BIG STORY : เร่งรวบรวมหลักฐานขอหมายจับมือยิง “เสี่ยถาวร”

กทม. 5 ส.ค. – กรณีเหตุยิงกันภายในบ่อนการพนันย่านพระราม 3 และมีผู้เสียชีวิต 4 ศพ ตำรวจทราบชื่อผู้เช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัว รวมถึงรวบรวมหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับมือยิง “เสี่ยถาวร”


สำนักข่าวไทยยังคงเกาะติดเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิตรวม 4 ศพ ในบ่อนการพนันย่านพระราม 3 ล่าสุดมีรายงานว่าตำรวจทราบชื่อผู้เช่าอาคารและอยู่ระหว่างติดตามตัว รวมถึงกำลังรวบรวมหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับมือยิง “เสี่ยถาวร”

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยรายงานความคืบหน้าการสืบสวนเหตุยิงกันภายในอาคารพาณิชย์ย่านถนนพระราม 3 ซอย 66 จนมีผู้เสียชีวิต 4 คน ล่าสุดทราบชื่อผู้เช่าอาคารที่เกิดเหตุแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัว ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับนายถาวร สีสด และหลบหนีไป 1 คน ทราบเบาะแสแล้วว่าเป็นกลุ่มใด อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับ


มีรายงานเพิ่มเติมในประเด็นกล้องวงจรปิดว่า ขณะตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง และแพทย์นิติเวช เข้าตรวจสถานที่ก็ไม่พบกล้องวงจรปิด ซึ่งแตกต่างจากภาพที่ปรากฏตามสื่อ จึงเชื่อได้ว่ามีการเคลื่อนย้ายก่อนตำรวจมาถึง

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าสถานที่ที่ใช้เปิดบ่อนเป็นของ “เฮีย จ.” เปิดให้เช่า ในอดีตเมื่อ 8-9 ปี เคยถูกเช่าทำบ่อน แต่ถูกผู้มีอำนาจสั่งปิด ก่อนมีชาวต่างชาติชื่อ “โทนี่” เข้ามาเช่าต่อ แต่เปิดได้เพียง 3-4 เดือน ถูกปิดไปอีกครั้งนานกว่า 4-5 ปี ในช่วงรัฐบาล คสช. แต่กลับมาเปิดได้อีกเมื่อกลางปี 2562 โดยมี “เฮียตี้” เป็นเจ้าของ แม้ปิดไปช่วงที่เกิดโควิด-19 ระบาด แต่กลับมาเปิดได้อีกครั้ง

สำหรับรูปแบบการเปิดบ่อนพบว่าจะมีเพียง “เฮียตี้” เป็นเจ้าของบ่อน จากนั้นจะปล่อยให้เช่า “ขอน” (โต๊ะเล่นพนัน) มีประมาณ 14 โต๊ะ เป็นของบ่อน 3-4 โต๊ะ ที่เหลือจะให้เช่าต่อในอัตรา 300,000 บาทต่อ 8 ชั่วโมง หากเปิด 24 ชม. (3 กะ) และมีการเช่าเต็มทุกโต๊ะจะสร้างรายได้ 5-7 ล้านบาท หากเป็นห้อง VIP ราคาจะสูงขึ้นตามลำดับ


ข้อมูลของ “เฮียตี้” ก่อนหน้านี้เป็นลูกน้องของ “เสี่ย ป.” ก่อนผันตัวมาทำบ่อนเอง และมี “เสี่ย ป.” เป็นหุ้นส่วน ที่ผ่านมา “เฮียตี้” เคยเปิดบ่อนชื่อ “ซาหลักเก้า” หรือ 369 ที่เคยถูกพูดถึงในสภามาแล้ว ก่อนถูกปิดตัวลง และมาเปิดที่ย่านพระราม 3

ก่อนหน้านั้นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่าอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และหากพบพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักให้เชื่อว่าสถานที่เกิดเหตุเป็นบ่อนพนันจริงจะดำเนินการเต็มที่ พร้อมปฏิเสธข่าวตำรวจนอกเครื่องแบบยิงนายถาวร หลังเข้าไปตรวจสอบเหตุสารวัตรแม็กซ์ถูกยิง รวมถึงประวิงเวลาให้บุคคลภายในขนย้ายสิ่งของต่างๆ ในบ่อน หรือทำลายหลักฐาน ยืนยันนายถาวรเสียชีวิตก่อนสายตรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าหน้าที่ชุดแรก เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ล่าสุดกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดิมมีกำหนดแถลงความคืบหน้าคดี ขอเลื่อนการแถลงข่าวจากเดิมช่วงเย็นวันนี้ (5 ส.ค.) เป็นหลังเที่ยงวันพรุ่งนี้แทน

ด้านพันตำรวจเอกพิทักษ์ สุทธิกุล รองผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สน.ทุ่งมหาเมฆ ระบุว่า พรุ่งนี้ (6 ส.ค.) จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ ขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบความคืบหน้าจากร้อยเวรเจ้าของคดี เพราะติดภารกิจสัมมนา ส่วนความคืบหน้าการสอบปากคำพยาน รวมถึงการติดตามมือปืนที่ยิงนายถาวรเสียชีวิต อยู่ระหว่างดำเนินการ

ส่วนการตรวจสอบประเด็นปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนพนันในพื้นที่ พลตำรวจตรีสุคุณ พรหมายน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล คณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจหลังเกิดเหตุยิงกัน กล่าวว่า หลังจากนี้จะเรียกผู้เกี่ยวข้องประชุม พร้อมนำข้อเท็จจริงมาพิจารณา ทั้งกรณีมีชายฉกรรจ์พยายามเคลื่อนย้ายพยานหลักฐานในคดี และปกปิดสภาพที่เกิดเหตุ โดยจะรวบรวมภาพนิ่งที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์มาพิจารณา อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบข้อเท็จจริงจะแยกการสอบสวนคดีอาญา และไม่กำหนดกรอบเวลาทำงาน พร้อมกันนี้เตรียมเรียกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง และนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับบ่อนการพนัน โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบ

ส่วนความเคลื่อนไหวที่วัดจันทร์สโมสร เขตดุสิต บรรดาญาติและคนใกล้ชิดเดินทางเข้าร่วมงานรดน้ำศพนางสาวพีรญา นุ่มละมูล อายุ 44 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม เจ้าภาพงานไม่ได้ระบุชื่อ-นามสกุลผู้เสียชีวิต รวมถึงข้อมูลเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมบนกระดานหน้าศาลา และญาติขอไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยขอความเป็นส่วนตัวให้กับครอบครัวและเพื่อนผู้ตาย

ขณะที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ให้ความเห็นว่า กรรมาธิการฯ ต้องหาข้อเท็จจริง เพราะเชื่อว่ามีการทำลายหลักฐาน และเปิดประเด็นใหม่ว่าในสภาฯ มีการเล่นการพนัน

ด้านครอบครัวของนายถาวร สีสด หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุยิงในบ่อนพระราม 3 ได้นำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ปราจีนบุรี ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติ และเพื่อนๆ โดยจะสวดอภิธรรม 5 คืน และมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 10 สิงหาคมนี้

ขณะที่นางสงบ ศรีสด แม่ของนายถาวร บอกว่า เสียใจมากที่ลูกชายจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่คาดคิด ตอนนี้ตนและญาติพี่น้องพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เพียงบอกวิญญาณลูกชายขอให้ไปสู่สุขคติ และญาติจะดูแลลูกชายทั้ง 2 คนของนายถาวรอย่างดี ส่วนเรื่องคดีขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย