สน.ดอนเมือง 31 ก.ค.- “ทนายเดชา” พาสองสาวผู้เสียหายแจ้งความ สน.ดอนเมือง เอาผิดอดีตข้าราชการซี 6 อ้างแอบถ่ายคลิปข่มขู่จะแบล็กเมล์
เวลา 14.00 น. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) เสื้อดำ และ น.ส.บี (นามสมมุติ) สองสาวผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.ท.โอสถ ผ่าโผน รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ดอนเมือง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีและติดตามความคืบหน้าของคดีถูกหนุ่มใหญ่วัยประมาณ 50 ปี อดีตข้าราชการ ซี 6 กระทรวงแห่งหนึ่ง อ้างลวงไปมีเพศสัมพันธ์แล้วถ่ายคลิปวิดีโอพร้อมข่มขู่จะแบล็กเมล์ หลังมีเหยื่อรายหนึ่งเคยแจ้งความแล้วยังไม่มีความคืบหน้า
น.ส.บี นามสมมุติ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่าเคยแจ้งความไว้เมื่อปี 2562 แต่ตกลงกันไว้ว่าจะไม่มีการโพสต์คลิปลับอีก แต่ผู้ก่อเหตุไม่หยุดพฤติกรรม และยังไปก่อเหตุกับหญิงสาวคนอื่นๆ อีก จึงมาแจ้งความไว้อีกรอบเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เพราะไม่อยากถูกคุกคามอีก หลังจากไปร้องขอความช่วยเหลือจากทนายเดชา เมื่อวันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุพยายามโทรศัพท์มาหาหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับสาย
น.ส.เอ (นามสมมุติ) เสื้อดำ ผู้เสียหายอีกคน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุยังอัดคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์และส่งผ่านไลน์มาหาตน พร้อมระบุข้อความในทำนองว่า เปิดสมาชิกเข้ากลุ่มเพื่อรับชมวิดีโอ และยังขู่ว่า รู้ว่าตนอยู่ที่ไหน ใช้บัตรกดเงินสดที่ไหน ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยต่อการใช้ชีวิต และยังมีพฤติการณ์ตามข่มขู่ ทำให้ต้องย้ายบ้านหนี จึงต้องการให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้านทนายเดชา เผยว่าจากการตรวจสอบ ตำรวจได้มีการออกหมายเรียกในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แล้ว แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่มาพบ และผู้ก่อเหตุยังคงมาข่มขู่คุกคามผู้เสียหายต่อเนื่อง และวานนี้ตำรวจ สน.ดอนเมือง ได้เรียกสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม จึงอาจมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ และข้อหาอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกประมาณ 6 คน ที่ยังไม่ได้มาแจ้งความ อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุยังเคยเป็นข้าราชการซี 6 สังกัดกระทรวงแห่งหนึ่งอีกด้วย จึงอยากให้ตรวจสอบพฤติกรรม
ด้าน พ.ต.ท.โอสถ กล่าวว่าหลังสอบปากคำ น.ส.บี ผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว ตอนนี้กำลังพิจารณาการกระทำความผิดกับผู้บังคับบัญชา พร้อมรวบรวมข้อมูลที่ผู้ก่อเหตุเคยกระทำไว้เมื่อปี 2562 เพื่อตรวจสอบว่ามีคดีใดหมดอายุความแล้วหรือไม่ เบื้องต้นการที่ผู้ก่อเหตุ ข่มขู่ผู้เสียหาย ว่าหากไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์แล้วจะปล่อยคลิปลามกนั้น เข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ ส่วนผู้เสียหายอีกคนจะสอบปากคำ พิจารณาพฤติการณ์ของการก่อเหตุ หากพบว่าเข้าข่ายความผิดในข้อหาใด จะดำเนินคดี ในทุกข้อหา
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุ ยังไม่พบว่ามีหมายจับค้างเก่า แต่พบว่าศาลอาญาเคยสั่งจำคุกในคดีความลักษณะเดียวกันมาก่อน ทั้งนี้ สน.ดอนเมือง จะสอบปากคำผู้เสียหายพร้อม จะประสาน ข้อมูล กับ ตร. สน.ทุ่งสองห้อง หลังพบความผิดเกี่ยวเนื่องกันใน 2 ท้องที่ .-สำนักข่าวไทย