จับลอบขนเมียนมาเข้าประเทศ 53 คน

กทม.21 พ.ค.- ตำรวจ ตม.ไล่ล่าจับกุม 2 หนุ่มไทย รวมหัวขนต่างด้าวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง 53 คน


พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงผลตั้งจุดตรวจ จุดจสกัดกั้นการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ บริเวณถนนพหลโยธิน ขาเข้า กทม. ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ โดย ตม.จว.นครสวรรค์ ได้ทำการจับกุมตัว นายสมศักดิ์ พร้อมรถยนต์กระบะ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมแรงงานผิดกฎหมาย จำนวน 28 คน และ ได้ร่วมกับ จนท.ทล.4 กก.1 บก.ทล. สกัดจับนายคมสันต์ พร้อมรถยนต์กระบะ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แรงงานผิดกฎหมาย จำนวน 25 คน รวมผู้ต้องหาคนไทย 2 คน แรงงานต่างด้าว 53 คน                       

จากการสอบปากคำผู้ต้องหารับสารภาพว่ามีผู้ว่าจ้างให้เดินทางไปรับแรงงานต่างด้าวทั้ง 53 คน ลักลอบเดินทางไปทำงานในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล ขณะนี้อยู่ในระหว่างสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย       เหตุเกิด บนถนนสาธารณะหมู่บ้านลำร้อง ม.2 ต.แม่ต้าน อ.ท่าสองยาง จว.ตาก


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือ ด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นการจับกุม ฝ่าฝืนข้อบังคับตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และฝ่าฝืนคำสั่ง ผจว.นครสวรรค์ (ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าพื้นที่) และกล่าวหาคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ทั้ง 53 คน ว่า “เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนข้อบังคับตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และฝ่าฝืนคำสั่ง ผจว.นครสวรรค์ (ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าพื้นที่) นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่ง พงส.สภ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย