ที่ดินในไทยเหลือเยอะ เหตุคนอยากไปอยู่ ตปท.

สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ 9 พ.ย.-นายกฯ เปิดหลักสูตร วปอ.รุ่น 65 ชี้บทบาทภาครัฐไม่ใช่แค่รักษาอธิปไตยถือดาบถือปืนลุยกัน ขอปรับใช้เทคโนโลยี ย้ำประเทศต้องสงบเรียบร้อยเป็นดินแดนสันติภาพ เหน็บ ที่ดินไทยยังเหลือพอ เพราะหลายคนอยากไปอยู่ต่างประเทศ พร้อมยอมรับความเห็นทางการเมือง ลั่นไม่อยากไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ. รุ่นที่ 65 ที่ อาคารอเนกประสงค์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ และบรรยายหัวข้อวิชา “บทบาทของภาครัฐ เอกชน และการเมืองในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” ใจความตอนหนึ่ง ระบุว่า ในอดีตผู้เข้ารับการศึกษานี้ จะให้ความสำคัญกับการป้องกันความมั่นคงเป็นหลัก แต่วันนี้ประเทศไทยได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้ามากมายในหลายมิติ มีความยึดโยงเชื่อมกันและท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลง มีหลายอย่างที่เกิดขึ้น ดังนั้นบทบาทหน้าที่ของผู้รับการศึกษานี้ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนนอกจากเป็นการป้องกัน และรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นการร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนา ในด้านสังคม สิ่งแวดล้อม ธุรกิจ ต่างมีความสัมพันธ์ กันโดยตรงและโดยอ้อม จึงเชื่อว่าทุกคนจะภาคภูมิใจ เช่นเดียวกับตนเอง ที่มองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้เปรียบมีทรัพยากรมีความพร้อมพัฒนาในหลายด้าน แม้ที่ผ่านมาจะประสบปัญหาอยู่บ้างกับสถานการณ์โลก ทั้งโรคระบาด ภัยพิบัติ สถานการณ์ความรุนแรงทำให้ไทยขาดโอกาสในการสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาตนเอง แต่อย่าลืมว่าในวิกฤติ นั้นมีโอกาส ดังนั้นโอกาสก็จะเกิดขึ้นจากนักศึกษาทุกคน ที่จะร่วมมือกันในการแก้ปัญหาทั้งในประเทศ และภูมิภาคของโลกด้วย


“ความร่วมมือทุกภาคส่วนถือเป็นสิ่งสำคัญ ประกอบกับความเข้มแข็งของภาครัฐ และเอกชน ในการจะดูแลช่วยเหลือเยียว แก้ปัญหาประชาชนให้ได้ โดยพยายามขับเคลื่อนแผนงานโครงการต่างๆ ให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ ปัจจุบันแม้สถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายลงแล้ว จึงเป็นเวลาที่ทุกคนจะกลับมาให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ จากโครงการต่างๆ ที่ชะลอไว้ ประกอบกับที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ถือเป็นโอกาสอันดี ที่รัฐบาลจะแสดงให้ต่างชาติได้เห็นศักยภาพของประเทศในการขับเคลื่อน และพัฒนา ให้บรรลุตามเจตนารมย์ยุทธศาสตร์ชาติได้”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยุทธศาสตร์ชาตินั้น อย่ากลัวว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใน 20 ปี จึงอยากให้ศึกษารายละเอียด ทำความเข้าใจ เพราะมีการวางแผนทุกช่วงเวลา 5 ปี ต่างประเทศก็ทำเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สารถทำให้เกิดความต่อเนื่องยั่งยืนได้ เป็นการวางแผนไว้ เพราะบางรัฐบาลมีการทำงานที่สั้น ผลงานจึงไม่ปรากฎออกมา ปัจจุบันยุทธศาสตร์ชาติ ได้เข้าสู่ระยะที่ 2 แล้ว ในระหว่างทางนี้ สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้ตามสถานการณ์ หลายคนมองว่าวางไว้นาน เพื่ออยู่ในอำนาจนานหรือไม่ ยืนยันส่วนตัวไม่เคยคิดเช่นนั้น แต่การพัฒนาที่วางไว้ก็ต้องสานต่อ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดก็ตาม ดังนั้นรัฐบาลนี้ ยืนยันว่าโครงการสำคัญ จะทำให้สำเร็จด้วยความต่อเนื่อง ดูจากผลงาน 8 ปี ที่ผ่านมา มีหลายสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่ยังต่อเนื่อง และจะต่อเนื่องไปยังรัฐบาลใหม่ที่จะมา เพื่อมาสานต่อตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า การร่วมมือกันจะต้องมีความเข้าใจกัน แม้ประทั่งประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ใช่ไทยจะได้ประโยชน์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นแบบต่างตอบแทน เชื่อมโยงกันได้ มีผลประโยชน์ร่วมกัน เป็นการสร้างความเชื่อมโยงกัน ดังนั้นการมาศึกษาในวันนี้หลายคนมีหลายบทบาทและหน้าที่ จึงต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจกันทุกภาคส่วน และความเข้าใจกัน ทั้งนี้บทบาทของภาครัฐ มีหน้าที่หลักในการรักษาอธิปไตย รักษาความเรียบร้อยของประเทศ กำหนดเป้าหมายพัฒนาประเทศ ทั้ง 3 ระดับในปัจจุบัน คือ การวางโครงสร้างพื้นฐาน ให้มีหลักประกันทางสังคม มีสวัสดิการให้เพียงพอ โดยเฉพาะเรื่องสวัสดิการ ที่ต้องมาดูเรื่องงบประมาณ ให้เป็นไปตามระเบียบ สุจริตโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ สิ่งสำคัญคือต้องเพิ่มปริมาณรายได้ให้กับประเทศมากขึ้น การใช้งบฯ จะต้องดูว่าเราหาเงินได้มากเท่าไหร่ ซึ่งในการบริหารงาน 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามทำอย่างดีที่สุด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ คือ จะทำอย่างไรให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย มีความอยู่รอด ลดความเหลื่อมล้ำ รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือนแบบพุ่งเป้า ต้องให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสได้อย่างเท่าเทียม หลายคนมองว่าเป็นประชานิยมหรือไม่ แต่สิ่งที่ตนต้องการคือการพุ่งเป้าลงไปในการแก้ไขปัญหา แต่ขึ้นอยู่กับผู้รับว่าจะนำไปใช้อย่างไร

“ผมจะทำทุกอย่างให้โปร่งใสและเป็นธรรมที่สุด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการปรับแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ รวมถึงปรับปรุงกฎหมายหลายตัวที่มีมายาวนาน เพราะปัจจุบันกฎหมายบางอย่าง ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ใช่คนที่ดีที่สุดในโลก แต่เป็นคนช่างคิด คิดไปเรื่อย แต่ถ้าเราหยุดคิด ก็จะไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย หรือคิดเฉพาะความขัดแย้ง คิดว่าจะไปสู้เขาอย่างไร ซึ่งถือว่าไม่เป็นประโยชน์ คนไทยเข้มแข็ง แข็งแรงอยู่แล้ว แต่ยังแตกแยกกันอยู่ ปัญหาคือความรักสามัคคีของคนในชาติ อย่าเอาตน มาเป็นตัวกำหนดว่า ใครจะรักหรือไม่รักตน แต่ก็ขอบคุณคนที่รักกัน วันนี้มีความสุข ก็อาจจะพูดจาไม่เป็นทางการอยู่บ้าง

นายกรัฐมนตรี กล่าว ถึงการจัดสรรที่ดินให้กับประชาชน ตนและรัฐบาลได้คิดออกมา ถึงได้มีคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติขึ้นมา ไปดูการเข้าถึงที่ดินและการทับซ้อนของที่ดินของภาครัฐ ที่มีมากพอสมควร

“วันนี้ที่ดินของประเทศไทยอาจจะลดลงก็ได้ เพราะซ้ำซ้อนกัน แต่ก็เพียงพอ เพราะก็มีคนอยากไปอยู่ต่างประเทศเยอะพอสมควร ที่ดินก็น่าจะพอ พูดไปเดี๋ยวก็เป็นข่าวอีก ตนชอบพูดหาเรื่อง แต่ตนไม่อยากไปตอบโต้ เพราะประเทศชาติเดินไปข้างหน้าด้วยดี” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการตอบรับการเข้าร่วมประชุมเอเปคก็เป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นผู้นำหลัก ที่เดินทางมา มีเพียงบางประเทศที่ส่งผู้แทน เพราะสถานสถานการณ์ในประเทศมีปัญหา ซึ่งเชื่อว่า การประชุมเอเปคจะเป็นไปได้ด้วยดี ฝากประชาชนช่วยกันเป็นเจ้าภาพที่ดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ต้องมีความทันสมัย ทุกอย่างไม่ได้ถือดาบถือปืนรบกันแล้ว ต้องใช้เทคโนโลยี จะทำอย่างไรเราถึงจะมีความสงบเรียบร้อยและไม่มีความขัดแย้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะดินแดนของเราคือดินแดนแห่งความสงบสุขมีสันติภาพ ไม่ว่าจะประเทศไทยและอาเซียน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยอมรับความเห็นทางการเมืองโดยสุจริต แต่หากพูดไม่มีความจริง ตนก็ต้องชี้แจง แต่ตนไม่อยากไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น และอยากฟังเสียงประชาชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเมือง เป็นองค์กรภาคประชาชน ที่ต้องให้ความรู้ประชาชนที่ถูกต้อง เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เปรียบทุกส่วนเหมือนมือ ที่มี 5 นิ้ว คือ มีรัฐบาล ภาคเอกชน ภาคการเมือง ความดี และความรู้ ซึ่งถือว่าสำคัญ และวันนี้ถือว่ามีความสุข เพราะพวกเราคือคนไทยด้วยกัน ทั้งรัฐ เอกชน นี่คือประเทศไทย ขอให้ภูมิใจในการทำหน้าที่ของแต่ละคนเพื่อประเทศชาติ ประชาชนและมิตรของเราด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย