กทม.1 ก.ย.-ผบ.ตร. เป็นประธานวันสถาปนากองบังคับการปราบปราม ปีที่ 72 พร้อมเยี่ยมชมผลการปฏิบัติการติดตามจับผู้ต้องหาได้กว่า 2,500 คดีในรอบปีที่ผ่านมา
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานพิธีวันสถาปนากองบังคับการปราบปราม ครบรอบปีที่ 72 มีพลตำรวจตรีจิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม และตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้การต้อนรับ
ภายในงานยังมีอดีตผู้บังคับบัญชา เช่น พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจตรีประสพโชค พร้อมมูล อดีตผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและแขกผู้มีเกียรติจำนวนมาก
หลังเดินตรวจกองเกียรติยศ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบัน พร้อมเยี่ยมชมร้านค้าสวัสดิการ รับฟังรายงานผลการปฏิบัติงานของกองปราบปรามในรอบปีที่ผ่านมา โดยมีผลงานสำคัญ เช่น การจับกุมนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี ที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าที่จังหวัดลพบุรี , คดีการจับกุมพันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ ที่ก่อเหตุฆ่าเผานั่งยางพี่ชายผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอาญากรุงเทพใต้ และยับยั้งไม่ให้เกิดการก่อเหตุหลบหนีระหว่างถูกควบคุมตัวในเรือนจำ , คดีการบุกจับร้านค้าทองที่รับฟอกเงินให้ขบวนการค้ายาเสพติด ที่พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท สรุปผลการจับกุมคดีค้างเก่าและใหม่ได้กว่า 2,500 คดี ในรอบปีที่ผ่านมา และการปฏิบัติงานของกองปราบปรามในยุคปัจจุบัน เช่น การใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการสื่อสารกับประชาชน จนมีผู้ติดตามกว่า 1,200,000 คน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเป็นประธานมอบโล่รางวัลเกียรติยศ ให้ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น 16 นาย มอบสิ่งของช่วยเหลือตำรวจกองปราบปราม และไปเยี่ยมชมห้องฝึกซ้อมยิงปืน และทดลองการยิงผ่านการจำลองสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆด้วย
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ กล่าวว่า การฝึกยิงปืนเป็นการลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แม้แต่ตนก็ยอมรับว่าต้องหมั่นฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา และการฝึกในหลักสูตรของกองปราบที่มีทั้งการฝึกยิงเป้าจำลองด้วยระบบซีมูเลเตอร์ การใช้กระสุนปืนยิงในการจำลองสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆ ที่มีกว่า 1,000 สถานการณ์ จะช่วยให้ตำรวจเรียนรู้การตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น สอดคล้องกับการปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่คนร้ายมีแนวโน้มการใช้ความรุนแรงในการก่อคดีเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย