รัฐสภา 1 มี.ค.-“ณัฐชา” สวน “สมคิด” อย่าทำนิสัยแบบรัฐบาลที่แล้ว เชื่อ “หมออ๋อง” อัดอั้นถึงต้องบุกทำเนียบ จี้นายกฯ เซ็นร่าง กม.การเงินกลับสภา ชี้ บางร่างไม่กระทบการเบิกจ่าย-เป็นการประหยัดงบด้วยซ้ำ ย้ำเป็นหน้าที่หลักฝ่ายนิติบัญญัติ
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการการสวัสดิการการสังคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีต้องลงนามถึงจะพิจารณาในสภาฯ ได้
นายณัฐชา กล่าวว่า เรียกว่าอัดอั้นและติดขัดเรื่องนี้มานาน เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.หลายร่าง บางครั้งไม่กระทบต่อสถานการณ์การเบิกจ่ายงบประมาณ เป็นการยกเลิกหน่วยงาน เป็นการประหยัดวงเงินงบประมาณ แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่เซ็นตอบรับกลับมา มีหลายร่างที่เป็นของเพื่อน สส. ฝั่งรัฐบาลเอง ซึ่งต้องใช้เทคนิคการแยกร่างว่ามาตราไหนในร่าง พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ก็แยกเป็นอีกร่างหนึ่ง มาตราไหนที่ไม่เกี่ยวก็ส่งมาสภา ถือเป็นวิธีการเอาตัวรอดของ สส.
“นี่เป็นวิธีการเอาตัวรอดของฝ่ายนิติบัญญัติที่พึงกระทำอยู่ แต่เราหันกลับไปมองที่ พ.ร.บ. หลาย 10 ร่างที่วางอยู่บนโต๊ะ บางร่างรอมา 30 วัน 40 วัน ผมก็ไม่แน่ใจว่าทำไมท่านนายกรัฐมนตรีถึงไม่ลงนาม เพียงแค่เปิดดูว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ขั้นตอนมีแค่นั้นเองครับ เพราะฉะนั้น ผมเห็นว่าการออกมานำเสนอของท่านรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง น่าจะเป็นความอัดอั้น ที่ท่านทำหน้าที่บนบัลลังก์ และเห็นแล้วว่าความก้าวหน้าของการร่างกฎหมาย ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของฝ่ายนิติบัญญัตินั้นไม่คืบหน้าเลย” นายณัฐชา กล่าว
นายณัฐชา ยังกล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้ว ตนได้ประชุมประธานกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎรทั้ง 35 คณะ ร่วมกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ก็ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุย นายวันมูหะมัดนอร์ก็เห็นด้วยเรื่องกรอบเวลา ว่าส่งไปยังนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังไม่มีกรอบระยะเวลาในการส่งกลับมา
“ทางสภาฯ อาจจะต้องขอความร่วมมือไปยังนายกรัฐมนตรีว่าถ้าส่งไปแล้ว จะใช้วิธีการพิจารณาไม่เกิน 60 วันจะได้หรือไม่ เพราะไม่มีกรอบเวลา ก็ไร้ซึ่งหนทาง ไร้ซึ่งอนาคต” นายณัฐชา กล่าว
เมื่อถามว่ามองเป็นเกมการเมืองของฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ตนไม่อยากประเมินให้มองเป็นเกมการเมืองเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้เป็นกฎหมายของทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล แต่อยากให้นายกรัฐมนตรีสนใจและใส่ใจการออกกฎหมาย เพราะกฎหมายที่เพื่อนสมาชิก เครือข่ายภาคประชาชน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการที่ต้นตอหลายร่าง พ.ร.บ. เกี่ยวเนื่องกับรายได้ของพี่น้องประชาชน เกี่ยวเนื่องกับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
“ถ้าเกิดนายกรัฐมนตรีสนใจสักเล็กน้อย หันมามองวันละฉบับ 2 ฉบับ ตอนนี้ไม่มีเหลือบนโต๊ะครับ แต่วันนี้บางฉบับรอถึง 50 วัน ผมคิดว่ามันนานเกินไป” นายณัฐชา กล่าว
ส่วนที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นไปตามขั้นตอน และกล่าวว่ากฎหมายไม่ใช่หน่อไม้ ดองไม่ได้นั้น นายณัฐชา กล่าวว่า จะว่าอย่างไรก็สุดแท้แต่ แต่ว่าหน้าที่ของ สส. ในขณะนี้ เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเราไม่สามารถผลักดันกฎหมายที่จะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ นายสมคิดจะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของขั้นตอนต่างๆ ก็ว่ากันไป แต่ในส่วนของทางสภาก็อยากให้ทางฝ่ายบริหารให้เกียรติสภา หันมามองงานของสภาบ้าง
“ส่วนที่ท่านบอกตามขั้นตอน ท่านรับรู้ว่าตามขั้นตอน แต่ขั้นตอนของท่าน วันนี้มันนานเกินไป ถ้าจะมาอาศัยว่าไม่มีข้อกำหนดและจะให้รอไปเรื่อยๆ แบบนี้ ท่านไม่ใช่รัฐบาลที่แล้ว เพราะฉะนั้น อย่าทำนิสัยให้เหมือนรัฐบาลที่แล้วก็พอ” นายณัฐชา กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย