“เชน ธนา” ย้ำไม่ได้โกงคู่กรณี พร้อมพาสื่อชมสินค้ายังอยู่ครบ

เชนธนา

กทม. 23 พ.ย.-“เชน ธนา” ย้ำไม่ได้โกงคู่กรณี แต่อยู่ระหว่างรอคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พร้อมพาสื่อชมสินค้ายังอยู่ครบ ไม่ได้แอบขายเอาเงินไปใช้ตามข่าว

เวลา 10.00 น. นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือเชน อดีตนักร้องชื่อดัง ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัทอาหารเสริมอมาโด้พาสื่อมวลชนตรวจนับสินค้า ที่ค้างอยู่ในโกดังเก็บสินค้าของอมาโด้ ย่านบึงกุ่ม ซึ่งยังมีสินค้าค้างอยู่ในสตอกจำนวนกว่า 4,904,202 ซอง


โดยก่อนหน้านี้ถูกผู้บริหารบริษัท ไทยยินตัน จำกัด ประกอบกิจการนำเข้าสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น มาจำหน่ายในประเทศไทย ออกมาระบุว่าถูก “เชน ธนา” ฉ้อโกงไม่จ่ายค่าสินค้าเกือบ 80 ล้านบาท ซึ่งค้างชำระมาตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.64 ต่อมา “เชน ธนา” ได้ทำการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ยืนยันไม่ได้ฉ้อโกงบริษัทคู่กรณีแต่อย่างใด แต่เหตุที่ไม่จ่ายเงินจำนวน 79 ล้านบาท เนื่องจากสินค้าที่สั่งซื้อไม่ได้คุณภาพ อีกทั้งยังไม่สามารถ โฆษณาจำหน่ายสินค้าดังกล่าวได้เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้วางจำหน่ายสินค้าดังกล่าวภายในท้องตลาดภายในประเทศได้ กรณีนี้ คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมีการฟ้องร้องกันไปมาซึ่งคดียังอยู่ในชั้นศาล

บรรยากาศการนับสินค้าในวันนี้ สื่อมวลชนจำนวนมากทั้งสายบันเทิง สายอาชญากรรมและสายเศรษฐกิจต่างให้ความสนใจมาร่วม สังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก


ต่อมา “เชน ธนา” พร้อมด้วยฝ่ายกฎหมายได้ออกมาแถลงข่าวเปิดใจเคลียร์ประเด็นสาเหตุที่ยังไม่ชำระหนี้ดังกล่าว โดยมี 3 ปัจจัยว่า สาเหตุแรกเนื่องจาก การสั่งซื้อสินค้าล็อตที่ 2 เมื่อวันที่ 9 มี.ค.64 จำนวน 4,500,000 ซอง ซึ่งมีกำหนดต้องได้รับสินค้าในเดือน มิ.ย.64 แต่เมื่อวันที่ 24 มี.ค.64 พบว่าสินค้าที่ได้สั่งซื้อไปกับบริษัทคู่กรณี เป็นสินค้าไม่ตรงกับสรรพคุณที่เสนอขายไว้ทำให้ทางบริษัทของ “เชน ธนา” ไม่สามารถยื่นขอใบอนุญาตจัดทำฉลากและกล่องบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการโฆษณาขายสินค้าออนไลน์และจำหน่ายทุกประเภท ประกอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง อย. ได้ส่งเอกสารแจ้งมายังบริษัทตนเองว่ากล่องบรรจุภัณฑ์ผิด ตนในฐานะผู้บริหารบริษัทจึงจำเป็นต้องเรียกสินค้าเก่าที่ จำหน่ายไปแล้วทั่วประเทศกลับมา ซึ่งสินค้าจำหน่ายไปแล้วเป็นสินค้าล็อตแรกที่สั่งจากบริษัทคู่กรณี เพื่อทำการแก้ไขกล่อง แต่จนถึงขณะนี้ อย.ก็ยัง ไม่อนุญาตเนื่องจากผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพตามที่บริษัทเสนอขาย จึงทำให้เกิดความล่าช้าของการจำหน่ายสินค้าออกไปอีก

