“อนุทิน” ปัดวิจารณ์ล้างสายสีน้ำเงิน โยกย้ายมหาดไทย

พรรคภูมิใจไทย 19 ส.ค.- “อนุทิน” ปัดวิจารณ์โยกย้ายมหาดไทย ล้างสายสีน้ำเงิน ขอผู้บริหารชุดใหม่สบายใจไม่เคยโทรหาปลัด-นัดสุมหัวขอทำอะไรให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ที่หลายคนมองว่าเป็นการล้างสายสีน้ำเงิน ว่า คำถามเช่นนี้อย่าถามเลย วันนี้เราไม่มีหน้าที่ ในกระทรวงมหาดไทยแล้ว ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของผู้บริหารชุดใหม่ แต่ถ้าวันไหนได้มีโอกาสกลับเข้าไป บริหารและมีนโยบายอย่างไร ก็คิดว่าคงไม่มีใครมาวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของเรา แบบนี้ก็แฟร์ๆ ดีนะ แต่ละคนมีสไตล์การทำงาน ที่ไม่มีทางเหมือนกัน ใครมีนโยบายเช่นไร ก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ และยืนยันว่าไม่มีข้าราชการสายน้ำเงินสายแดง พร้อมย้อนถามว่า พรรคภูมิใจไทยไปจ่ายเงินเดือนข้าราชการหรือไม่ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องถือว่า เป็นข้าราชการของพี่น้องประชาชน กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ใช้เงินของรัฐ ดังนั้นคำว่าสายน้ำเงิน สายแดงหรือสายอะไรต้องไม่มีแล้ว “ผมออกมาเนี่ย เจอท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยกี่ครั้ง ไปถามดูสิ ผมก็ต้องให้เกียรติ โทรไปเดี๋ยวเขาเดือดร้อน ผมไม่เคยโทรไปหาเขา ดังนั้นต้องเลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว ต้องสบายใจได้แล้ว ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยชุดใหม่ก็สบายใจได้เลย ไม่เคยมีการพบปะกันแบบตั้งใจมาสุมหัว นัดคุยกันคุณทำแบบนี้ให้ผมได้ไหม เจอกันตามงานไม่เกิน ครึ่งนาทีก็ต้อง แยกย้ายเรารู้บทบาท” นายอนุทิน กล่าว เมื่อถามว่าการโยกย้ายครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรองรับสถานการณ์ หากเกิดอุบัติเหตุ […]

ครม.อนุมัติการโอนสิทธิ ของ บ.เอ็มพี จี2 ร้อยละ 40 ให้แก่ บริษัท ปตท.สผ.

ทำเนียบฯ 19 ส.ค. – ครม.อนุมัติการโอนสิทธิประโยชน์ และแบ่งปันผลผลิตของ บ.เอ็มพี จี2 ร้อยละ 40 ให้แก่ บริษัท ปตท.สผ. แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้บริษัท เอ็มพี จี2 (ประเทศไทย) จำกัด โอนสิทธิประโยชน์และพันธะซึ่งบริษัทถืออยู่ทั้งหมดร้อยละ 40 ในสัญญาแบ่งปันผลผลิตเลขที่ 1/2562/1 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G1/61 ให้แก่ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ ทั้งนี้ พน. จะได้ออกเป็นสัญญาแบ่งปันผลผลิตเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) ของสัญญาแบ่งปันผลผลิต เลขที่ 1/2562/1 ตามแบบ ชร/ป12/1 ที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดแบบสัญญา แบ่งปันผลผลิต พ.ศ. 2561 ต่อไป รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]

“อนุทิน” มองการเมืองแทรกแซง ปมดีเอสไอลงพื้นที่เขากระโดง

พรรคภูมิใจไทย 19 ส.ค.- “อนุทิน” มอง “ดีเอสไอ” ลงพื้นที่บุรีรัมย์ดูพื้นที่เขากระโดง เป็นการเมืองแทรกแซง มั่นใจไม่สามารถบีบ ขรก.ในพื้นที่ได้ หากทำถูกกฎหมาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมลงพื้นที่เขากระโดง ระหว่างวันที่ 19-22 ส.ค. เพื่อจะพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษสามารถทำได้หรือไม่ ว่า ตนยังไม่ทราบเลย ไม่เคยคุมกระทรวงยุติธรรม เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะถูกมองว่าเป็นการเข้ามาแทรกแซงเหมือนคดีอีฮั้ว สว.หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องการเมืองแทรกแซงมาตลอดอยู่แล้ว ซึ่งทุกอย่างมีกฎหมาย และตนยืนยันคำเดิมว่าอย่าทำผิดกฎหมาย ซึ่งคนที่มั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายก็ไม่ต้องเกรงกลัวอะไร เพราะกฎหมายจะคุ้มครองเอง เมื่อถามว่า การลงพื้นที่บุรีรัมย์พุ่งเป้าไปที่ข้าราชการในจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นหลัก ถือเป็นการกดดันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเห็นคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ไม่รู้กี่ชุดมาแล้วเข้าๆออกๆ เข้ามาทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดบุรีรัมย์ก็เป็นปูชนียบุคคล เป็นคนที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่จังหวัดบุรีรัมย์ อย่างมากมายมหาศาล ใครเข้าไปก็ขอปรึกษาหารือแสดงมุทิตาจิต แสดงความเคารพนับถือในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย ไปบีบข้าราชการคนที่เดือดร้อนก็คือประชาชน บีบเขาไม่ได้หรอก เขาไม่กลัวหรอก เขาทำกลัวไปแบบนั้นแหละ .-319 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ยันดองไว้ไม่ขับออก “ประภา” โหวตสวนมติพรรค

ภูมิใจไทย 19 ส.ค.- “อนุทิน” ซัด “ประภา” สส.กาฬสินธุ์ โหวตสวนมติพรรค เป็นแค่สิ่งแปลกปลอมในพรรค ยัน ดองไว้ ไม่ขับออก เชื่อ “เดี๋ยวก็ตายเอง” โยนถามเจ้าตัว รับเงิน 8 หลัก-แรงจูงใจอื่นหรือไม่ ลั่น “ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนแน่นอน” นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ประภา เฮงไพบูลย์ สส.กาฬสินธุ์ พรรคภูมิใจไทย โหวตสวนมติพรรค เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2569 ว่า ก็เป็นที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเราก็สงสัยในคนๆ นี้มาตลอด และขณะนี้ก็ชัดเจนแล้ว เป็นสิ่งแปลกปลอมในพรรค ส่วนจะมีแนวทางในการดำเนินการอย่างไรนั้น นายอนุทิน ระบุว่า ก็ไม่ได้ให้มาร่วมกิจกรรมของพรรค ซึ่งตอนนี้มีการสอบสวนอยู่ ผลการสอบสวนเก่ายังไม่เสร็จสิ้น แต่ก็มีพฤติกรรมเช่นนี้อีก ก็คงไม่ต้องสอบสวนอะไรแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนอีก 2 คนที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบไปแล้วก่อนหน้านี้ ถือว่าบริสุทธิ์แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่างเพียงว่า ตอนนี้เหลือเพียงคนเดียว เขาก็ดึงจนวินาทีสุดท้าย […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.ไฟเขียว ตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตฯ (NaCGA)

กระทรวงคลัง 19 ส.ค. – ครม.ไฟเขียว ตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตฯ (NaCGA) ควบรวบกับ บสย.ภายใน 1 ปี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ เพื่อตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA) หวังให้เป็นกลไกดูแล SMEs ผู้ประกอบการรายย่อย เข้าถึงแหล่งทุน หลังจากนี้เตรียมส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่าง เพื่อเสนอสภาพิจารณา คาดว่าผ่านสภาได้ทันในรัฐบาลนี้ ขั้นตอนดำเนินการกำหนดให้ บสย.เข้าไปเป็นแกนกลางดำเนินภาระกิจของ NaCGA และควบรวมให้เสร็จภายใน 1 ปี ใช้ทุนประเดิมเริ่มต้นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท นำมาจากแหล่งงบประมาณ หรือกองทุนแบงก์รัฐ NaCGA มีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ใช่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ จะทำหน้าที่ในการ “ประเมินความเสี่ยงและค้ำประกันเครดิต” ด้วยการเปิดให้ประชาชนที่ต้องการขอกู้กับธนาคาร หรือ Non-Bank เดินเข้าไปหา NaCGA เพื่อทำการวิเคราะห์ เครดิตเป็นรายบุคคลและออกใบการันตีให้ โดยให้ผู้ยื่นขอจ่ายค่าธรรมเนียมตามความเสี่ยง หากมีความเสี่ยงมาก ค่าธรรมเนียมสูงขึ้น หากมีความเสี่ยงต่ำ ค่าธรรมเนียมลดลง […]

“อนุทิน” บอกนายกฯ เก่ายังอยู่ ไม่ขอพูดเรื่องนายกฯ ใหม่

พรรคภูมิใจไทย 19 ส.ค.- “อนุทิน” ปัดสมการใหม่ดึงภูมิใจไทยกลับร่วมรัฐบาล บอกนายกฯ เก่ายังอยู่ ไม่ขอพูดเรื่องนายกฯ ใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง หากมีอะไรเกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรี และมีสมการใหม่ที่อาจดึงพรรคภูมิใจไทย กลับไปร่วมรัฐบาลว่า มีแนวโน้มเป็นเช่นนั้นหรือไม่ซึ่งนายอนุทินตัดบททันทีว่าไม่มี พร้อมถามกลับว่าสมการแปลว่าอะไร ต้องเท่ากันใช่หรือไม่ พรรคภูมิใจไทยมีแค่ 70 เสียง เมื่อถามย้ำว่า ในช่วงรัฐบาลนี้ หากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภูมิใจไทยจะไม่มีทางไปร่วมแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเก่ายังไม่ไปเลย ยังอยู่ อย่าเพิ่งไปพูดถึงนายกรัฐมนตรีใหม่ และในความเป็นส่วนตัวเราไม่มีอะไรกัน เราก็ทำหน้าที่ของเราในฐานะฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลก็ทำหน้าที่ฝ่ายรัฐบาล เขาทำหน้าที่ของเขาเราทำหน้าที่ของเรา เราไม่มีอะไรกัน ไม่นำเรื่องส่วนตัว มาเป็นสาระ มันก็จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้ ขอให้ทุกคนทำตามหน้าที่ก็พอ.-319 -สำนักข่าวไทย

ธปท.แนะวัดเปิดรับเงินบริจาคผ่านระบบดิจิทัล ป้องกันใช้เงินผิดวัตถุประสงค์

กรุงเทพฯ 19 ส.ค. – ธปท. แนะวัดใช้ระบบดิจิทัลเปิดรับเงินบริจาค ควบคู่การจัดการอย่างมีธรรมาภิบาล ป้องกันใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ ชี้ในพร้อมเพย์มี e-Donation นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงหลักเกณฑ์การเปิดบัญชีธนาคารสำหรับรับเงินบริจาค เพื่อป้องกันการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ว่า หากสามารถทำให้ทุกอย่างเป็นดิจิทัลได้ทั้งระบบ จะช่วยให้สามารถเห็นที่มาที่ไปของเงิน ช่วยป้องกันการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ได้ ซึ่งในระบบพร้อมเพย์ก็มีระบบ e-donation อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม วัดจะต้องมีระบบการจัดการอย่างมีธรรมาภิบาลทั้งระบบอย่างครบถ้วน ทั้งผู้ใช้เงิน ผู้ตรวจบัญชี เป็นต้น.-516-สำนักข่าวไทย

ชี้ช่อง มท.ช่วยฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหาย “ผู้นำกัมพูชา”

ทำเนียบรัฐบาล 19 ส.ค.- “เลขาฯ กฤษฎีกา” ชี้ช่อง มท.ช่วยปชช.ฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหาย “ฮุนเซน-ผู้นำกัมพูชา” เหตุทำเดือดร้อน แปลกใจ ฟ้องตามกม.ไทย ทำคนโมโห นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงการฟ้องดำเนินคดีเอาผิดผู้นำกัมพูชา ตามกฎหมายประเทศไทย จากสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เป็นการนำตัวผู้กระทำผิด ผู้สั่งการมาดำเนินคดีในประเทศไทย ในกรณีที่ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษในประเทศได้ เนื่องจากมีเอกสิทธิ์คุ้มกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ แต่คนที่ไม่มีเอกสิทธิ์ ถ้าเข้ามาต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย โดยอัยการสูงสุด จะเป็นผู้ดำเนินการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญาวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 เนื่องจากคดีนี้มีความผิดทางอาญาหลายกระทง ทั้งความมั่นคงนอกราชอาณาจักร การฆ่าคน และมีผู้เสียชีวิต ความผิดต่อทรัพย์สินรวมถึงทรัพย์สินเสียหาย โดยขั้นตอนต่อจากนี้ทางตำรวจภูธรภาคสามจะรวบรวมหลักฐานส่งให้อัยการสูงสุดดำเนินคดี ส่วนเรื่องความเสียหายทางแพ่ง ทั้งที่เกิดในส่วนราชการและภาคเอกชน กระทรวงมหาดไทย จะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลจากประชาชน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหายให้กับประชาชน โดยจะขอให้อัยการเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งนี้หากสามารถดำเนินคดีเอาผิดทางแพ่งและสืบทรัพย์ของผู้กระทำผิดว่ามีทรัพย์สินอยู่ในประเทศประเทศไทย ก็สามารถดำเนินการตามกระบวนการเพื่อนำทรัพย์มาชดเชยให้ประชาชนที่เสียหาย ได้ “เห็นว่าพอจะฟ้องกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่มีใครเดือดร้อนแต่พอบอกว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายไทย กลับโมโหขึ้นมา อันนี้น่าแปลก” เลขาฯกฤษฎีกา กล่าว นายปกรณ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุน เซน […]

เตรียมหารือเอกชน ปมไฮสปีดเทรน 3 สนามบิน

กรุงเทพ 19 ส.ค. – รฟท. จ่อหารือเอกชน ปมแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน หลังอัยการติงขัดมติ ครม. รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากที่ รฟท.ได้ส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไขโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม.วงเงิน 224,544 ล้านบาท ที่มีบริษัท เอเชียเอราวัน จำกัด(ซี.พี.) เป็นผู้รับสัมปทาน ระยะเวลา 50 ปี ให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบตั้งแต่เมื่อเดือน เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่งร่างสัญญาฯ ดังกล่าวกลับมาที่ รฟท.แล้ว โดยในวันที่ 18 ส.ค.68 คณะทำงานแก้ไขสัญญาโครงการฯ ที่มีนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าฯ รฟท.เป็นประธาน และ บจ.เอเชียเอราวัน จะมีการหารือในความเห็นจากอัยการสูงสุดต่อไป โดยเบื้องต้นมีความเห็นจากอัยการประมาณ 10 ข้อ […]

‘ภูมิธรรม’ ปัดล็อกเป้าย้ายฐานเสียงพรรคอื่น บอกรอบหน้ายังมีอีก

ทำเนียบรัฐบาล 19 ส.ค.- ‘ภูมิธรรม’ บอกย้ายผู้ว่าฯ ยังมีอีก ยันไม่ได้ล็อกเป้าย้ายฐานเสียงพรรคอื่น แต่พิจารณาตามความสามารถ และอยากให้คนอื่นได้ทำหน้าที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอยแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย จำนวน 25 ตำแหน่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอในวันนี้ (19 ส.ค.) โดยยอมรับว่า ยังจะมีการเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยอีก ไม่ใช่ลอตสุดท้าย รอบหน้ายังมีอีก ซึ่งต้องค่อย ๆ ทำ พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด ที่เป็นฐานเสียงของพรรคการเมืองอื่น เพราะทุกจังหวัดมีฐานเสียงพรรคการเมือง แต่ได้พิจารณาตามความสามารถ และพยายามโยกย้ายเปลี่ยนแปลงให้คนอื่นได้ทำหน้าที่.-312 -สำนักข่าวไทย

ธปท.จัดกลุ่มบัญชี S M L จำกัดเงินโอนเริ่มต้นไม่เกิน 5 หมื่นบาท/วัน ป้องกันบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 19 ส.ค. – ธปท.เปิดข้อมูลไตรมาส 2/68 เหยื่อถูกหลอกโอนเงินเกือบ 6 พันล้านบาท ปิดบัญชีม้า 2.8 ล้านบัญชี ชี้เหยื่อรู้ตัวช้า จับมือสมาคมธนาคารไทย ยกระดับป้องกัน จัดกลุ่มบัญชี S M L จำกัดเงินโอนเริ่มต้นไม่เกิน 5 หมื่นบาท/วัน ลูกค้าใหม่เริ่มใช้ภายใน ส.ค.นี้ ลูกค้าเดิมภายในสิ้นปี 68 ย้ำต้องไม่กระทบลูกค้าดี นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการจัดการภัยทุจริตทางการเงินว่า ตามที่ภาครัฐได้มีการตราพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มเติมมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทั้งกำหนดให้สถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยระบบการชำระเงิน ผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยข้อมูลไตรมาส 2 […]

1 132 133 134 135 136 34,568