่า 3 แสนล้านยูโร ที่จะนำไปลงทุนใน 5 ด้าน ได้แก่ พลังงานสะอาด ดิจิทัล คมนาคม สุขภาพ และการศึกษา-วิจัย


ในส่วนของการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ นายกรัฐมนตรีจะสนับสนุนให้สหภาพยุโรปมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในภูมิภาค เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และสร้างบรรยากาศแห่งสันติภพ ที่เอื้อต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งยึดมั่นต่อความเป็นแกนกลางของอาเซียนในสถาปัตยกรรมในภูมิภาค พร้อมผลักดันให้ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-สหภาพยุโรป เป็นพลังเชิงบวกที่สร้างสรรค์แก่ทั้งสองภูมิภาคและประชาคมโลก รวมทั้งผลักดันความเป็นหุ้นส่วนสีเขียวระหว่างอาเซียนกับอียู (ASEAN-EU Green Partnership) เพื่อยกระดับความร่วมมือในเรื่องนี้ ซึ่งไทยเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักและมีบทบาทนำในอาเซียน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

เขากระโดง

“อนุทิน” ยัน เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง

“อนุทิน” ย้ำพรรคร่วมรัฐบาลมีเป้าหมายเหมือนกัน ทำประโยชน์ให้ประชาชน-ประเทศ หลัง “ทักษิณ” ชมพรรคร่วมสามัคคีกันดี ยันเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง ขอคนไม่อยู่ในวงอย่าคาดคะเน ชี้ไม่มีเหตุผลต้องปกป้องผลประโยชน์ใคร โอดกว่าจะนั่งคุม มท. แทบตาย ไม่ให้ใครมาด่าสาดเสียเทเสีย

สนามบินสุวรรณภูมิ

ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” 1 ใน 6 สนามบินสวยสุดในโลก

“สุริยะ” รมว.คมนาคม ปลื้ม ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ติดอันดับ 1 ใน 6 สนามบินสวยที่สุดในโลก ประจำปี 2567 ด้าน “อาคาร SAT-1” สุดปัง! หลังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสนามบินที่มีสถาปัตยกรรมสวยที่สุดของโลก โชว์ความโดดเด่นด้านความงาม-ความคิดสร้างสรรค์ ชูอัตลักษณ์ความเป็นไทย จ่อประกาศผล 2 ธ.ค.นี้

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน