กรมชลฯ 5 ส.ค.-รมว.เกษตรฯ มั่นใจปีนี้เอาอยู่ น้ำไม่ท่วมเหมือนปี 54 ระบุมีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนกรณีน้ำท่วมที่นครนายก สาเหตุจากฝนตกหนักน้ำสาขาเอ่อล้น ยืนยันไม่ใช่การปล่อยระบายน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชล
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงแผนจัดการน้ำ 3 ปี (2568-2571) ว่า สกนช.รับผิดชอบแผนดังกล่าว เพื่อเสนอ ครม.ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยจะใช้งบประมาณ 5 แสนล้านบาท สาเหตุที่ต้องมีแผนบริหารจัดการน้ำ 3 ปี เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการถ่ายโอนอำนาจ งบประมาณ และผู้มีความรู้ความสามารถเรื่องดังกล่าวยังไม่เพียงพอ การจัดการที่ดินของรัฐ เพื่อให้แผนไปสู่เป้าหมาย จึงต้องมีแผนดังกล่าวซึ่งจะมีมาตรการที่ลดขั้นตอนระบบชลประทาน เช่น พื้นที่สุโขทัยที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก จันทบุรี ตราด ปิงวังยมน่าน โขงชีมูล ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากก็เอาเข้ามาอยู่ในแผน เพื่อลดขั้นตอนดำเนินงาน
ย้ำแผน 3 ปี ไม่ใช่แก้เฉพาะปัญหาน้ำท่วม แต่เป็นการบริหารจัดการทั้งระบบ ทุกไตรมาส ดังนั้นจึงต้องมีโครงการใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย ดังนั้นในช่วง 3 ปีของแผนงบประมาณ 5 แสนล้านบาท ก็อาจจะไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าปีนี้เอาอยู่ เพราะจะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อีกทั้งปริมาณน้ำปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้วมีปริมาณน้ำกักเก็บน้อยกว่า 3-4% โดยปี 2567 ภาพรวมปริมาณน้ำกักเก็บทั่วประเทศอยู่ที่ 77% เทียบกับปีที่แล้ว 79% จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่เช่นเดียวกับปี 2554
“ปีนี้สถานการณ์น้ำเป็นเรื่องของน้ำหลากมากกว่า น้ำท่วมน่าจะไม่มี ปีนี้เราเอาอยู่ ๆ แล้ว เพราะจะมีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ส่วนกรณีน้ำท่วมที่ จ.นครนายก ที่มีกระแสข่าวว่าเขื่อนขุนด่านปราการชลปล่อยน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมเมื่อนั้น ร.อ.ธรรมนัส แจงว่าเมื่อคืนเกิดฝนตกหนัก น้ำสาขาเอ่อล้น ยืนยันไม่ใช่การปล่อยระบายน้ำจากเขื่อน ส่วนการแจ้งเตือนประชาชน ที่ประชุมได้มอบหมายให้จิสด้า ส่งข้อมูลให้หน่วยงานเตือนภัย เพื่อแจ้งเตือนประชาชนอย่างทันท่วงที
ด้านนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ว่า ตั้งแต่วันที่ 1-5 สิงหาคม เขื่อนขุนด่านปล่อยน้ำออกในอัตราคงที่ 3 ล้านลูกบาศก์ต่อวัน แต่เนื่องจากมีฝนตกในลำน้ำด้านท้ายปริมาณ 108 มิลลิเมตร จึงทำให้มีปัญหาน้ำท่วม จึงได้ปิดการระบายน้ำจากเขื่อนฯ ชั่วคราว.-517-สำนักข่าวไทย