ที่ผ่านมา บริษัทของตนเองและบริษัทคู่กรณีได้มีการพูดคุยเจรจากันมาโดยตลอด จนกระทั่งบริษัทคู่กรณีตัดสินใจยื่นคำร้องขออนุญาต อย. เรื่องการโฆษณาและฉลากผลิตภัณฑ์ให้แต่ก็ไม่สำเร็จอีกเช่นกัน ทำให้ บริษัทของตนเองไม่สามารถโฆษณาและจำหน่ายสินค้าได้จึงยังไม่มีเงินไปชำระค่าสินค้าดังกล่าว อีกทั้งตนมองว่าสินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณาเสนอขายไว้ เมื่อตกลงกันไม่ได้ตนจึงตัดสินใจยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ขอให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าคู่กรณีผิดสัญญาซื้อขาย และขอยกเลิกสัญญา พร้อมขอให้คู่กรณีนำสินค้าคืนทั้งหมด คู่กรณียื่นคำร้องโต้แย้งขอให้ศาลมีคำสั่งให้บริษัทของตนชำระหนี้ ซึ่งศาลพิพากษาให้คู่กรณีชนะ ตนจึงได้ทำการยื่นอุทธรณ์ต่อขอให้ศาลพิจารณาว่าคู่กรณีโฆษณาสินค้าเกินจริงใช่หรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ซึ่งหากศาลอุธรณ์ พิพากษาว่าตนแพ้คดี ก็พร้อมยอมรับและชำระหนี้ แต่หากคู่กรณีแพ้ก็ต้องรับคืนสินค้าทั้งหมดไป

อย่างไรก็ตามสินค้ากว่า 4,904,202 ซอง ยังคงอยู่ในคลังสินค้าของบริษัทไม่มีการจำหน่ายออกไปแม้แต่ซองเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจกองปราบปรามรวมถึงบริษัทคู่กรณีได้เข้ามาทำการตรวจสอบแล้ว


สำหรับการแถลงข่าวในวันนี้ ตนแค่ต้องการออกมาชี้แจงต่อสังคม เพราะข่าวที่ออกไปทำให้บริษัทได้รับความเสียหายอย่างหนักจึงอยากใช้ โอกาสนี้แถลงยืนยันไม่มีเจตนาฉ้อโกงสินค้าที่สั่งซื้อมาทั้งหมดยังอยู่ครบ รอคำสั่งศาลอุธรณ์ พร้อมระบุว่าในช่วงที่ยังอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของศาลบริษัทของตนเองก็ได้รับความเสียหายเพราะสินค้าที่ อยู่ในคลังเริ่มทยอยหมดอายุ ทั้งที่ยังไม่ได้จำหน่ายออกไป อีกทั้งการโฆษณาสินค้าดังกล่าวในสื่อต่างๆ ที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ก็ได้ดำเนินการไปล่วงหน้าแล้ว บริษัทจึงเสียหาย จากการที่ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าดังกล่าวได้มิใช่น้อย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคดียังไม่สิ้นสุด แต่ที่ทางคู่กรณีออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวต่อสื่อมวลชน จะดำเนินการฟ้องร้องกับฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ “เชน ธนา” ระบุว่า ตอนนี้ตนไม่มีสมองไปคิดเรื่องนั้นเลยทุกวันนี้วิ่งเคลียร์ปัญหาภายในบริษัท มากกว่าเพื่อให้ผ่านวิกฤตินี้ไปได้ซึ่งต้องขอบคุณคู่ค้าและกลุ่มลูกค้า ที่ยังเชื่อมั่นในตัวเองและบริษัทอยู่จึงอยากใช้โอกาสนี้ร้องขอความเป็นธรรมจากสังคมให้มั่นใจว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องระหว่างบริษัทกับบริษัท ไม่ใช่เรื่องของบริษัทกับสังคม ที่สำคัญตนไม่ได้ฉ้อโกง

ส่วนกรณีที่คู่กรณีไปยื่นฟ้องในคดีอาญานั้น ครั้งแรกตนทราบมาว่า คู่กรณีไปแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม ซึ่งตำรวจกองปราบปรามมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เพราะเห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีแพ่ง ต่อมาอัยการกลับสั่งฟ้องซึ่งตนไม่ทราบเหตุผลในเรื่องดังกล่าวแต่ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหามาแล้วในวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนก็มีหน้าที่จะต้องดำเนินการต่อสู้คดีต่อไป ทั้งนี้ในระหว่างการสอบสวนคดีอาญาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกพยานไปยังคู่ค้ารายอื่น เพื่อสอบปากคำตนมีพฤติการณ์ฉ้อโกงหรือไม่ ซึ่งคู่ค้ารายอื่นก็ยังยืนยันว่าไม่พบพฤติการณ์ดังกล่าว.-414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย