กรุงเทพฯ 15 ต.ค.- กอร.ฉ.เตือนเยาวชนและนักศึกษา ตระหนักในข้อกฎหมาย และระมัดระวังในการแสดงออก ชุมนุมตามสิทธิกับสถานการณ์ฉุกเฉินไม่เหมือนกัน หากทำผิด เจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตได้
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ประกาศเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมแยกราชประสงค์โดยเฉพาะที่เป็นเยาวชนและนักศึกษา โดยให้ตระหนักในข้อกฎหมาย และระมัดระวังในการแสดงออก หลังรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ต.ค.63 เวลาประมาณ 14.00 น. ซึ่งทางรัฐบาลได้เห็นว่าสถานการณ์การชุมนุมมีลักษณะปลุกระดมให้มีการชุมนุมโดยไม่สงบเรียบร้อย ทำให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย จึงได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร โดยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป จึงทำให้การปฏิบัติและข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิบัติเปลี่ยนไปเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านคดีอาญา ซึ่งตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 36/2563 ลง 15 ต.ค.2563 กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และมีอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความอาญาด้วย
จึงฝากเตือนไปยังกลุ่มเยาวชนและนักศึกษา ให้คำนึงถึงสถานการณ์ดังกล่าว ที่บางท่านอาจยังไม่ทราบหรือไม่ได้นึกถึงประเด็นนี้ ในภาวะนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาปกติ แต่เป็นภาวะสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปฏิบัติการตามลำดับตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก โดยเริ่มจากการประชาสัมพันธ์ การระงับยับยั้ง และการจับกุมในที่สุด จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังเยาวชนและผู้ปกครองให้คำนึงถึงเรื่องดังกล่าว เตือนตนเองและผู้ใต้ปกครองที่จะเข้าร่วมการชุมนุมด้วยว่า ต้องเคารพกฎหมาย ถ้าหากว่าเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาแล้ว ทำผิดกฎหมายแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคต และประวัติในการทำงานได้.-สำนักข่าวไทย